แปลก?! ทั้งๆ ที่เด็ก "สิ้นค่าทางการเมือง"ไปแล้ว แต่"ผู้ใหญ่"ยังหน้าหนาดันหลังให้ลงถนนอยู่ได้ เรื่องนี้ไม่มีอื่นนอกจากกระหายอำนาจ-เห็นแก่ได้

แม้จะโหมกระพืออยู่นานนับสัปดาห์ แต่ดูเหมือนว่าการชุมนุมใหญ่ของ "ม็อบแดงละอ่อน" ในนาม "คนอยากเลือกตั้ง" วานนี้ ซึ่งพวกเขาหมายมั้นปั้นมือว่าจะระดมคนมามากกว่าทุกครั้ง แกนนำกลุ่มบางคนอย่าง "นายอานนท์ นำภา" ถึงกับคุยโวโอ้อวดแบบสุดเขื่องด้วยซ้ำว่า "ถ้ากระแสดีขนาดนี้ วันที่ 22 ถ้าต่ำกว่า 10,000 อมขี้หมามาพ่นใส่หน้าผมได้เลย"

...แต่แล้ว...เอาเข้าจริงเมื่อถึงเวลานัด...กระทั่งถึงช่วง "พีคที่สุดของการชุมนุม" ตัวเลขม็อบกลับไม่มากไปกว่าทุกครั้งที่มีคนร่วมม็อบ 200 - 300 คนมากนัก ช่างภาพ Tnews ที่ทำงานอยู่หน้าม็อบประเมินตัวเลขมาให้แบบเหลือ ๆ  ว่า...น่าจะไม่เกิน 500 คน....แม้จะระดมสาวแก่แม่ป้า...ชาวแดงทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่เป็นสาวกของแกนนำวัยละอ่อนมาเต็มพิกัดแล้วก็ตาม..

ผู้สันทัดกรณีฟันธงว่า เหตุที่ "ม็อบละอ่อน" จุดไม่ติด และกลายเป็น "ปาหี่ทางการเมือง" (หลอกกินท่อน้ำเลี้ยง-หลอกแดงที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง) ไปนั้น เป็นเพราะหลัก ๆ แล้ว เด็กพวกนี้ "สิ้นค่าทางการเมือง" ไปนานแล้ว พวกเขาหน้าช้ำ และแทบจะหา "ความบริสุทธิ์ใจในการเคลื่อนไหว" ไม่เจอ...ซึ่งนั่นถือเป็นแก่นแกนหลักในการทำม็อบ...ที่จะให้คนคล้อยตาม และเห็นด้วยในข้อเรียกร้อง...แต่อย่างที่บอก...เด็กพวกนี้ไม่มี... "พวกเขาขาดไร้ความบริสุทธิ์ใจในการขับเคลื่อน"

กอปรกับการหยิบยกประเด็น "ที่เรียกร้องแต่จะเลือกตั้ง-เลือกตั้ง" ซึ่งสังคมต่างรับรู้รับทราบร่วมกันแล้วว่า ยังไงการเลือกตั้งก็เกิดขึ้นแน่ภายในเดือนกุมภาพันธุ์ 2562 ตามคำยืนยันของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. แต่พวกเขากลับหาเหตุมาทำม็อบ และยื่นข้อเรียกร้องแบบตึงตัว...ให้เลือกตั้งภายในเดือนพฤษจิกายน 2561 ให้ได้...ซึ่งว่าไปแล้ว...ก็ห่างกันแค่ 3 เดือน...และไม่ใช่เวลาที่ยาวนานอะไร...หลายคนจึงมองว่า....ทำไมพวกเขาจึงรอไม่ได้...กะอีแค่ 3 เดือน...ทำไมจึงฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง

...นั่นเองจึงเป็นเหตุให้หลายคนรู้สึกระอา และมองว่า...พวกเขาจงใจออกมาป่วนบ้านป่วนเมือง...และนั่นก็ถือว่า...แทบจะ "พัง" ไปตั้งแต่แรกแล้ว ดังที่ "ป๋าเปลว" หรือ "เปลว สีเงิน" คอลัมนิสต์อาวุโสแห่ง "หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์" ระบุไว้ในบทความ  "เอามันซะบ้าง เผื่อสำนึก" ที่เผยแพร่ทางคอลัมน์ "คนปลายซอย" ของ"หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์" ฉบับวันนี้ ตอนหนึ่งว่า "เจตนากวนเมือง-กวนตีนรัฐบาล คสช.ตามที่ "ท่อน้ำเลี้ยง" สั่งสังคมทั้งที่ชอบ-ไม่ชอบ คสช.ต่างเบื่อหน่าย เอือมระอา กับพวกนี้เหมือนๆ กัน ด้วยรู้เช่นเห็นสันดาน ลำพังตัวเอง ทั้งไม่กล้า ทั้งไม่มีน้ำยา จึงต้องเข้าไปอิงแอบสถาบันศึกษา "ธรรมศาสตร์" เป็นกระดองคุ้ม ทุกครั้ง-ทุกครา มีแค่คราบนักศึกษา-คราบอาจาน "หน้าประจำ" ไม่กี่คน ส่วนผู้มาชุมนุม ก็กลุ่มขึ้นรา เห็นหน้า-เห็นสังขารแต่ละราย มีแต่คนร้อง พิโธ่..พิถัง "นี่มันนักศึกษารุ่นรับจ้างเผาบ้าน-เผาเมือง ปี ๕๓" นี่นา?!" "ป๋าเปลว" ระบุไว้ตอนหนึ่ง (โปรดอ่านฉบับเต็มจากบทความ  "เอามันซะบ้าง เผื่อสำนึก" ของ "ไทยโพสต์")

