สหรัฐฯปูพรมต้อนรับ"บิ๊กป้อม"สุดยิ่งใหญ่ ตั้งแถวทหารตลอดแนว แถมรมว.กห.มะกันมารับถึงประตูรถให้"สายตรง"ถึงได้ตลอดเวลาแต่ไม่วายสะกิดให้เลือกตั้ง

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

กลาโหมสหรัฐอเมริกา ไม่ได้เชิญ รมว.กลาโหม ไทย ไปเยือนสหรัฐอเมริกา มานานมากกว่า 10 ปีแล้ว แต่มาเชิญ "บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกฯและรมว.กลาโหม 21-27 เม.ย.2561

ด้วยเพราะสหรัฐฯรู้ดีถึงความสำคัญ ของ พลเอกประวิตร พี่ใหญ่ในรัฐบาล คสช. และ ในกองทัพ 

อีกทั้ง เป็นนโยบายของ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เคยเชิญ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปเยือนทำเนียบขาว มาแล้ว เมื่อ ตค.2560 แม้จะเป็น หัวหน้าคณะปฏิวัติ

เยือนสหรัฐฯคราวนี้ ในฐานะแขกของกระทรวงกลาโหม ( Department of Defense ) โดยให้ พลเอกเทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ปลัดกลาโหม และผู้แทนเหล่าทัพ ร่วมคณะไปเยือน กรุงWashington DC ด้วย

ที่สร้างความประทับใจ คือ มีการตั้งแถวทหารกองเกียรติยศ ตลอดทางที่ต้อนรับ พลเอกประวิตร และคณะ  โดยเฉพาะ ทางเข้ากระทรวงกลาโหม ที่สำคัญคือ พล.อ. James Mathis รมว.กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ  มารอต้อนรับ ที่หน้ากลาโหม ด้วยตนเอง และลงมารับ บิ๊กป้อม ถึงประตูรถ เลยทีเดียว   พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห. เปิดเผยว่า  เป็น การต้อนรับอย่างอบอุ่นและมีมิตรไมตรียิ่ง
 
โดย พล.อ. James Mathis ได้แสดงความยินดีกับ พล.อ.ประวิตร ที่ได้พบกันอีก หลังจากที่ ได้เดินทางเข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมื่อ ต.ค. 60   ซึ่งไม่เคยเห็นประชาชนประเทศใด ที่จะเทิดทูนและให้ความเคารพรักสถาบันพระมหากษัตริย์เท่ากับประชาชนชาวไทย  และขอบคุณ พล.อ.ประวิตร ที่เดินทางมาเยือนและร่วมแสดงความรำลึกถึงทหารที่เสียชีวิตจากสงคราม 
  
พล.อ.James Mathis รมว.กห.สหรัฐฯ กล่าวถึง ความสัมพันธ์และมิตรภาพระหว่าง ไทย กับ สหรัฐฯ ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 200 ปี และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้การต้อนรับพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯ ในภูมิภาคเอเชีย  ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศย้อนไปตั้งแต่ปี ค.ศ. 1818 โดยสมัยรัชกาลที่ 4 ได้เสนอส่งช้างมา สนับสนุนสหรัฐฯ ในช่วงสงครามกลางเมืองของสหรัฐฯ   แม้ว่าประธานาธิบดี Lincoln จะมิได้ตอบรับข้อเสนอดังกล่าว แต่สหรัฐฯ มีความซาบซึ้งใจและเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นถึงมิตรไมตรีที่มีมายาวนานของทั้งสองประเทศได้เป็นอย่างดี

พล.อ. James Mathis ยังกล่าวว่า สหรัฐฯ ตระหนักว่าไทยเป็นศูนย์กลางที่จะช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพในภูมิภาค ในฐานะที่เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดสหรัฐฯ ยึดมั่นที่จะร่วมมือกับไทยเพื่อคงความมีเสถียรภาพและการเสริมสร้างขีดความสามารถในการปฏิบัติการร่วมกัน ระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศ เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ที่เปิดกว้างและเสรี (Free and Open Indo - Pacific) ของสหรัฐฯ  

และได้เน้นย้ำความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทย กับ สหรัฐฯ โดยเฉพาะภายหลังจากที่ทั้งสองประเทศได้ออกแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วม ว่าด้วยการเป็นพันธมิตรด้านการป้องกันประเทศระหว่างไทย - สหรัฐฯ ค.ศ. 2012 ( 2012 Joint Vision Statement for Thai - U.S. Defense Alliance )   

นอกจากนั้น ยังคาดหวังว่า ความสัมพันธ์อันดีที่ผ่านมากว่า 200 ปี จะนำไปสู่ความสัมพันธ์อันแนบแน่นในอีก 200 ปีข้างหน้าเช่นกัน  พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความขอบคุณ พล.อ. James Mathis ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น 

พร้อมทั้งแสดงความยินดีต่อการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 200 ปี แห่งมิตรภาพไทย - สหรัฐฯ ( 200 years of U.S. - Thai Friendship  ) 

ในปีนี้ โดยเมื่อ 20 มี.ค. 61 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดนิทรรศการ ฉลองความสัมพันธ์ "Great and Good Friends" ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่นลึกซึ้งและเป็นมิตรที่ดีต่อกัน 

พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า สหรัฐฯ เป็นพันธมิตรที่สำคัญของไทย และขอให้เชื่อมั่นว่า ไทยจะยังคงเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นของสหรัฐฯ อยู่เช่นเดิม ซึ่งความสัมพันธ์ทางทหาร ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ เป็นหัวใจสำคัญของความสัมพันธ์ทวิภาคีทั้งสองประเทศ 

รวมทั้งต้องการเห็นการยกระดับความเป็นพันธมิตรระหว่างกันให้ก้าวหน้าและแนบแน่นยิ่งขึ้น เพื่อขับเคลื่อนความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์ และความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ภายใต้แถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมที่กำหนด

นอกจากนั้น ไทยพร้อมสนับสนุนสหรัฐฯ ในการสร้างความตระหนักรู้ทางทะเล ( Maritime Domain Awareness: MDA ) และความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทะเลในกรอบอาเซียน เพื่อความสงบสุขร่วมกันของภูมิภาค 

และพร้อมสนับสนุนแนวคิดของสหรัฐฯ เรื่องความริเริ่มความร่วมมือด้านการขนส่งทางอากาศในภูมิภาค ( Movement Coordination Center-Pacific: MCC-P ) 

และแนวคิดในการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรด้านการส่งกำลังบำรุง (Regional Logistics Center) 

พร้อมทั้งคาดหวังการสนับสนุนและเสนอแนะจากสหรัฐฯ เพื่อความสมบูรณ์ในการทำหน้าที่ของไทย ในตำแหน่งประธานอาเซียน ปี 62   

สหรัฐฯปูพรมต้อนรับ"บิ๊กป้อม"สุดยิ่งใหญ่ ตั้งแถวทหารตลอดแนว แถมรมว.กห.มะกันมารับถึงประตูรถให้"สายตรง"ถึงได้ตลอดเวลาแต่ไม่วายสะกิดให้เลือกตั้ง

สหรัฐฯปูพรมต้อนรับ"บิ๊กป้อม"สุดยิ่งใหญ่ ตั้งแถวทหารตลอดแนว แถมรมว.กห.มะกันมารับถึงประตูรถให้"สายตรง"ถึงได้ตลอดเวลาแต่ไม่วายสะกิดให้เลือกตั้ง

สหรัฐฯปูพรมต้อนรับ"บิ๊กป้อม"สุดยิ่งใหญ่ ตั้งแถวทหารตลอดแนว แถมรมว.กห.มะกันมารับถึงประตูรถให้"สายตรง"ถึงได้ตลอดเวลาแต่ไม่วายสะกิดให้เลือกตั้ง

สหรัฐฯปูพรมต้อนรับ"บิ๊กป้อม"สุดยิ่งใหญ่ ตั้งแถวทหารตลอดแนว แถมรมว.กห.มะกันมารับถึงประตูรถให้"สายตรง"ถึงได้ตลอดเวลาแต่ไม่วายสะกิดให้เลือกตั้ง


 

สำหรับความคืบหน้าการจัดทำความตกลง ระหว่าง กห. กับ กห.สหรัฐฯ ว่าด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านการวิจัยและพัฒนา (Master Information Exchange Agreement: MIEA) คาดว่าจะสามารถลงนามร่วมกันได้ภายใน ก.ย.61 ซึ่งจะเป็นส่วนผลักดันให้เกิดการวิจัยและพัฒนาทางทหารร่วมกันมากขึ้น รวมทั้งเกื้อกูลต่ออุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทย ตลอดจนแนวนโยบาย Thailand 4.0  

 พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความขอบคุณ รมว.กห.สหรัฐ ที่พร้อมให้การสนับสนุนความพยายามของรัฐบาล ในการเดินหน้าจัดการเลือกตั้งสู่การเป็นประเทศประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ เพื่อเสถียรภาพที่มั่นคงและยั่งยืนของประเทศไทย

ไม่แค่นั้น ยังมีรายงานว่า พล.อ. James Mathis  รมว.กลาโหม สหรัฐฯ ได้มอบ เบอร์ สายตรง ให้ พลเอกประวิตร จะได้ติดต่อได้ทันที ตลอดเวลา

งานนี้ บิ๊กป้อม จึงแฮปปี้ สุดๆ

สหรัฐฯปูพรมต้อนรับ"บิ๊กป้อม"สุดยิ่งใหญ่ ตั้งแถวทหารตลอดแนว แถมรมว.กห.มะกันมารับถึงประตูรถให้"สายตรง"ถึงได้ตลอดเวลาแต่ไม่วายสะกิดให้เลือกตั้ง

สหรัฐฯปูพรมต้อนรับ"บิ๊กป้อม"สุดยิ่งใหญ่ ตั้งแถวทหารตลอดแนว แถมรมว.กห.มะกันมารับถึงประตูรถให้"สายตรง"ถึงได้ตลอดเวลาแต่ไม่วายสะกิดให้เลือกตั้ง

สหรัฐฯปูพรมต้อนรับ"บิ๊กป้อม"สุดยิ่งใหญ่ ตั้งแถวทหารตลอดแนว แถมรมว.กห.มะกันมารับถึงประตูรถให้"สายตรง"ถึงได้ตลอดเวลาแต่ไม่วายสะกิดให้เลือกตั้ง

สหรัฐฯปูพรมต้อนรับ"บิ๊กป้อม"สุดยิ่งใหญ่ ตั้งแถวทหารตลอดแนว แถมรมว.กห.มะกันมารับถึงประตูรถให้"สายตรง"ถึงได้ตลอดเวลาแต่ไม่วายสะกิดให้เลือกตั้ง

สหรัฐฯปูพรมต้อนรับ"บิ๊กป้อม"สุดยิ่งใหญ่ ตั้งแถวทหารตลอดแนว แถมรมว.กห.มะกันมารับถึงประตูรถให้"สายตรง"ถึงได้ตลอดเวลาแต่ไม่วายสะกิดให้เลือกตั้ง