ย้อนดู?“เสี่ยหนู"เล่นบท"ซุปเปอร์ดีล"หนีบ"บิ๊กบัง"คุย"นายใหญ่"ก่อนผุด"พ.ร.บ.นิรโทษ"ปฐมเหตุรัฐบาล"หนูปู"พังพาบ เพราะทรยศต่อความไว้วางใจของปชช.

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ย้อนดู?“เสี่ยหนู"เล่นบท"ซุปเปอร์ดีล"หนีบ"บิ๊กบัง"คุย"นายใหญ่"ก่อนผุด"พ.ร.บ.นิรโทษ"ปฐมเหตุรัฐบาล"หนูปู"พังพาบ เพราะทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน

 

เมื่อ 3 - 4 วันก่อนมีข่าวการเมืองที่น่าสนใจอยู่ชื้นหนึ่ง นั่นคือ ข่าวการจัดเวทีเสวนาหัวข้อเรื่อง "ตรวจสอบการโกงทุจริตคอร์รัปชัน ก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ เบื้องหน้าเบื้องหลังต่อสัญญา ซิโน-ไทย สร้างรัฐสภา" ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

 

 
โดยในวันนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และเป็นอดีตกรรมการผู้จัดการ  บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นคู่สัญญาของรัฐฯ ที่รับผิดชอบในงานก่อสร้างทั้งหมด และดูจะตกเป็นจำเลยในกรณีนี้ ได้ปฎิเสธในเรื่องดังกล่าวอย่างเป็ดร้อนว่า ที่มาร่วมเสวนาในครั้งนี้  เพราะการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่เกี่ยวข้องกับบริษัท ซิโน-ไทยฯ ซึ่งเป็นกิจการของพ่อตน และเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างซึ่งกำลังถูกพาดพิงว่ามีการใช้อำนาจหรืออิทธิพลในการต่อสัญญาขยายเวลาการก่อสร้างให้กับบริษัทซิโน-ไทยฯ

 "ขอชี้แจงว่าการตรวจสอบในฐานะประชาชนและด้วยสปิริตเป็นเรื่องดี แต่บางครั้งจะไมได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากหน่วยงานราชการ จะถูกต้องเฉพาะเพียงตัวเลข ส่วนเรื่องอื่นๆที่นำมาพูดไม่มีข้อเท็จจริงใดๆเลย เป็นเพียงแต่ว่านายวัชระได้รับฟังมาจากผู้ที่ได้รับผลกระทบเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สำหรับการขยายระยะเวลาก่อสร้างให้กับบริษัทซิโน-ไทยฯนั้น สาเหตุเกิดจากการส่งมอบพื้นที่ล่าช้า ซึ่งตามสัญญาต้องส่งมอบให้ในปี 57 แต่ความจริงสภาส่งมอบพื้นที่ครบเมื่อเดือนพ.ย. ปี 59 ดังนั้น เงื่อนไขต้องสร้างเสร็จภายใน 900 วัน เสร็จแน่นอน แต่ต้องนับแต่ส่งมอบพื้นที่ครบแล้ว" นายอนุทิน ระบุ

 

หากยังจำกันได้...นายอนุทินผู้นี้...คือคนคนเดียวกับที่เล่นบทเป็น "ซุปเปอร์ดีล" หนีบ "บิ๊กบัง-พล.อ.สนธิ บุญรัตนกลิน" เมื่อครั้งมีตำแหน่งเป็น ส.ส. และหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ นั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวไปคุย "นายใหญ่" ช่วงปี 2556 ยุครัฐบาล "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ก่อนจะผุด "พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับบิ๊กบัง" ขึ้นมา

ว่ากันว่า “เสี่ยหนู” นั้น ถึงกับภูมิใจในการชักนำ “คู่ขัดแย้ง” ทางการเมืองไปพบเพื่อปรับความเข้าใจกันได้ และตัวเขาเองก็เล่าเรื่องนี้ให้หลายต่อหลายคนฟัง ก่อน "ซุปเปอร์ดีล" ในครั้งนั้น จะนำมาซึ่งร่าง "พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับบิ๊กบัง" อย่างที่กล่าว ซึ่งว่าไปแล้วก็เกี๊ยะเซี๊ยะกันแค่เฉพาะในกลุ่มของผู้มีอำนาจ - ประชาชนไม่ได้อะไร แต่พงกเขากลับอ้างว่าจะเป็น "ทางออกให้กับประเทศ"

