คิดแบบนี้ก็เป็นได้แค่"ซ้ายไร้เดียงสา"? "อ.สุวินัย"สอนมวย“ไพร่หมื่นล้าน” ปมยุรัฐเลิกอุปถัมภ์ศาสนา สุดอันตราย-ไม่ต่างเรดการ์ดยุคปฏิวัติจีน

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

 

หลัง “ไพร่หมื่นล้าน” อย่าง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่แตะมือกับ "นายปิยะบุตร แสงกนกกุล" อาจารย์ "กลุ่มนิติราษฎร์" จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดตัว “พรรคอนาคตใหม่"โดยชูประเด็นคนรุ่นใหม่...อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง มุ่งมั่นเชิดชูและเทิดทูนคุณค่าประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และความเสมอภาคในความเป็นมนุษย์ ฯลฯ (และอีกหลายถ้อยความที่ล้วนยูโทเปีย-ผู้เขียน)

 
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายต่างมองไปในทิศทางเดียวกันว่า "พรรคของไพร่หมื่นล้าน" นั้น เอาเข้าจริงมุ่งหวัง "สร้างการเมืองใหม่-อนาคตใหม่" ตามกล่าวอ้างหรือไม่ เพราะผู้ร่วมก่อตั้งหลักทั้ง 2 คนล้วนเคยเคลื่อนไหวหมิ่นเหม่ในประเด็นสถาบันฯ เบื้องสูงมาโดยตลอด และหลังก่อตั้งพรรคแล้วยังมีทีท่าว่าจะเดินหน้าเรื่องนี้

 

นั่นจึงไม่น่าแปลกใจนักที่....ความคิดสุดโต่งของ "ธนาธร" จะทำให้เขาถูกขุดคุ้ยสิ่งที่เคยพูด หรือกระทำในอดีตออกมาตีแผ่ให้สังคมได้เห็นตัวตนอย่างต่อเนื่อง และที่กำลังเป็นประเด็นร้อนฉ่าก็คือกรณีที่สังคมออนไลน์ ได้ขุดคุ้ยบทสัมภาษณ์ที่เขาให้สัมภาษณ์กับ  นิตยสาร GM ฉบับเดือนพฤษภาคม 2560 หรือกว่าเกือบ 1 ปีก่อน และเผยแพร่ผ่าน gmlive.com ในหัวเรื่อง "The Edge of Life ไปให้สุดขั้ว สัมภาษณ์แบบ “ดิ่งลึก” กับธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ"

 

โดยบทสัมภาษณ์ดังกล่าว พูดถึง Life Style ของธนาธรในแง่มุมต่าง ๆ แต่ช่วงหนึ่งเขากลับวกไปแตะเรื่องทางศาสนา โดยระบุตอนหนึ่งทำนองว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นใน 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ของบ้านเรานั้น แท้จริงมาจากการที่รัฐบาลเข้าไปอุปถัมภ์ศาสนาพุทธ ซึ่งเขามองว่าการกระทำดังกล่าวของภาครัฐฯ ผู้คนที่อยู่ใน 3 จังหวัด แง่หนึ่งก็เหมือนเป็นพลเมืองชั้นสอง เพราะไม่มีที่ยืนที่เท่าเทียมกันกับคนที่นับถือศาสนาพุทธ ดังนั้น เขาจึงคิดว่ารัฐควรจะถอยตัวเองออกมาจากเรื่องศาสนา ไม่ควรจะอุปถัมภ์ศาสนาอะไรเลย

ดังคำถาม-คำตอบที่ GM ถาม และตัว ธนาธรตอบด้วยถ้อยความข้างล่าง คือ

GM : เราพูดถึงเรื่องหนังสือเยาวชนที่สังคมไทยมุ่งสอนเรื่องคุณธรรมมากกว่าจินตนาการ แล้วส่วนตัวคุณเชื่อในศาสนาไหม

ธนาธร : ผมคิดว่าทุกคนมีพระเจ้าของตัวเอง แล้วคุณก็คุยกับพระเจ้าของคุณเองได้โดยไม่ต้องผ่านวัด โบสถ์ หรือมัสยิด คุณคุยกับพระเจ้าของตัวคุณได้ แม้กระทั่งระหว่างการวิ่ง คุณก็คุยกับพระเจ้าได้ คุณไม่ต้องไปตักบาตร ไปมิสซา หรือละหมาดเพื่อจะคุยกับพระเจ้า สิ่งที่ผมเชื่อก็คือศรัทธาทางศาสนาควรจะเป็นศรัทธาที่เปิดกว้าง และไม่ควรมีวัดหรือศาสนา หรือองค์กรใดมาบังคับหรือเชิดชูความเชื่อใดความเชื่อหนึ่งให้มากกว่าความเชื่ออื่นๆ เช่น รัฐไทยไม่ควรจะอุปถัมภ์ศาสนาพุทธ เพราะมันทำให้ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แก้กันไม่จบ ผู้คนที่อยู่ใน 3 จังหวัด แง่หนึ่งก็เหมือนเป็นพลเมืองชั้นสอง เพราะไม่มีที่ยืนที่เท่าเทียมกันกับคนที่นับถือศาสนาพุทธ ผมคิดว่ารัฐควรจะถอยตัวเองออกมาจากเรื่องศาสนา ไม่ควรจะอุปถัมภ์ศาสนาอะไรเลย ที่นี่คุณจะนับถือยูดาย คุณจะนับถือเต๋า นับถือเซนก็ได้ เหมือนอย่างธรรมกาย ต่อให้ไม่เห็นด้วยกับธรรมกาย รัฐก็ไม่ควรไปยุ่ง ปัญหาคือถ้ารัฐไปยุ่ง มันก็จะซับซ้อนวุ่นวายไปหมด
 
