"บ้านเมืองไม่ใช่เรื่องเด็กเล่น ไม่ใช่ที่ลองของพวกร้อนวิชา คนที่หลงบ้าแต่ความคิดตนจะเป็นผู้นำที่อันตราย" บทชำแหละแก๊งไพร่ล่าสุดจาก"อ.สุวินัย"

 

ดูเหมือนการก่อเกิด "พรรคอนาคตใหม่" ของ “ไพร่หมื่นล้าน - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่แตะมือกับ "อดีตอาจารย์นิติราษฎร์" อย่าง "นายปิยะบุตร แสงกนกกุล" เมื่อสัปดาห์ 2 สัปดาห์ก่อนจะกลายเป็น "ทอล์ค ออฟ เดอะทาวน์" ในทางการเมืองไม่รู้จบจริง ๆ ล่าสุดแม้แต่  "นายพิภพ ธงไชย" อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และอดีตประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ซึ่งนับเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองรุ่นใหญ่ ที่น้อยครั้งจะออกโรงวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นยังอดรยทนไม่ได้ ต้องออกมาเตือนธนาธรดัง ๆ ว่า "ระวังจะกลายเป็น"นักป้ายสีซ้อนป้ายสี" เสียเอง"

หลังเจ้าตัวไปให้สัมภาษณ์ THE STANDARD ช่วงหนึ่งว่า "ทักษิณถูกป้ายสีทางการเมือง"

 

ขณะที่ทางด้าน นักวิชาการชื่อดังที่เกาะติดการก่อเกิดของ "พรรคอนาคตใหม่" มาตั้งแต่ต้นอย่าง "อ.สุวินัย ภรณวลัย" ซึ่งเป็นบุคคลแรก ๆ ที่เรียกร้องให้สังคมเปิดโอกาสการเข้าสู่การเมืองของ "แก๊งไพร่หมื่นล้าน" เพราะเห็นว่าอาจเป็นทางเลือกใหม่ให้กับสังคมไทย แม้ในความจริง อ.สุวินัย จะมีจุดยืนทางการเมืองต่างขั้วกับแก๊งไพร่อย่างฟ้ากับเหว

 

และเมื่อเห็นแนวคิดที่บิดเบี้ยวของทั้ง 2 หัวหอกของ "พรรคอนาคตใหม่" ที่นำเสนออกมา ฮ.สุวินัยก็ท้วงติงมาโดยตลอด ล่าสุด เจ้าตัวได้เขียนบทความอีกครั้งชื่อ "บททดสอบของปิยบุตร บททดสอบของธนาธร" รอบนี้นับว่าเปลื้องเปลือยไปถึงแก่นคิดที่ติดตัวมาของ  2 หัวหอก "อนาคตใหม่" เลยทีเดียว ดังรายละเอียดทั้งหมดที่ระบุ คือ

 

บททดสอบของปิยบุตร บททดสอบของธนาธร/ สุวินัย ภรณวลัย

บททดสอบทำให้เรารู้ภาวะจิตของตนเอง ไม่ว่าบททดสอบนั้นจะอยู่ในเวทีการเมือง หรือในตลาดการลงทุน หรือในการทำธุรกิจ หรือแม้กระทั่งในสนามรัก

การที่เราอยู่ท่ามกลางโลกโลกีย์และโลกโซเชียล มันเลี่ยงไม่พ้นที่เราต้องเจอบุคคลทุกๆประเภทที่มีจิตใจแตกต่างหลากหลายกัน เพราะฉะนั้นเราจึงต้องอาศัยใจเดิมของเราที่เป็นจิตผุดผ่องมาเป็นประธาน เพื่อที่เราจะได้ผ่านพ้นวิกฤตเรื่องราวปัญหาต่างๆที่พบพานโดยไม่ยึดมั่นถือมั่น

นี่คือสิ่งที่เราจะต้องฝึกฝนโดยหมั่น "ดูจิต" "ดูความคิด"ตนเองจนจิตของเราตั้งมั่นเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมอย่างเป็นเช่นนั้นเอง

เมื่อใจของเราคิดอะไร ใจของเราก็จะผลักดันให้เราไปสู่สิ่งสิ่งนั้น อันนี้คือความแยบยลของฟ้า

