นี่ไงเผด็จการ-พวกร่านดูไว้ยุคลต.ไม่เจอแน่? "บิ๊กตู่"ว๊ากไมค์สภา1.2 แสนนาฬิกา7หมื่นรับไม่ได้ สั่งทวนใหม่-ไม่ให้ซ้ำรอยยุค"หนูปู"ที่โคตรอื้อฉาว

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

 

นี่ไงเผด็จการลิดรอนสิทธิ รับรองว่าหากเป็นยุคเลือกตั้งก็เสร็จไปแล้ว...เพราะตัวอย่างมีให้เห็น?! "บิ๊กตู่" ว๊าก ไมค์สภาราคา 1.2 แสน นาฬิกา 7 หมื่นรับไม่ได้สั่งทบทวนใหม่ ไม่ให้ซ้ำรอยยุค "หนูปู" ที่แพงระยับถึงเรือนละ 7.5 หมื่นใช้ได้ 2 เดือนพัง ทั้งเบรกงบไอทีสภาใหม่ 8.1 พันล้าน เหตุไม่มีรายละเอีย และอุปกรณ์บางชิ้นแพงเกินจริง


วันนี้ (15 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ว่า ที่ประชุม ครม.อนุมัติเพิ่มวงเงินงบประมาณ สำหรับโครงการก่อสร้างอาคารัฐสภาแห่งใหม่จำนวน 512.50 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบจำนวน 273.51 ล้านบาท ค่าควบคุมงานก่อสร้าง 150.45 ล้านบาท และค่าที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้าง 88.54 ล้านบาท

 

อย่างไรก็ตาม มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องนาฬิกาแขวนผนังเรือนละ 7 หมื่นบาทนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่ เคยเกิดขึ้นแล้วสมัย “รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่สั่งซื้อกว่า 200 เรือน สูญเงินไปกว่า 15 ล้านบาท โดยประชาชนไม่ได้อะไร เพราะใช้ได้อยู่แค่เดือน 2 เดือนก็พังไปเป็นจำนวนมาก เรื่องนี้ต้องชม “บิ๊กตู่” ที่จับอาการผิดปกติได้ไว และสั่งรื้อใหม่ทั้งหมด แต่เท่านั้นยังไม่พอ ถ้าจะให้ดีคงต้องไล่เบี้ยว่า "ใครคือผู้หวังดีประสงค์ร้าย" ชงเรื่องที่ไม่เข้าท่านี้มาให้...และพร้อมจะกลายเป็นประเด็นร้อนที่จะถูกโจมตีได้ตลอดเวลา...ให้รู้ว่าเป็นใคร...เพราะตัวอย่างที่ผ่านมาก็มีให้เห็นแล้วว่า...โดนต้านหนักแค่ไหน

 

ทั้งนี้ รัฐสภาให้เหตุผลว่า เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อเร่งรัดให้การก่อสร้างเสร็จเร็วขึ้นกว่าเดิม โดยในส่วนของห้องประชุมวุฒิสภา ห้องกรรมาธิการและที่ทำงานบุคคลากร กำหนดให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2561 ส่วนห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรและพื้นที่เชื่อมต่อบางส่วนกำหนดให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2562 เพื่อรองรับการเลือกตั้ง แต่การเก็บรายละเอียดทั้งโครงการต้องเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2562

 

“ขณะที่อีกส่วนที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอมา งบประมาณ 8,135.56 ล้านบาท แต่ ครม.ไม่อนุมัติ เนื่องจากไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน รวมถึงอุปกรณ์และเครื่องมือเทคโนโลยีสารสนเทศบางชิ้น มีราคาแพงเกินไป โดยให้กลับไปทำรายละเอียดมาใหม่ ปรับค่าใช้จ่ายบางรายการให้ถูกลง เช่น ค่าไมโครโฟน นาฬิกา” โฆษกรัฐบาล ระบุ

 

ทั้งยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนงบประมาณจำนวนนี้ สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ให้เหตุผลว่า เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินงานด้านอื่น ไปพร้อมกับการก่อสร้างอาคาร ประกอบด้วย งานระบบควบคุมแสงสว่างบริเวณภายนอกอาคาร งานระบบปรับอากาศภายในห้องประชุม ส.ส.,ส.ว งานผนัง งานผ้าม่าน และงานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งไม่ใช่งบใหม่ที่ขอมาทั้งหมด แต่มีงบตัวเก่าที่เคยได้รับอนุมัติ คือ งานสาธารณูปโภค 586.90 ล้านบาท แต่ไม่ได้รับการจัดสรรเงิน ครั้งนี้จึงของบเพิ่ม 826.16 ล้านบาท

พล.ท.สรรเสริญ ระบุด้วยว่า ในที่ประชุม นายกฯ ฟังความเห็นของสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วจึงยังไม่อนุมัติงบ โดยให้กลับไปทบทวนใหม่ ซึ่งนายกฯ ระบุว่า "ยอมไม่ได้กับเรื่องไมค์โครโฟน 1.2 แสนบาท และนาฬิกา 7 หมื่นบาท"

อย่างไรก็ตาม มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องนาฬิกาแขวนผนังเรือนละ 7 หมื่นบาทที่นายกฯ สั่งเบรกนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ เคยเกิดขึ้นมาแล้วสมัย “รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่สั่งซื้อกว่า 200 เรือน สูญเงินไปกว่า 15 ล้านบาท โดยประชาชนไม่ได้อะไร เพราะใช้ได้อยู่แค่เดือน 2 เดือนก็พังไปเป็นจำนวนมาก เรื่องนี้ต้องชม “บิ๊กตู่” ที่จับอาการผิดปกติได้ไว และสั่งรื้อใหม่ทั้งหมด แต่เท่านั้นยังไม่พอ ถ้าจะให้ดีคงต้องไล่เบี้ยว่า "ใครคือผู้หวังดีประสงค์ร้าย" ชงเรื่องที่ไม่เข้าท่านี้มาให้...และพร้อมจะกลายเป็นประเด็นร้อนที่จะถูกโจมตีได้ตลอดเวลา...ให้รู้ว่าเป็นใคร...เพราะตัวอย่างที่ผ่านมาก็มีให้เห็นแล้วว่า...โดนต้านหนักแค่ไหน