ย้อนจุดเดือด!! "ทักษิณ-เนวิน" แฉคนเสื้อแดงหวังตั้งรัฐใหม่..ปลุกระดมสู่ความรุนแรง การปฏิวัติประชาชน แผ่นดินจะลุกเป็นไฟ??

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ยังเป็นภาพติดตาม สำหรับการตอนรับคณะครม.สัญจร ที่เดินทางไปยังจ.บุรีรัมย์  และเจ้าบ้าน“เนวิน ชิดชอบ” ได้ให้การต้อนรับอำนวยความสะดวก บิ๊กตู่ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” และคณะรัฐบาล คสช. เป็นอย่างดี  ท่ามกลางเสียงตะโกนโห่ร้องตอนรับ “นายกลุงตู่ สู้ สู้” จากคนในสนามกว่า 3 หมื่นคนที่เต็มความจุ ในสนามช้างอารีนา ประหนึ่งทีมฟุตบอลเจ้าบ้านกำลังมีชัยชนะเหนือคู่แข่ง

 

บรรยากาศ เต็มไปด้วยความชื่น ทำให้เห็นความอบอุ่นในการต้อนรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งทั้งคู่ดูเข้ากันเคมีเข้ากันเลย สะท้อนให้เห็นถึงมิตรภาพอันดีทางการเมืองการแสดงออกในวันนี้ ยิ่งตอกย้ำ อาจจะทำให้ “ทักษิณ ชินวัตร” จะต้องกระอักเลือดซ้ำสอง 

 

ย้อนจุดเดือด!! "ทักษิณ-เนวิน" แฉคนเสื้อแดงหวังตั้งรัฐใหม่..ปลุกระดมสู่ความรุนแรง การปฏิวัติประชาชน แผ่นดินจะลุกเป็นไฟ??

 

หากย้อนไปในช่วงการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญปลายปี51 เรียกว่าอาจจะเป็นช่วงแตกหักระหว่างนายทักษิณ กับนายเนวินเลยก็เป็นได้  เมื่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ หลุดจากเก้าอี้นายกฯ เพราะศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคพลังประชาชน เป็นเหตุให้เกิดปฏิบัติการพลิกขั้วการเมือง  กลุ่มก๊วนการเมืองที่เคยอยู่ร่วมชายคาในพรรคพลังประชาชน และพรรคการเมือง ที่เคยร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน  ต่างฉีกขั้วหันไปโหวตเลือกนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ

 

จับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ จัดตั้งรัฐบาลผสม 6 พรรค ประกอบด้วย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรคชาติไทยพัฒนา พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และพรรคกิจสังคม แน่นอน  ในการพลิกขั้วการเมืองครั้งนี้  ต้องยอมรับว่า ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ภายใต้การนำของนายเนวิน ชิดชอบ เป็นตัวชี้ขาดสำคัญที่ฉีกขั้วแหกค่าย  ด้วยฝีมือของเพื่อนรักนายตำรวจคนสนิทท่ีหว่านล้อม"เนวิน ชิดชอบ"ให้เปลี่ยนขั้วทิ้ง"นายที่ชื่อทักษิณ"มายืนฝั่งตรงข้าม!!! หันมาแตะมือกับพรรคประชาธิปัตย์ จนในที่สุดพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้เป็นรัฐบาลสมใจ 

 พร้อมกับการเกิดขึ้นของวาทะเด็ด ที่ทำให้นายทักษิณแทบกระอักเลือด “มันจบแล้วครับนาย วันนี้เดินมาไกลแล้ว ต่างคนต่างก็ทำงานการเมืองกันไปแล้วกัน”

 

แต่ไม่เพียงเท่านั้นต่อมา ในวันที่ 7 เม.ย. 52  ที่โรงแรมสยามซิตี้ นายเนวิน เปิดแถลงข่าวระบุว่า มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ความแตกแยกในสังคมและการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่8 เม.ย.52 เป็นเหตุผลที่ทำให้นายเนวิน เปิดการแถลงในครั้งนี้ จึงต้องออกมาบอกว่าจากประสบการณ์ตนและเพื่อนๆ ที่เคยทำงานกับแกนนำเสื้อแดงบางคน ซึ่งตอนนี้เป็นแกนนำอยู่บนเวทีทำเนียบฯ เรียกได้ว่าทำงานร่วมกันนานพอสมควร

 

"สรุปมีความเห็นว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่ง ต้องเตือนประชาชน ระวังตกเป็นเครื่องมือหรือเหยื่อของสถานการณ์ที่วางแผนไว้ในการชุมนุมในวันที่8 ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่นำไปสู่ความรุนแรงอย่างที่ได้รับทราบโดยประสบการณ์ พี่น้องประชาชนที่ถูกปลุกระดมได้รับความสูญเสียมากที่สุด ประเทศไทยก็ได้รับความสูญเสียอย่างไม่สามารถประเมินค่าได้"

 

 

นายเนวิน กล่าวว่า จากการเฝ้าสังเกตการชุมนุมตลอด 12 วันที่ผ่านมา เห็นว่ามีการกล่าวถึงสงครามประชาชน การปฏิวัติประชาชน แผ่นดินจะลุกเป็นไฟ ยึดศาลากลางจังหวัด

 

 

"จนนำมาสู่สิ่งที่เราเป็นห่วงและเชื่อได้ว่า ผู้นำบางคนเตรียมการบางอย่าง เพื่อก่อให้เกิดสงครามกลางเมือง ปฏิวัติ และเกิดสถานการณ์เผาบ้านเผาเมือง ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ไม่ใช่สันติวิธีอย่างแกนนำกล่าว"

 

 

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงการประกาศเจตนารมณ์แบบเอาชีวิตเข้าแลกของผู้นำบางคนว่า ถ้าเสื้อแดงอยู่ไม่ได้ คนทั้งแผ่นดินก็อยู่ไม่ได้ หรือ หากทำไม่สำเร็จก็แพ้ ก็ต้องตายไปพร้อมกัน จึงต้องตั้งคำถามกับแกนนำว่า ถ้าชุมนุมไม่สำเร็จ ทำไมคนทั้งแผ่นดินต้องอยู่ไม่ได้ ซึ่งเป็นถ้อยที่แกนนำประกาศซ้ำแล้วซ้ำอีก

 

 

"อยากบอกประชาชนที่เข้าร่วม ขอให้พิจารณาให้ดีว่าเป้าหมายการชุมนุมเพียงแค่ไล่รัฐบาลเท่านั้น หรือมีเป้าหมายไกลกว่านั้น ผมและเพื่อนๆ มีเหตุผลที่เชื่อว่าแกนนำการชุมนุมมีเจตนามากกว่าขับไล่รัฐบาล เหตุผลที่นำมาสู่ความเชื่อนี้ คือเหตุการณ์ 15 ม.ค.52 แกนนำชุมนุมคนหนึ่งได้ประกาศไว้ในงานเปิดสถานีโทรทัศน์ช่อง "ดี สเตชั่น" โดยประกาศจะเป็นการสร้างรัฐไทยใหม่ด้วยมือคนเสื้อแดง โดยมีดีสเตชั่นเป็นเครื่องมือขยายฐานมวลชน"

 

 

นายเนวิน กล่าวว่า ต้องตั้งคำถามว่าทำไมต้องสร้างรัฐไทยใหม่ เมื่อเรามีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระกษัตริย์เป็นประมุขอยู่แล้ว คนไทยมีความสุข อยู่ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร แกนนำต้องตอบคำถามว่าที่ประกาศสร้างรัฐไทยใหม่นั้น มีเจตนารมณ์อย่างไร ปกครองด้วยระบอบอะไร มีสถาบันใดเป็นสถาบันหลัก

นายเนวินกล่าวว่า แกนนำคนเสื้อแดงเหล่านี้ประกาศจับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศเป็นตัวประกัน ใน 2 วันที่ผ่านมา แกนนำรุมโจมตีตน ด่าตนบนเวที เพราะโกรธที่ตนออกมาบอกพี่น้องประชาชนชาวบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 52 ตนเคยบอกว่าคนที่คิดล้มล้างระบบกษัตริย์ต้องข้ามศพตนไปก่อน และคิดว่าเจตนารมณ์นี้ในการปกป้องกษัตริย์ไม่ได้เป็นเจตนารมณ์ของตนคนเดียว เพื่อนๆ ที่นั่งในที่นี้และคนไทยคงไม่ได้คิดต่างจากตน จึงขอตั้งคำถามแกนนำเสื้อแดงว่าผมผิดตรงไหนที่พูดแบบนี้ ถ้าจงรักภักดีทำไมต้องโกรธ จนต้องประกาศเจอตนที่ไหนให้ยิงที่นั่น

 

 

"การชุมนุมครั้งนี้หากมีเป้าหมายแก้ปัญหาประชาชนเรื่องพืชผลเกษตร คนว่างงาน เรียกร้องประชาธิปไตย ที่ถูกยึดอำนาจจากเผด็จการและเพื่อประโยชน์คนส่วนใหญ่ผมจะร่วมด้วย แต่ผมคิดว่าการเรียกร้องครั้งนี้เพื่อประโยชน์ของคนเดียวเป็นคนที่เดือดร้อนน้อยกว่าเกษตรกร คนขับรถแท็กซี่ จึงไม่เห็นด้วยที่บ้านเมืองเราในสภาพที่ปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้า ไม่เห็นด้วยกับทำเพื่อประโยชน์ของคนคนเดียว และเคยทำงานร่วมกันยอมตายถวายชีวิต แม้ผมจงรักคนนั้นมากแค่ไหน แต่ถ้าคนคนนั้นรักตัวเองมากกว่าประเทศชาติ ผมและเพื่อนๆก็ไม่เอาด้วยเพราะพวกเราไม่ใช่ทาส ผมและเพื่อนๆจึงออกมาเรียกร้อง" อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยกล่าว