ในเมื่อใจของปิยบุตรหมกมุ่นครุ่นคิดเขียนเกี่ยวกับ"การปฏิวัติฝรั่งเศส" เป็นตอนๆมาอย่างยาวนาน มันจึงหลีกเลี่ยงได้ยากที่จะไม่ให้ใจของปิยบุตรไม่ผลักดันปิยบุตรไปสู่สิ่งนั้น

การที่คนเราหมกมุ่นแต่ความคิดตัวเองไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะคนที่ไม่สามารถ "เห็นจิต" "เห็นความคิด"ตัวเองอย่างรู้สึกตัวทั่วพร้อม ล้วนแล้วแต่หมกมุ่นยึดติดในความคิดของตัวเองทั้งสิ้น โดยที่ใจเราคิดแบบหมกมุ่นในสิ่งใด ใจของคนนั้นก็จะผลักดันให้ผู้นั้นมุ่งไปสู่สิ่งนั้นโดยไม่รู้ตัว (โดยที่เจ้าตัวเองไม่มีสติสัมปชัญญะพอที่จะ "รู้"ว่าตัวเองบ้าอยู่กับความคิดของตัวเอง)

ใจของปิยบุตรหมกมุ่นอยู่กับเรื่องการปฏิวัติฝรั่งเศสและการประยุกต์แนวคิดการปฏิวัติฝรั่งเศสมา "จัดการกับมรดกของคณะรัฐประหาร"โดยกฏหมาย

ขณะที่ใจของธนาธรนั้นหมกมุ่นอยู่กับความคิดเรื่องความเสมอภาคอย่างรู้สึกขัดแย้งในตนเองที่มีสถานะเป็น "ไพร่หมื่นล้าน" ความรู้สึกลึกๆของธนาธรที่ขัดแย้งในตนเองเรื่องความเสมอภาค/คนเหมือนกันนี้แหละ ที่ผลักดันจากข้างในให้ธนาธรกลายเป็น "นักผจญภัย"ที่บ้าบิ่นชอบความท้าทายถึงขีดจำกัดสุดๆ เพราะมีแต่ในสภาวะจิตแบบนั้นเท่านั้นที่จะทำให้ธนาธรสามารถยุติความขัดแย้งในตนเองชั่วคราวแบบ "สมถะ" ได้

แต่บ้านเมืองไม่ใช่เรื่องเด็กเล่น บ้านเมืองไม่ใช่เป็นที่ลองของของพวกร้อนวิชา หรือพวกมีปมขัดแย้งทางความคิดในใจตนเองบางอย่าง

คนที่หลงบ้าแต่ความคิดตนเองจะเป็นผู้นำทางการเมืองที่อันตราย มีแต่คนที่รักห่วงชีวิตของประชาชนจริงๆเท่านั้นจึงจะเป็นผู้นำแบบมหาบุรุษที่สามารถนำพาผู้คนไปสู่การเมืองใหม่และอนาคตใหม่ได้จริง

ถ้าประชาชนได้อำนาจแล้วสามารถแสดงเจตนารมย์ในรัฐธรรมนูญว่า "ต้องไม่มีการทำรัฐประหารอีกโดยคณะอำนาจใดๆ" อันนี้ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง
เพราะอำนาจของประชาชนย่อมเหนือกว่ากฏหมายและสามารถกำหนดความจริงได้

แต่การออกมาเสนอข้อเสนอเพื่อเช็คบิล ชำระแค้นคณะรัฐประหารคสช.ตั้งแต่พวกตัวเองเพิ่งจดทะเบียนก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ได้ไม่กี่วันเลย ทำให้มองเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากความอ่อนหัดทางการเมืองเท่านั้น รังแต่จะถูกพวกนปช. และพวกเสื้อแดงลี้ภัยหลอกใช้ เกาะกระแส จนตัวเองถูกรุมยำเละและ "ตายทางการเมือง" อย่างเลอะเลือนเท่านั้น

ตื่นรู้เถิดปิยบุตร ตื่นรู้เถิดธนาธร ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

 

 

ขอบคุณข้อเขียน : "สุวินัย ภรณวลัย"

อ่าน "ไม่ศึกษาแม้แต่คำพิพากษา แต่อยากเป็นใหญ่"?อีกวลีเด็ดที่"อ.สุวินัย"ทิ่ม"ไพร่ธนาธร" หลังเจ้าตัวมั่วแบบคนมืดบอดว่า"ทักษิณถูกใส่ร้ายทางการเมือง"