ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ปฏิกิริยาของสหรัฐอเมริกาที่มีต่อไทยเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์  ผู้นำสหรัฐฯได้ต่อโทรศัพท์สายตรงคุยกับ”บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย จนนำไปสู่ภาพการพบกันอย่างชื่นมื่นระหว่างผู้นำทั้ง2ประเทศ ใน ทำเนียบขาวที่เผยแพร่ออกไปทั่วโลกและล่าสุดอเมริกาต่อสายตรงถึง “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เชิญเยือนกลาโหมสหรัฐ กระชับแน่นแฟ้นมากขึ้นไปอีก หลังห่างหายการเยือนในส่วนของรมว.กห.หลายสิบปี ทั้งสองฝ่ายพร้อมเพิ่มความร่วมมือด้านมั่นคงทุกมิติ   เมื่อวันที่ 21 - 27 เม.ย. 61 ที่ผ่านมา

 

อเมริกา..สายตรง "บิ๊กป้อม" แนบแน่นสัมพันธ์ ครั้งแรกในรอบ20ปี พร้อมสนับสนุนไทยทุกช่องทาง!!!

 

  ล่าสุดพล.อ.ประวิตร  กล่าวภายหลังเดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกา  ว่า ถือว่าการเดินทางไปครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังจาก20 ปีที่แล้วโดยทางสหรัฐฯ ให้ความร่วมมือทุกเรื่องตามที่เราขอร้องไป ทั้งการฝึก การศึกษา ซึ่งการพบกันครั้งนี้ไม่ได้หารือถึงประเทศไทยจะเป็นคนกลางให้สหรัฐฯ และเกาหลีเหนือเจรจาพูดคุยกันแต่อย่างใด เพราะเป็นเรื่องของทั้งสองประเทศว่าจะเลือกประเทศใดเป็นคนกลาง และคิดว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรา ถ้าเขาเลือกเราก็คงคุยกันแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่ได้คุยเลย

 

อเมริกา..สายตรง "บิ๊กป้อม" แนบแน่นสัมพันธ์ ครั้งแรกในรอบ20ปี พร้อมสนับสนุนไทยทุกช่องทาง!!!

 

      พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ทางสหรัฐฯยังให้ความร่วมมือถือการรับมือภัยก่อการร้ายในภูมิภาคเรา โดยการแบ่งปันข่าวสารร่วมกัน พร้อมทั้งยืนยันว่าประเทศไทยไม่มีกลุ่มไอเอสแฝงตัวอยู่ในบ้านเรา ส่วนการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐฯ ทางเขาบอกว่าอยากได้อะไรก็ขอให้บอก เพราะตอนนี้ไม่ติดขัดเรื่องข้ออกฎหมาย อย่างไรก็ตามการเดินทางไปครั้งนี้ตนคิดว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง

ระหว่างการหารือดังกล่าวพล.อ. เจมส์ แมตทิส (James Mathis) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ  ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์และมิตรภาพระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 200 ปี และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้การต้อนรับพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯ ในภูมิภาคเอเชีย

 

พร้อมทั้งกล่าวว่า สหรัฐฯ ตระหนักว่าไทยเป็นศูนย์กลางที่จะช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพในภูมิภาค ในฐานะที่เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิด สหรัฐฯ ยึดมั่นที่จะร่วมมือกับไทยเพื่อคงความมีเสถียรภาพและการเสริมสร้างขีดความสามารถในการปฏิบัติการร่วมกันระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศ เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ที่เปิดกว้างและเสรี (Free and Open Indo-Pacific) ของสหรัฐฯ และได้เน้นย้ำความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ โดยเฉพาะภายหลังจากที่ทั้งสองประเทศได้ออกแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วม ว่าด้วยการเป็นพันธมิตรด้านการป้องกันประเทศระหว่างไทย-สหรัฐฯ ค.ศ. 2012 (2012 Joint Vision Statement for Thai-U.S. Defense Alliance) นอกจากนั้นยังคาดหวังว่า ความสัมพันธ์อันดีที่ผ่านมากว่า 200 ปี จะนำไปสู่ความสัมพันธ์อันแนบแน่นในอีก 200 ปีข้างหน้าเช่นกัน

 

อเมริกา..สายตรง "บิ๊กป้อม" แนบแน่นสัมพันธ์ ครั้งแรกในรอบ20ปี พร้อมสนับสนุนไทยทุกช่องทาง!!!

 

 

นอกจากนั้นไทยพร้อมสนับสนุนสหรัฐฯ ในการสร้างความตระหนักรู้ทางทะเล (Maritime Domain Awareness: MDA) และความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทะเลในกรอบอาเซียน เพื่อความสงบสุขร่วมกันของภูมิภาค และพร้อมสนับสนุนแนวคิดของสหรัฐฯ เรื่องความริเริ่มความร่วมมือด้านการขนส่งทางอากาศในภูมิภาค (Movement Coordination Center-Pacific: MCC-P) และแนวคิดในการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรด้านการส่งกำลังบำรุง (Regional Logistics Center) พร้อมทั้งคาดหวังการสนับสนุนและเสนอแนะจากสหรัฐฯ เพื่อความสมบูรณ์ในการทำหน้าที่ของไทยในตำแหน่งประธานอาเซียน ปี 2562