- 22 มี.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวระหว่างการลงพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภูว่า ซึ่งมีเนื้อหาที่น่าสนใจหลายประเด็นทั้งเรื่องการเมือง ประชาธิปไตย รวมทั้งการชุมนุมที่ผ่านมา และต่อไปก็ไม่อยากให้ประชาชนเดินทางไปร่วมอีกโดยมีบางช่วงสำคัญดังนี้
“ประชาธิปไตย ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ แต่ต้องไม่ทิ้งเสียงส่วนน้อย ใครเป็นรัฐบาลต้องไม่ทิ้งฝ่ายค้าน เพราะเขามีประชาชนที่จะต้องดูแลเหมือนกัน รัฐบาลนี้คิดแบบนี้ จะได้มั่นคงเสียที ไม่ต้องไปกลัวใครฝ่ายไหนจะได้ ไม่ได้เป็นบุญคุณกันตลอดไป ไม่ได้อะไรขึ้นมาใหม่ ก็ได้เหมือนเดิม วันหน้าน่าจะดีขึ้น
ทุกประเทศชื่นชมประเทศไทย แต่เขาถามว่า ทำไมประเทศไทยวุ่นวายกันนัก ประเทศอื่นเขาส่งคนไปสำรวจจะไปอยู่โลกไหนกันแล้ว ถ้าโลกนี้อยู่ไม่ได้ เขาเตรียมการแล้ว แต่ประเทศไทยยังเริ่มต้นประชาธิปไตยเปาะแป๊ะๆ อยู่ กี่ปีมาแล้ว ประชาธิปไตยมาจากประชาชนชาวไทย ไม่ใช่ประชาชนกลุ่มนี้ๆ เป็นปวงชนชาวไทยทุกกลุ่มทั้งหมด ทั้งนี้รัฐธรรมนูญเขียนไว้ 200 กว่ามาตรา ท้ายสุดต้องไปดูพระราชบัญญัติต่างๆ แต่นี่เอารัฐธรรมนูญมาทะเลาะกันอย่างเดียวไม่ได้ กฎหมายลูกมีเป็นร้อยเป็นพัน
อย่าให้ใครมาปลุกปั่น ไปประท้วงหน้าทำเนียบรัฐบาล อย่าไปเลยเสียเวลาเสียเงินเสียทอง อยู่บ้านนอน มีอะไรส่งศูนย์ดำรงธรรม ผมแก้ให้หมด แก้มากแก้น้อย แก้เร็ว แก้ช้า ก็ว่าไปตามกลไก อย่าไปประท้วง อย่าให้ใครเขาปลุกปั่นอีกเลย ไม่เกิดประโยชน์กับท่านหรอก คนอื่นเขาเดือดร้อนไม่ได้ ต้องไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น”
อย่างไรก็ตามมีรายงานด้วยว่าระหว่างที่นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวอยู่นั้น ได้หันไปถามประชาชนว่า “เคยไปทำเนียบฯ หรือเปล่า ไปประท้วง” ก่อนจะกล่าวต่ออีกว่า “ใครเขาชวนอย่าไปอีกเลย ไปแล้วอันตราย วันหน้าอย่าให้เกิดอีกนะ รัชกาลนี้ต้องไม่มีนะ พระเจ้าอยู่หัวท่านทรงทอดพระเนตรอยู่ ท่านทรงทำไว้เยอะแยะแล้ว รัชกาลนี้ต้องไม่มีเรื่องที่มันไม่ดีเกิดขึ้นอีก
เราต้องทำให้สิ่งดีๆ ร่วมกัน เพื่อลูกหลานในอนาคต เราเดี๋ยวก็แก่ตาย ผม 64 เข้าไปแล้ว วันนี้ถือว่า มาให้ของขวัญวันเกิดตัวเอง เพราะวันเกิดเมื่อวานนี้ คือการมาเจอพวกเรา ผมต้องการของขวัญจากท่านคือความร่วมมือร่วมใจเท่านั้น ไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น ใครเคยโกรธเกลียดกันเลิกโกรธเลิกทะเลาะกัน ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย หาส่วนดีเขาให้เจอแล้วคบเขาให้ได้ เขาจะได้ดีขึ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว