จะฝาก”อนาคตใหม่”ไว้กับไพร่หมื่นล้านได้หรือ ปากว่า..ตราชั่งยุติธรรมทุกคนต้องเท่ากัน!!!  แต่การกระทำตรงกันข้าม??!!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

   ไม่ได้เงียบหายไปสำหรับไพร่หมื่นล้าน “ธนาธร  จึงรุ่งเรืองกิจ” ผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ เรียกได้ว่าเดินสายเจาะกลุ่มพี่น้องในพื้นที่ต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง   ตั้งแต่ลุยบุกเมืองตรัง ถิ่นนายหัวชวน ลุยขอนแก่นลงเล่นน้ำสงกรานต์ เที่ยวถนนข้าวเหนียว  จนล่าสุด ได้ไปให้สัมภาษณ์กับ “เดอะอีสานเรคคอร์ด”ถึงปัญหาคอร์รัปชันในประเทศไทย

   ธนาธรบอกว่า คนที่มีอำนาจปัจจุบัน ไม่ได้จริงใจกับเรื่องคอร์รัปชันหรอก คอร์รัปชันในที่ผ่านมาถูกกล่าวเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อเล่นงานฝ่ายตรงข้าม   ถ้ามีใครเอาจริงกับการคอร์รัปชันจริงๆ เราก็ต้องเห็นคนคอร์รัปชันติดคุกเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด

   ปัญหาก็คือไม่มีนักการเมือง หรือนักธุรกิจชั้นนำ ที่ตกเป็นจำเลยของการคอร์รัปชัน แทบไม่มีเลย เราแปลกใจว่าเป็นไปได้อย่างไร แต่เป็นเปได้ เพราะเป็นประเทศคนไม่เท่ากัน  ประเทศที่คนมีอำนาจ คนที่มีเงิน ไม่อยู่ภายใต้กฎหมาย คอร์รัปชันเป็นข้อหาที่ใช้เล่นเกมทางการเมือง

   "ถ้าพล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา เอาจริงกับเรื่องการคอร์รัปชันควรเริ่มที่การจัดการเรื่องนาฬิกาหรูก่อน ผมไม่เชื่อว่าคอร์รัปชันเป็นเรื่องที่รัฐบาลเอาจริงเอาจัง เชื่อว่าเป็นเรื่องการกลั่นแกล้งทางการเมือง ตนอยากเห็นคนที่พูดเรื่องการคอร์รัปชัน คนที่เรียกร้องการต่อต้านการคอร์รัปชันออกมาพูดถึงการบังคับใช้คอร์รัปชัน กับทุกคนไม่ใช่ใช้กับคุณทักษิณคนเดียว ผมอยากเห็นบ้านเมืองเราเป็นอย่างนี้ ไม่ว่าคุณจะมีอำนาจแค่ไหน คุณจะรวยแค่ไหน ต่อตราชั่งยุติธรรมทุกคนต้องเท่ากันภายใต้กฎหมาย นั่นคือสิ่งที่ผมอยากเห็น"ผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ กล่าว

   ธนาธรเปิดฉากโจมตีรัฐบาล หยิบยกอ้างการคอร์รัปชันพุงเป้าไปที่กรณีนาฬิกาหรูก่อน ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พิจารณาตามข้อเท็จจริง หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีกระทำความจะผิดเกิดขึ้นจริง ก็คงผิดเพราะไม่ปรากฏในการแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ป.ป.ช. เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่ง 

   เรื่องดังกว่าอยู่ในขั้นตอนของกฏหมาย ทางสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ให้ พล.อ.ประวิตร ชี้แจงเป็น 4 ครั้ง  พบว่า รายการนาฬิกาหรูที่ พล.อ.ประวิตรแจ้งว่ายืมจากเพื่อนมา แล้วทางสำนักงานตรวจทรัพย์สินภาคการเมืองได้ไปตรวจสอบ ก็พบว่านาฬิกาดังกล่าวมีอยู่จริง แต่ว่ายังขาดรายละเอียดที่มาของนาฬิกา

   เนื่องจาก เป็นนาฬิกาที่มีราคาแพง และมี serial number ทางสำนักงาน ป.ป.ช.จึงต้องให้สำนักตรวจทรัพย์สินที่รับผิดชอบไปตรวจสอบว่า ผู้ที่ครอบครองนาฬิกาหรูดังกล่าวเป็นเจ้าของที่แท้จริงหรือไม่ ซึ่งในการตรวจสอบนั้น มีประเด็นที่จะต้องไปสอบพยานบุคคลเพิ่มเติม รวมทั้งบริษัทเอกชนที่จำหน่ายนาฬิกาหรูเหล่านี้ ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงมีมติให้สำนักงาน ป.ป.ช.ไปดำเนินการตรวจสอบ ยืนยัน ข้อมูลเรื่องนี้ต้องให้สิ้นกระแสความก่อน 

   ดังนั้นเรื่องดังกล่าวยังถือว่าอยู่ในขั้นตอนทางกฏหมายอยู่ใช่หรือไม่ ?? จึงต้อนย้อนเหตุการณ์เมื่อในปี 2549 พนักงานบริษัทไทยซัมมิท อีสเทิร์น ซีบอร์ด ออโต้พาร์ท อินดัสตรี จำกัด จำนวน 260 คน ถูกเลิกจ้างงานเพราะได้ไปสมัครเป็นสมาชิกของสหภาพแรงงานฟอร์ดและมาสด้าประเทศไทย  และทางบริษัทเกรงว่าจะทำให้ลูกจ้างมีอำนาจต่อรองกับบริษัทมากขึ้นหากมีสหภาพแรงงาน

  ต่อมาในปี 2557 บริษัทซัมมิทมีการกดดันให้พนักงานทำงานล่วงเวลา แทนที่จะจ่ายค่าจ้างในระดับเพียงพอและรับสมัครคนงานเพิ่ม และบริษัทก็ลงโทษพนักงานที่ไม่ให้ความร่วมมือในการทำงานล่วงเวลา นอกจากนี้ทางบริษัทได้ออกคำสั่งให้กรรมการสหภาพ 4 ท่าน คือ ประธาน รองประธาน กรรมการพื้นที่แหลมฉบัง และกรรมการพื้นที่ระยอง หยุดปฏิบัติงาน เพื่อหวังปลดออก!!!!  
 

   สรุปแล้วบริษัทซัมมิทของ ธนาธร  มีประวัติการปราบปรามสหภาพแรงงาน และละเมิดสิทธิเสรีภาพพื้นฐานในการรวมตัวกันของลูกจ้าง โดยใช้ช่องว่างทางกฏหมายเอารัดเอาเปรียบ ลูกน้อง หรือพนักงานบริษัทตัวเองใช่หรือไม่

  กลับพฤติกรรม ทัศนคติ และความตื้นลึกหนาบางทางความคิดแบบนี้ของ “ธนาธร จึงรุ่งเรื่องกิจ”  ประชาชนจะสามารถฝาก “อนาคตใหม่”ไว้กับธนาธรได้หรือไม่ ”อนาคตใหม่”จะทางเลือกการเมือง หรือ ว่าที่นอมินี(ใหม่)ระบอบทักษิณ ...??