"บิ๊กตู่" แสดงความยินดี "อู วิน มยิน" รับเลือกผู้นำเมียนมาคนใหม่ ยันไทยพร้อมร่วมมือเมียนมาทุกด้าน

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

 


วันนี้ (28 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมหารือกับ "นาย อู วิน มยิน" (H.E. U Win Myint) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 32 ณ โรงแรม Shangri-La สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยหลังเสร็จสิ้นจากการหารือ "พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสาระสำคัญในการหารือครั้งนี้ว่า

 

นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับนายอู วิน มยิน ที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาคนใหม่ พร้อมกล่าวว่ารัฐบาลไทยพร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาลเมียนมาในทุกด้าน โดยเฉพาะในการสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงในการพัฒนาพื้นที่ชายแดนเพื่อความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนของทั้งสองประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีเสนอให้เมียนมาเร่งกระบวนการลงทะเบียนแรงงานให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เฝ้าระวังการลักลอบขนยาเสพติดตามแนวชายแดน และแก้ปัญหาการค้าขายสินค้าผิดกฎหมายตามแนวชายแดน

ในโอกาสนี้ ไทยและเมียนมายินดีที่ความร่วมมือดำเนินไปอย่างมีพลวัตเป็นที่น่าพอใจในทุกมิติ โดยเห็นว่าในฐานะเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดไทยและเมียนมาควรสร้างความเชื่อมโยงให้มากที่สุด และต้องเชื่อมโยงกับอนุภูมิภาคด้วย สำหรับโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายนั้น นายกรัฐมนตรีได้ขอให้เร่งการเจรจา 3 ฝ่ายคือไทย เมียนมา และญี่ปุ่น โดยเร็วเพื่อให้โครงการดำเนินต่อไปได้ นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองย้ำว่าประเด็นด้านชายแดนจะต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาพื้นที่ จึงขอให้ทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างสร้างสรรค์เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศต่อไป

สำหรับสถานการณ์ในรัฐยะไข่ นายกรัฐมนตรีเห็นพัฒนาการทางบวกและความตั้งใจจริงของเมียนมาในการแก้ปัญหานี้ โดยเห็นว่าควรมุ่งเน้นการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจและมิติทางสังคม ในขณะเดียวกันความช่วยเหลือด้านการพัฒนาต่างๆ ประชาคมระหว่างประเทศซึ่งมีความพร้อมทั้งด้านการเงินและทรัพยากรต่างๆ สามารถมีส่วนร่วมและช่วยสนับสนุนได้

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเห็นว่ากระบวนการสันติภาพและกระบวนการปรองดองในเมียนมาเป็นปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาประชาธิปไตย เศรษฐกิจและสังคมของเมียนมา ซึ่งจะช่วยเกื้อหนุนให้เกิดความมั่นคงของภูมิภาคด้วยเช่นกันโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุม ACMECS ครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 15-16 มิถุนายน 2561 จึงใช้โอกาสนี้เชิญประธานาธิบดีและภริยาเข้าร่วมการประชุม ACMECS ที่กรุงเทพฯ ในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย