ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

กลายเป็นเรื่องที่สังคมถกเถียงอยู่ ณ ขระนี้ สำหรับกรณี “อี้” นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตส.ส. กรุงเทพฯ  พรรคประชาธิปัตย์   ดำเนินการล่ารายชื่อผู้ได้รับผลกระทบปิดตลาดรอบบ้าน "ป้าทุบรถ" เจ้าของบ้านในหมู่บ้านเสรีวิลล่า ย่านสวนหลวง เขตประเวศ กทม. ลงมือทุบรถกระบะที่มาจอดขวางประตูหน้าบ้าน ตกเป็นข่าวโด่งดังเมื่อไม่นานมานี้ โดคยนายแทนคุณ จะยืนเรื่องกับทาง พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้มีการผ่อนผันเปิดตลาดในช่วงรอพิพากษาคดี  ซึ่งยังอยู่ระหว่างชั้นศาล เบื้องต้นทาง กทม. มีคำสั่งให้ 5 ตลาดคู่กรณี ย้ายมาขายของได้ชั่วคราว ที่บริเวณปากซอยศรีนครินทร์ 53 นั้น  (ย้อนชมคลิปเหตุการณ์ กดคลิป)

โดยนายแทนคุณได้ให้สัมภาษณ์รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV เมื่อวันที่25 มีนาคมที่ผ่านมา บางช่วงระบุ ว่า "ผมมองว่าสังคมอย่าอ่อนไหวมากกับกระแสโซเชียลทางฝ่ายป้าทุบรถ อย่าฟังความข้างเดียว และจากการที่ผมปรึกษาทนาย พบว่ามีพื้นที่บางส่วนใกล้ ๆ บ้านป้าทุบรถ เป็นพื้นที่สีเหลืองที่สามารถตั้งตลาดได้ คือ เป็นพื้นที่หนาแน่นน้อย และระบุว่า ห้ามมีตลาด แต่ยกเว้นข้อดังต่อไปนี้ คือมีตลาดได้ แต่ต้องมีพื้นที่ประกอบการไม่เกิน 1,000 ตารางเมตร"

 

อย่าหาเสียงแบบนี้!“แทนคุณ”ล่ารายชื่อเปิดตลาดบ้านป้าทุบรถ“ฆ่าธรรมาภิบาล”สะเทือนประชาธิปัตย์ กฎหมายไม่เป็นกฎหมายเพราะนักการเมืองห่วงคะแนนเสียง

ทำให้เรื่องดังกล่าว ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างหนัก ถึงความเหมาะสมที่เกิดขึ้น  มีหลายฝ่ายได้แสดงความคิดว่าเป็นการหาเสียงล่วงหน้า เพื่อปูทางไปสู่การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงหรือไม่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอีกด้านหนึ่งที่น่าสนใจคือผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ  Pat Hemasuk  โพสต์ข้อความว่า  

 

"กฎหมายไม่เป็นกฎหมายเพราะนักการเมืองห่วงคะแนนเสียงและผลประโยชน์ ระบบอุปถัมภ์คือสิ่งที่กัดกินพื้นฐานของสังคมมานานแล้ว เพิ่งจะเบาลงได้หลังจากหมดนักการเมืองท้องถิ่นและการปราบคอรัปชั่นในวงราชการอย่างเข้มข้นมาได้ไม่นานนี้เอง กฏเกณฑ์มีไว้บังคับใช้เพื่อความสงบของสังคม การผ่อนผันให้ผู้ทำผิดกฎหมายกลุ่มเล็กๆ เหมือนไม่สนใจผู้เดือดร้อนกลุ่มใหญ่กว่า

นั่นคือสิ่งที่เรียกว่าการฆ่าธรรมาภิบาลของสังคมทิ้ง จากเห็นแก่ประโยชน์คนกลุ่มเล็กมากกว่าผลประโยชน์ของประชาชนกลุ่มใหญ่ และเป้าหมายสุดท้ายคือผลประโยชน์ของคนที่กลุ่มเล็กลงไปอีก นั่นคือนักการเมืองไม่กี่คนที่ต้องการคะแนนเสียงในการเลือกตั้งของตัวเองและพรรค

 

พรรคประชาธิปัตย์อย่าหาเสียงด้วยวิธีนี้เลยครับ เพราะการทำแบบนี้คือการทำลายสังคม และทำลายฐานเสียงที่แท้จริงของพรรคประชาธิปัตย์ในกรุงเทพ คนกรุงเทพแท้ๆ ที่มีบัตรประชาชนในกรุงเทพเบื่อกับเรื่องแบบนี้เต็มทีแล้ว แม่ค้าพวกนี้มีกี่คนที่มีบัตรประชาชนในกรุงเทพ วันเลือกตั้งส่วนมากก็ขายของไม่กลับไปเลือกตั้งที่ภูมิลำเนาหรอกครับ

ผมถือว่าเป็นเวรเป็นกรรมของคนไทยที่จะได้คนแบบนี้และพรรคแบบนี้มาดูแลบ้านเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้า