ไม่เพียงแต่เท่านี้ ความที่พวกแกนนำขาดไร้ความน่าเชื่อถือ แถมถูกเคลือบแคลงว่า...เป็นปีกหนึ่งของ "ระบอบทักษิณ" และเกี่ยวพันกับนักการเมืองฟากฝั่งพรรคเพื่อไทยโดยตรง...โดยเฉพาะ "นายวัฒนา เมืองสุข" นักการเมืองสีแดงผู้ด่างพร้อยจากคคี "ทุจริตฉกาจฉกรรจ์อย่างโครงการบ้านเอื้ออาทร" นั้นเคยไปปรากฎตัวที่ "ม็อบเด็กพวกนี้" มาแล้วด้วยซ้ำ ก่อนจะหลบฉากออกไปหลังถูกสื่อมวลชนรุมถ่ายภาพ และสัมภาษณ์อย่างหนัก บวกกับการพยายามออกมาถือหางแก๊งเด็กเหล่านี้ของนักการเมืองเพื่อไทยหลายต่อหลายคนก่อนหน้า...ทำนองสนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตย...นั่นยิ่งทำให้สังคมส่วนใหญ่...ถอยห่างจาก "ม็อบเด็กพวกนี้" เพราะรู้เช่นเห็นชาติเป้าหมายการเคลื่อนไหวเสียแล้ว

....จำนวนยอดม็อบวานนี้....เป็นข้อพิสูจน์ และจะว่าไปแล้วก็แทบหาแนวคนร่วมคนอื่น ๆ เพิ่มขึ้นอีกไม่ได้เลย...นอกจากสาวแก่แม่ป้า...ชาวแดงที่ระดมกันมาทั่วทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างที่กล่าว

ยิ่งหลัง แกนนำกลุ่มฯ ทั้ง 15 คน ประกาศยุติการชุมนุมในช่วงค่ำ แล้วจากนั้นนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง แกนนำพรรคเพื่อไทย โผล่เข้าเยี่ยมพวกเด็กเหล่านี้ หลังถูกควบคุมตัว...พร้อม ๆ กับ "องค์กรโลกบาล" อย่าง "Human Rights , UNOHCR รวมทั้ง  Amnesty" ที่ออกมารับลูก กดดันรัฐบาลไทย...ให้ปล่อยตัวเด็กเหล่านี้...อย่างไม่มีเงื่อนไขราวกับนัดกันไว้ด้วยแล้ว  นั่นยิ่งทำให้....ข้อเคลือบแคลงสงสัยได้รับการยืนยัน...จิ๊กซอว์ความเกี่ยวโยงของกลุ่มคนเหล่านี้....ครบถ้วนสมบูรณ์จนเด็ก ป.4 ยังมองออก

และรับรองเลยว่า...หลังจากนี้ "ม็อบแดงละอ่อน" ในนาม "คนอยากเลือกตั้ง" จะเคลื่อนไหวยากอีกเป็นพะเรอเกวียน...เพราะลำพังขนาดยังคลุมเครือ ๆ ว่าจะโยงการเมืองหรือไม่แค่ไหน...ยังแป๊กแล้วแป๊กอีก...ดังนั้น ...เมื่อเรื่องถูกเปิดออกมาขนาดนี้...ก็รอวันที่จะเป็น "ม็อบฝ่อ" ตลอดกาลได้เลย แต่เชื่อแน่ว่า...ถึงอย่างไร "พวกผู้ใหญ่" ที่แอบอยู่ข้างหลังเด็กเหล่านี้...ก็ยังหน้าด้านดันหลังให้พวกเขาลงถนนอยู่ดี เรื่องนี้ไม่มีอื่น....นอกจากความกระหายอำนาจ และเห็นแก่ตัวทางการเมือง...และไม่มีตัวเล่นอื่นใดหลงเหลือให้โขยกอีกแล้วเท่านั้น