- 25 พ.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ความเคลื่อนไหว บริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ลูกศิษย์อดีตพระพุทธอิสระ หรือ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ อายุ 59 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม และอดีตแกนนำ กปปส. เวทีแจ้งวัฒนะ ผู้ต้องหาคดีอั้งยี่ซ่องโจร ที่การ์ด กปปส. ร่วมกันทำร้ายร่างกายตำรวจสันติบาลได้รับบาดเจ็บสาหัส และคดีปลอมพระปรมาภิไธย และใช้พระปรมาภิไธยที่มีกานปลอมขึ้น ลงองค์พระเครื่องนาคปรกอุดปรอท ได้รวมตัวกันจำนวนหนึ่งตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 06.30 น.
ซึ่ง นายมหัศจักร โสดี หนึ่งในทีมทนายความของอดีตพระพุทธอิสระ เปิดเผยว่า วันนี้มาเยี่ยมอดีตพระพุทธอิสระ และจะหารือในประเด็นการยกเหตุขอยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาล และขอยื่นประกันตัวอีกครั้ง โดยเฉพาะประเด็นการเข้าไปจับกุมตัวอดีตพระพุทธอิสระถึงกุฏิ ว่ามีความเหมาะสมตามข้อหาที่ได้รับหรือไม่ แต่หากศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวครั้งที่ 2 ก็เชื่อว่าลูกศิษย์จะไม่ก่อความวุ่นวาย เพราะทุกคนเคารพกฎหมาย
ขณะเดียวกันทางทนายความและลูกศิษย์ก็มีความกังวลด้านสุขภาพ เนื่องจากอดีตพระพุทธอิสระมีโรคประจำตัวหลายอย่าง ประกอบเป็นผู้สูงอายุที่ทำงานหนักมาตลอด และมีกำหนดนัดพบแพทย์ เพื่อผ่าตัดดวงตา
ส่วนกรณีที่ลูกศิษย์สงสัยเรื่องการลาสิกขา และหลังจากนี้จะสามารถเรียกหลวงปู่พุทธอิสระได้เช่นเดิมหรือไม่นั้น ที่ผ่านมามีพระสงฆ์ที่เคยถูกดำเนินคดีในลักษณะนี้ แม้จะไม่ได้อยู่ในผ้าเหลือง แต่จิตใจยังคงศรัทธาในพระพุทธศาสนาและอยู่ในพระธรรมวินัย โดยมองว่าผ้าเหลืองเป็นเพียงสัญลักษณ์
อย่างไรก็ตาม อดีตพระพุทธอิสระ จะไม่ยื่นขอสิทธิพิเศษในการเป็นพระในเรือนจำ เพราะเคารพในกฎหมาย ส่วนภารกิจที่เกิดขึ้นในวัดหลังจากนี้ จะยังคงดำเนินไปตามปกติ
ลูกศิษย์ ของอดีตพระพุทธอิสระจำนวนหนึ่งเดินทางมารอเข้าเยี่ยม โดยทุกคนยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ และร่ำไห้ขณะบรรยายความรู้สึกเรื่องราวต่างๆถึงอดีตพระพุทธอิสระ แต่ก็ยอมรับว่าวันนี้ความรู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อวาน ขณะเดียวกันวันนี้ไม่ได้นำสิ่งได้มาเข้าเยี่ยมเพียงอยากเข้ามาพูดคุยเรื่องต่างๆ รวมทั้งกรณีที่ อดีตพระพุทธอิสระ มีกำหนดหมายเตรียมเดินทางไปมอบเตียง ส่งมอบอาคารเรียนให้กับเด็กนักเรียนชาวเขาในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ในวันนี้ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
นายธีรยุทธ สุวรรณเกสร ทีมทนายความอดีตหลวงปู่พุทธอิสระ เปิดเผยภายหลังการเข้าเยี่ยมว่า อดีตพระพุทธอิสระ จะยังไม่ขอยื่นประกันตัวตอนนี้ แต่จะขอยื่นประกันตัวในชั้นอัยการ โดยเบื้องต้นจะเตรียมหลักทรัพย์ไว้เท่าเดิม คือ 1 แสน 5 หมื่นบาท ซึ่งเป็นหลักทรัพย์ตามที่เหมาะสมกับอัตราโทษ และจากดารพูดคุย อดีตพระพุทธอิสระ ได้ให้การปฏิเสธ ในคดีที่ทำร้ายร่างกายตำรวจสันติบาล 2 นายที่บาดเจ็บสาหัส และต่อสู้คดีในชั้นศาล
ส่วนคดีแอบอ้าง ปลอมแปลงใช้พระปรมาภิไธย เบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่าได้มีการนำไปใช้จริง แต่ไม่มีเจตนาหลบหลู่ดูหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และหลังจากนี้จะหารือในรายละเอียด ว่าจะชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาลอย่างไร รวมถึงในช่วงบ่ายวันนี้ ตนจะเข้าเยี่ยมอดีตพระพุทธอิสระในฐานะทนายความ เพื่อหารือในรายละเอียดการต่อสู้คดีต่อไป
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สปช. เปิดเผยว่า จากการเข้าไปสังเกตเข้าไปดูอาการของอดีตพระพุทธอิสระ พบว่ายังมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ส่วนเรื่องโรคประจำตัว เบื้องต้นประสานให้ลูกศิษย์ได้แจ้งอาการป่วยและนำยามาฝากไว้ที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เพื่อให้จัดยาให้อดีตพระพุทธอิสระ พร้อมฝากบอกลูกศิษย์และผู้เลื่อมใสศรัทธา ว่าไม่ต้องเป็นกังวล เนื่องจากตัดสินใจไม่ขอประกันตัวในช่วงนี้ และเหตุการณ์ที่ตำรวจกองปราบปรามเข้าไปจับกุมภายในกุฏิ พิจารณาแล้วว่าเป็นเรื่องที่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่มีเจตนาเอาผิดกับตำรวจชุดจับกุม อีกทั้งยังรู้สึกพอใจที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดทำให้พระพุทธศาสนาเกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดี
ส่วนกรณีที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่าอดีตหลวงปู่พุทธอิสระ ขาดจากการเป็นพระหรือไม่ ยืนยันว่าในการประกอบพิธีลาสิกขาบทวานนี้ อดีตพระพุทธอิสระไม่ได้เปล่งวาจาลาสิกขาบท ดังนั้นในทางพระธรรมวินัย จึงไม่ถือว่าขาดจากการเป็นพระ แต่ในทางกฎหมายก็ต้องยอมรับในข้อนี้
ภาพ นายมหัศจักร โสดี หนึ่งในทีมทนายความของอดีตพระพุทธอิสระ (มีคลิป เสียง)