ดร.เวทิน ฉะแรงสื่อคลั่งประชาธิปไตยคำบิดลูกสาว"ปรีดี"- ลั่น ปรีดีจะเสียใจมากกว่ากับประชาธิปไตยที่เลว

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

สื่อคลั่งประชาธิปไตยสำนักหนึ่งออกข่าวการให้สัมภาษณ์ทายาทอาจารย์ปรีดี "ดุษฏี พนมยงค์" ที่กล่าวในวันปรีดีว่า "ปรีดีคงเสียใจที่ยังไม่มีประชาธิปไตย"

จนกลายเป็นประเด็นฮือฮาในหมู่คนหัวก้าวหน้าที่สมาทาน กินประชาธิปไตยแทนข้าว

แต่เมื่อไปนั่งฟังสิ่งที่ทายาทอาจารย์ปรีดีพูดไว้จริงๆ แกพูดเอาไว้ว่าแบบนี้

"ก็เสียดาย ถ้าคุณพ่ออยู่ถึงวันนี้ก็อายุ 118 ปี คงเสียใจมั้งคะ กับสิ่งที่ได้ก่อสร้างเอาไว้ ท่านก็ถือหลักพุทธวจน สิ่งที่ได้ก่อสร้างไว้แล้วดี ย่อมไม่สูญหาย แต่คุณพ่อก็ได้ก่อสร้างสิ่งดีๆไว้เยอะ ทุกวันนี้ก็ยังมีคนที่ระลึกถึงโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เราต้องฝากคนรุ่นใหม่ได้ดำเนินตามรอยของปรีดีแล้วสังคมไทยคงจะน่าอยู่"

แต่คำพูดดังกล่าวถูกสื่อทีวีช่องดังกล่าวเอาไปสรุปบิดเบือน แล้วพาดหัวให้เข้าใจไปอีกอย่างหนึ่งอย่างสิ้นเชิง

คุณดุษฏีพูดถึง" สิ่งที่พ่อตั้งใจทำ" นั้นมีแต่เรื่องสังคม เช่น ไม่ทำร้ายกัน ขยันหมั่นเพียร เรื่องการศึกษา

โดยไม่มีเรื่อง "ประชาธิปไตย" แม้แต่น้อย

118 ปี ถ้าอาจารย์ปรีดียังอยู่ถึงตอนนี้ สมมุติว่าถ้าบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยอย่างที่สื่อบางสื่อ คนบางพวกต้องการ แต่เป็นประชาธิปไตยบนความเลวทรามต่ำช้า ประชาธิปไตยที่เอาระเบิดเอาลูกปืนไปไล่ยิงพระ ยิงเด็ก เป็นประชาธิปไตยบนรากฐานความบิดเบือนข้อเท็จจริง สร้างเรื่องหลอกลวง ตลบแตลง

ไม่รู้ว่าการไม่มีประชาธิปไตยกับการมีประชาธิปไตยที่เลว อย่างไหนที่ปรีดีน่าจะเสียใจมากไปกว่ากัน

คนอย่างอาจารย์ปรีดี จะมีดีมีชั่ว จะชอบจะชังก็ต้องยอมรับว่า ปรีดีเป็นคนจริง คนตรง มีความฝัน ความหวัง เป็นคนที่ยึดมั่นในหลักคิด อุดมการณ์ มาตลอดทั้งชีวิต

กระทั่งความเข้าใจในอนิจจังแห่งอำนาจ เข้าใจสัจธรรมแห่งโลก รู้เวลาต้องเลิกเมื่อควรเลิก ไม่เหมือนกับนักการเมืองพันธ์เชื้อชั่วตายยากที่พูดอย่างคิดอีกอย่างมาตลอดทั้งชีวิตเหมือนกัน
 

ถ้าจำกันได้กับ "คำสำนึกบาป" ของปรีดีในช่วงท้ายของชีวิต "ตอนมีอำนาจ ไร้ซึ่งประสบการณ์ แต่ตอนมีประสบการณ์ กลับไร้ซึ่งอำนาจ" คำกล่าวนี้ที่เป็นดังบทสรุปถึงบทเรียนและความผิดพลาดของคณะราษฏร์ได้เป็นอย่างดี

ถ้าจะมีประชาธิปไตย ซึ่งแน่นอนว่าปรีดีอยากให้มีแน่ๆแต่มันก็ต้องเป็นประชาธิปไตยบนความถูกต้อง บนความเป็นธรรม บนความจริงที่ไม่บิดเบือน บนผลประโยชน์ของผู้คน มิใช่ของหัวหน้าพรรคหรือนายทุนพรรคหรือตระกูลใด

   ถ้าจะมีใครเข้าใจประชาธิปไตยในไทยได้ดีที่สุด อาจารย์ปรีดีน่าจะเป็นคนหนึ่งในอันดับต้นๆ และสิ่งที่คนรุ่นใหม่ควรจะเรียนรู้คือเรียนรู้จากบทเรียน ความผิดพลาด และความล้มเหลวของปรีดีและคณะราษฏร์ที่หักหลังแตกคอกันเองจนประชาธิปไตยป่นปี้พังพินาศ

ไม่ใช่ 118 ปีแล้วยังเอา "ผี" ปรีดีมาโหนบิดเบือนหลอกชาวบ้านให้คลั่งประชาธิปไตยเลวๆไปวันๆ