ความชุลมุน และเหิมอำนาจของรัฐบาลในยุคนั้นทำให้ต่อจากนั้นไม่นาน พรรคเพื่อไทยได้เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกมาอีกฉบับ ซึ่งต่อมาเรียกว่า  "พ.ร.บ.ลักหลับฉบับสุดซอย" เพราะพรรคเพื่อไทย ผ่านกฎหมายฉบับนี้ ทั้งวาระ 2 และวาระ 3 ออกมาตอนตี 4 ทั้งที่คนไทยกำลังหลับใหลอยู่บนเตียง หลังใช้เวลาถกนานถึง 19 ชั่วโมง และไม่ฟังเสียงคัดค้านของ ส.ส.ฝ่ายค้านที่ลุกขึ้นทักท้วง

....ก่อนการเหิมอำนาจ-ไม่เห็นหัวประชาชนก่อนสว่างในครั้งนั้น จะนำมาซึ่ง "ม็อบต่อต้านรัฐบาลนารีปู" แบบกว้างขวาง-มืดฟ้ามัวดิน และเป็นจุดจบของ "รัฐบาลนารีปู" ในเวลาต่อมาด้วยการยึดอำนาจของ คณะ คสช.


อย่างไรก็ตาม หากโฟกัสแค่เฉพาะ  "ซุปเปอร์ดีล" ที่ “เสี่ยหนู” หนีบ "บิ๊กบัง" ไปพบ "นายใหญ่" ลือกันให้แซดในช่วงนั้นว่า “เสี่ยหนู” หวังไกลไปถึงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งในครั้งต่อไป เพราะมองว่า ตนเองมีความพร้อมทั้งในเรื่องคุณสมบัติ และกระสุน ยิ่งการเมืองในพรรคใหญ่อย่างเพื่อไทยในขณะนั้น...หาหัวที่แท้จริงไม่ได้ (จึงต้องเชิด "หญิงปู" มาเป็นนายกฯ และพิสูจน์แล้วว่า เธอทำงานไม่เป็นสับปะรด-ไม่นับกรณีปล่อยโกง) ยิ่งทำให้ “เสี่ยหนู”  มีความหวังอีกเป็นเท่าทวีคูณ

      
ว่ากันด้วยซ้ำว่า เพื่อนๆ ของเสี่ยหนูหลายคนพากันเรียกเขาว่า “ว่าที่ท่านนายก ๆ” ก็ด้วยอานิสงส์ของ "ซุปเปอร์ดีล" ในครั้งนั้นนั่นแหล่ะ ขณะที่ตัวเขาเองก็ดูจะมั่นใจอยู่ไม่น้อยที่อาจจะสานฝันของ "นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล" ผู้พ่อให้สำเร็จ หลังเจ้าตัวเคยได้เชยชมเพียงแค่ในฐานะ "นายกรัฐมนตรีรักษาการ" แทน "นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์" ที่มีเหตุให้ต้องกระเด็นตกเก้าอี้ไป

แต่อย่างว่า "คนคำนวณอาจไม่เท่าฟ้าลิขิต" เพราะจากนั้นไม่นานฝันของ “เสี่ยหนู” ก็มีอันต้องมลายหายสิ้นไป เมื่อ "ดีลลับ" ในครั้งนั้นเป็นปฐมเหตุให้รัฐบาล "หนูปู" พังพาบไป  เพราะจากนั้นไม่นาน พรรคเพื่อไทยกลับฉวยโอกาสเสนอร่าง  "พ.ร.บ.ลักหลับฉบับสุดซอย" ว่ากันในครั้งนั้นว่า  "พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับบิ๊กบัง" เป็นแค่ตัวหลอก...ที่ "นายใหญ่" ต้องการจริง ๆ คือ  "พ.ร.บ.ลักหลับฉบับสุดซอย" เพราะตัวเองได้ประโยชน์ไปเต็ม ๆ...เรียกอย่างชาวบ้านคือ...ความผิดทั้งหมดที่ทำมาเป็นโมฆะ...ถูกยกเลิก...ทักษิณคือผู้บริสุทธิ์

แต่แล้วที่สุด   "พ.ร.บ.ลักหลับ" ฉบับนั้นก็เรียกคนรักความยุติธรรมลงสู่ถนน กลายเป็น "ม็อบทางการเมือง" ที่ต้านรัฐบาลไม่ชอบธรรมมากที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศนี้...พร้อม ๆ กับปิดฉาก...เก้าอี้นายกฯ ที่ “เสี่ยหนู” ฝันไปในตัวด้วย และหลังจากนั้นเขาก็แทบจะเงียบหายไปทางการเมือง...ก่อนจะปรากฎตัวอีกครั้งผ่านเวทีเสวนา "ตรวจสอบการโกงทุจริตคอร์รัปชัน ก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ฯ" เมื่อสัปดาห์ก่อน