 

 

"ผมและเพื่อนๆจึงเคยทำมาก่อน แต่การชุมนุมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้กับการต่อสู้ในอดีต แตกแตกต่างกันตรงที่ว่า มวลชนที่สนามหลวงเมื่อปี 2549-2550 เป็นการทำมวลชนเพื่อประชาธิปไตยและต่อต้าน คมช.ที่ยึดอำนาจไปจากประชาชนหลัง พ.ศ. 2550 เราก็ชุมนุมต่อเนื่องไปอีกหลายครั้ง หลังจากมีการเลือกตั้งแล้วเราก็ชุมนุมเรียกร้องรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย โดยไม่ไห้ถูกกดดันจากกฎหมู่ ปกป้องรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ การชุมนุมทั้งหมดในอดีตผมและเพื่อนๆ เชื่อว่าเป็นการทำที่ถูกต้อง เพราะเป็นไปเพื่อระบอบประชาธิปไตย แต่การชุมนุมปลุกระดมในครั้งนี้ เป็นการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตยและยืนยันว่า ผมและเพื่อนๆ หากในอนาคต มีการยึดอำนาจ ล้มล้าง ประชาธิปไตยจะเห็นผมกับเพื่อนๆ ออกมายืนต่อสู้เพื่อขับไล่เผด็จการแบบที่ คมช.ยึดอย่างแน่นอน " 

 

 

นายเนวิน กล่าวถึงประเด็นที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มีการโจมตีสถาบันองคมนตรีว่า ตนและเพื่อนๆ ขอยืนยันจุดยืนว่า พวกตนยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย จะไม่ปกป้อง และไม่มีเจตนาที่จะปกป้ององคมนตรี แต่การออกมาแสดงความคิดเห็น เป็นการออกมาแสดงความคิดเห็นด้านความเป็นห่วงต่อการก้าวล่วงในพระราชอำนาจและพระราชอัชฌาสัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คำพูดบางคำของแกนนำที่บอกว่าไม่มีเจตนาให้กระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ก็จริง แต่พฤติกรรมของแกนนำบางคนที่อยู่บนเวที ฟ้องว่าอะไรเป็นอะไร และนายทักษิณ ที่พวกตนเคยรักก็ไปร่วมกับขบวนการนี้

 

 

นายเนวิน กล่าวต่อว่า การโฟนอิน หรือการวิดิโอลิงค์ ของนายทักษิณ ที่มีอยู่ในการชุมนุมของคนเสื้อแดงทุกวันนี้ มีเป้าหมายขับไล่องคมนตรี ซึ่งตนขอยืนยันว่า เป็นความล่อแหลมต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะองคมนตรีแต่ละท่านมาจากการโปรดเกล้าฯ ตามพระราชอัธยาศัย ในฐานะที่ตนเป็นคนไทยคำว่าพระราชอัธยาศัย มีมากกว่า พระราชอำนาจเสียอีก ดังนั้น เมื่อพระองค์มีพระราชอัธยาศัย

 

 

"อยากถามแกนนำกับนายทักษิณ ว่า บุคคลที่พระองค์โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นองคมนตรีซึ่งพวกคุณเรียกว่า เป็นคนเลว ไม่ดี มีความหมายอย่างไร พวกคุณคิดว่า รู้จักคำนี้ดีกว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรืออย่างไร ไปก้าวล่วงพระราชอัธยาศัยของพระองค์ท่านได้อย่างไร พวกคุณมีสิทธิ์อะไร"

 

 

นายเนวิน กล่าวต่อว่า ฝากถามไปยังแกนนำผู้ชุมนุมว่า แน่ใจหรืออย่างไรว่า ขณะที่พวกคุณพูดหยุดไว้ที่บุคคลที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ในใจไม่คิดเลยไปกว่าสิ่งที่คุณพูด มาจนถึงวันนี้ จากสถานการณ์ตรงนี้ ต้องเรียนไปยังประชาชนว่า หากพวกเราคนไทยรักประเทศไทย หากพวกเราอยากทำความดีถวายพระเจ้าอยู่หัว ตนว่าสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดและเร็วที่สุดคือ ช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบ ขอเรียกร้องให้คนไทยทุกคนทำความดีเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยการคืนความสงบสุขแก่ประเทศไทย