ออกมาถ่มน้ำลายรดฟ้า แต่กลับตกใส่หน้าตัวเอง !! “ไพร่หมื่นล้าน” จากนายทุนที่ผันตัวมาเล่นการเมือง ขายฝันเสนอตัว??

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

นับวันจะร้อนแรงดุเดือดเข้มข้นมากขึ้นทุกขณะสำหรับ “พรรคอนาคตใหม่” ที่มีผู้นำอย่างนายนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานบริษัทไทยซัมมิท ร่วมกับ นาย.ปิยบุตร แสงกนกกุล นักวิชาการสายนิติราษฎร์ เป็นแกนนำโดยมีการเผยแพร่แนวคิดสุดโต่ง  โดยเฉพาะแนวคิดต่แสถาบันพระมหากษัตรย์ ซึ่งจับตามองการเคลื่อนไหวของพรรคการเมือง พรรคนี้เป็นพิเศษ

 

ขณะที่ทางผู้ใช้เฟสบุ๊ค ที่ใช้ชื่อว่า “วัลลภ สุทธิ”  ซึ่งเป็นผู้ที่ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองมาโดยตลอด ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเกิดขึ้นของ “พรรคอนาคตใหม่” เช่นกัน โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

 

ถ่มน้ำลายรดฟ้า

........

ถ้าเป็นคนที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการดำรงชีวิต อันเนื่องมาจากความยากจนซ้ำซาก คือยากจนตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ ยาวมาจนถึงลูกหลานในปัจจุบัน พบเจอปัญหาความไม่เท่าเทียมในสังคม ถูกจัดให้เป็นชนชั้นต่ำ รากหญ้า จากการแบ่งชั้นวรรณะของคนในสังคมด้วยกันด้วยฐานะทางการเงินหรืออาชีพที่ทำ หรือปัญหาอื่นๆ อันเกิดจากชาติกำเนิด เผ่าพันธุ์ หรือเป็นคนต่างด้าวท้าวต่างแดนที่อพยพมาทำมาหากินในบ้านนี้เมืองนี้ แล้วถูกกดขี่ข่มเหงอย่างไม่มีวันได้ลืมตาอ้าปาก

หากเป็นเช่นที่ว่ามานี้ ยังพอจะเข้าใจได้ถึงเหตุผลที่จะออกมาเป็นผู้นำสังคมเรียกร้องหาความเสมอภาคเท่าเทียม และเป็นธรรม เรียกร้องหาความเป็นอยู่ที่ดี เพื่อสังคมส่วนรวม

 

.......

น่าแปลกใจ ที่คนที่พยายามจะออกมานำสังคม อ้างสิทธิ เสรีภาพและความเท่าเทียมในยุคนี้ กลับเป็นผู้มีอันจะกินยิ่งนัก เป็นนักธุรกิจชั้นแนวหน้า เป็นนายทุนผู้ประกอบการที่ร่ำรวยมั่งคั่งระดับ อภิมหาทุน ทั้งระดับที่ถูกยึดทรัพย์ถึงสี่หมื่นหกพันล้าน ก็ไม่สะทกสะท้าน ไม่สั่นสะเทือนอันใด หรือร่ำรวยในระดับที่มีฉายาว่า ไพร่หมื่นล้านอันเนื่องมาจากการเป็นลูกหลานนายทุน ที่หอบเสื่อผืนหมอนใบมาประกอบอาชีพในดินแดนเสรีที่ให้โอกาสทุกคนได้ทำมาหากิน ดังคำกล่าวในอดีตที่ว่า ใครใคร่ค้าช้างค้า ใครใคร่ค้าม้าค้า หากสถาบันใดจะเป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิต หรือประกอบธุรกิจ ไหนเลยจะมั่งคั่งร่ำรวยให้เสวยสุขกันชั่วลูกชั่วหลานในระดับนี้ได้

 

.......

ทางหนึ่งเรียกร้องหาความเป็นธรรม อ้างชาวนา ชาวสวน คนใช้แรงงาน คนจนคนรากหญ้า ว่าสงสารจับใจ อยากให้พวกเขาได้ลืมตาอ้าปาก ขอเถอะคร้า

อีกทางหนึ่งก็อวดร่ำอวดรวย กินหรู อยู่ดี มีบ้านใหญ่โตมูลค่านับร้อยล้าน อวดเสื้อผ้าสุดหรู นาฬิกาสุดแพง กระเป๋าแบรนด์เนม อวดความเป็นอยู่ที่แสนสบาย อวดทรัพย์สินมูลค่ามหาศาล ของใช้ราคาแพง เครื่องบินส่วนตัวที่บินไปเที่ยวที่นั่นที่นี่เป็นว่าเล่น 

ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยก เกิดความไม่สงบในชาติบ้านเมือง ด้วยวาทะกรรม อำมาตย์-ไพร่ เผาบ้านเผาเมือง เพียงเพราะอยากกลับมามีอำนาจเพื่อกอบโกยอีกครั้ง สร้างสถานการณ์จนมีคนเจ็บป่วย ล้มตาย และติดคุกติดตารางแทนตนเป็นจำนวนมาก ครั้นจวนตัวเข้าก็หนีไปลอยหน้าลอยตาอยู่ต่างประเทศ อ้างถูกใส่ร้ายกลั่นแกล้ง ไม่ได้รับความเป็นธรรม

คุณภาพชีวิตของคนในสังคม โดยเฉพาะคนที่ถูกคนกลุ่มหนึ่งพยายามกดให้ดูต่ำต้อยด้อยค่า ว่าเป็นคนชั้นล่างในสังคม เรียกกันว่าเป็น"คนรากหญ้า"ที่ต้องเสียโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เสียโอกาสที่จะได้กินดีอยู่ดี มีสวัสดิการขั้นพื้นฐานจากรัฐ เป็นหลักประกันขั้นต้นในการที่จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างไม่ลำบากยากเย็น หรือรันทดจนเกินไปนัก 

โอกาสขั้นพื้นฐานเหล่านี้กลับถูกทำลาย และเป็นอุปสรรค จากนายทุนที่ผันตัวมาเล่นการเมืองเพื่อเอื้อต่อธุรกิจและฐานะของพวกตน กอบโกยเงินภาษีที่จะใช้ในการพัฒนาชาติบ้านเมือง เพื่อความกินดีอยู่ดี ไปเข้ากระเป๋าของพวกตนจนมั่งคั่งร่ำรวย นับร้อยล้าน พันล้าน จนถึงขั้นหมื่นล้านแสนล้านก็มี

.......

อภิมหานายทุนผู้มั่งคั่งร่ำรวย ใช้ชีวิตอยู่บนกองเงินกองทอง แล้วยังพยายามปลุกปั่นสังคมด้วยวาทะกรรม สิทธิ เสรีภาพ และความเท่าเทียมนั่นต่างหาก ที่เป็นต้นตอแห่งปัญหา เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาชาติบ้านเมืองที่แท้จริง

ไพร่หมื่นล้าน ที่พยายามจะรื้อล้างระบบ และระบอบที่ดำเนินมาอย่างยาวนานในสังคมไทย กับคำว่า "ฟ้าเดียวกัน" ลองไปถามพนักงาน หรือคนงานในบริษัทของตนเอง ทั้งในอดีตและปัจจุบันดูเอาเถิด ว่ากินดีอยู่ดีแค่ไหน ในขณะที่ลูกหลานนายทุนเจ้าของกิจการผู้มั่งคั่ง ได้ฉายาว่า ไพร่หมื่นล้าน ออกมาขายฝันเสนอตัวเป็นทางเลือกใหม่ ไม่เอาสถาบัน ไม่ส่งเสริมศาสนา

......

ออกมาถ่มน้ำลายรดฟ้า แต่กลับตกใส่หน้าตัวเอง

 

 

 

ขอบคุณ   “วัลลภ สุทธิ”