นองจากนี้ ธนาธร ยังระบุว่า เมื่อเร็วๆ นี้ มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ เมืองจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ มีผู้ลงสมัครผู้ว่า 2 คน คนหนึ่งเป็นผู้สมัครที่นับถือศาสนาอิสลาม อีกคนหนึ่งเป็นผู้สมัครที่นับถือคริสต์ สิ่งที่น่าตลกมากก็คือ ผู้สมัครที่นับถือศาสนาคริสต์เคยเป็นผู้ว่ามาก่อนและมีผลงาน ประชาชนชอบผลงาน แต่อินโดนีเซียเป็นประเทศที่ประชากรมุสลิมหนาแน่น แล้วมีป้ายหนึ่งในมัสยิดของพวกหัวรุนแรงเขียนว่า ‘การเลือกผู้ว่าที่ไม่ใช่ศาสนาอิสลามถือว่าผิดหลักศาสนา’ นี่คือการเอาเรื่องรัฐกับเรื่องศาสนามาเกี่ยวข้องกัน ซึ่งผมเห็นว่าไม่ควร

 

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ข่าวนี้ถูกหยิบกลับมาเผยแพร่อีกครั้ง ก็มีผู้รู้ในสิ่งเหล่านี้ออกมาสอนมวยในความเห็นไร้เดียงสาของธนาธรในทันที และถึงแม้เจ้าตัวจะออกมาชี้แจงกรณีนี้ โดยอ้างว่า สิ่งที่เขาแสดงความคิดเห็นไว้ถูกตัดออกมาจากบริบทของมัน และการแสดงความเห็นที่กระทำไว้นานแล้ว ก่อนการเกิดขึ้นของพรรคเสียอีก ดังนั้นมันจึงเป็นการแสดงความคิดเห็นในฐานะส่วนตัว ไม่ใช่เพิ่งแสดงความคิดเห็นเร็วๆ นี้ ฯลฯ

แต่อย่างที่กล่าวไว้แต่ต้น แม้เจ้าตัวจะโบ้ยว่าเป็นเรื่องเก่า แต่ความหมิ่นเหม่นทางความคิดก็ยังไม่อาจกลบให้มิดได้ ล่าสุด ต่อกรณีนี้ "อ.สุวินัย ภรณวลัย" นักวิชาการชื่อดัง ได้ออกมาแสดงความเห็นเอาไว้อย่างน่าสนใจ โดยระบุทำนอง ข้อเสนอธนาธรในเรื่องดังกล่าว ถือว่าสุดโต่งมากๆ อันตรายมากๆ และไร้เดียงสามากๆ แนวคิดแบบนี้ น้องๆ พวกเรดการ์ดในยุคปฏิวัติวัฒนธรรมของจีนเลยทีเดียว

โดยรายละเอียดทั้งหมดที่ "อ.สุวินัย" ระบุไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัวกรณีนี้ คือ

โดยส่วนตัว ผมหนักใจเรื่องการขาดความรู้ในทางธรรม-ภูมิธรรม-ความเข้าใจในปัญหาศาสนาที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากๆของตัวแกนนำพรรคอนาคตใหม่อย่างคุณธนาธรนะครับ
ข้อเสนอของคุณธนาธรที่ให้รัฐไม่ต้องอุปถัมภ์ศาสนาอะไรเลยนั้น ผมถือว่าสุดโต่งมากๆ อันตรายมากๆ และไร้เดียงสามากๆ

 

แนวคิดแบบหัวรุนแรง (radical) ของคุณธนาธรในเรื่องปัญหาศาสนานั้น น้องๆพวกเรดการ์ดในยุคการปฏิวัติวัฒนธรรมของประเทศจีนเลยครับ

 

คุณธนาธรอยู่ในโลกของความคิดตัวเองมากกว่าโลกของข้อเท็จจริงในปัจจุบันครับ
ปัญหาทางความคิดของตัวคุณธนาธรที่ผมเห็นคือแกมโนเอง ปรุงแต่งความคิดด้วยอัตตาความเชื่อของตัวแกเองมากกว่าเคารพข้อเท็จจริงในปัจจุบันครับ เรื่องปัญหาเศรษฐกิจแกก็มโนเองครับ

 

นอกจากนี้ อ.สุวินัย ยังขยายความอีกว่า "ปัญหาทางความคิดของตัวคุณธนาธรที่ผมเห็นคือแกมโนเอง ปรุงแต่งความคิดด้วยอัตตาความเชื่อของตัวแกเองมากกว่าเคารพข้อเท็จจริงในปัจจุบันครับ เรื่องปัญหาเศรษฐกิจแกก็มโนเองครับ"

 

คิดแบบนี้ก็เป็นได้แค่"ซ้ายไร้เดียงสา"? "อ.สุวินัย"สอนมวย“ไพร่หมื่นล้าน” ปมยุรัฐเลิกอุปถัมภ์ศาสนา สุดอันตราย-ไม่ต่างเรดการ์ดยุคปฏิวัติจีน

 

ขอบคุณข้อเขียน : "อ.สุวินัย ภรณวลัย"