ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

    จากกรณีที่พรรคอนาคตใหม่ได้จัดประชุมจัดตั้งพรรคครั้งใหญ่ ณ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต  โดยที่ประชุม เปิดให้ คณะกรรมการบริหารแนะนำตัว และให้ผู้จดจองชื่อพรรค 26 คน ขึ้นส่งมอบภารกิจให้ 17 คณะกรรมการบริหารพรรคชุดแรก ที่มีวาระ 4 ปี 

    ซึ่งได้มีการตอบคำถามจากสื่อมวลชน ซึ่งมีคำถามว่า
จะต่อสู้กับความพยายามสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อย่างไร?
- (ธนาธร) เราไม่แปลกใจเรื่องนี้ เราเห็นตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญปี 2560 แล้ว เรารู้อยู่แล้วว่าวันนี้ต้องมาถึง วันที่ คสช. ต้องสืบทอดอำนาจตัวเอง จึงอยากเรียกร้องสื่อมวลชนและประชาชนมาร่วมกับเราเพื่อหยุดการสืบทอดอำนาจเผด็จการ... รัฐธรรมนูญปี 2560 เราไม่แก้ เราจะฉีกเลย
- (ปิยบุตร) ถ้าเรามีโอกาสเข้าสภา วันแรกเราจะเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ทันที โดยมาตราแรกที่ต้องยกเลิกให้ได้คือมาตรา 279 ที่คุ้มครองประกาศและคำสั่งคณะรัฐประหารทั้งหมด เราจะปักธงก้าวหน้าลงสู่สังคม เพราะการยึดอำนาจก็ชัดเจนแล้วว่าเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 ฐานกบฎ

   ยืนยันเรื่องการนิรโทษกรรมนักโทษการเมืองในยุค คสช. หรือไม่?
- (ธนาธร) เรายืนยันว่าจะนิรโทษกรรมให้แก่คนที่โดนคดีการเมืองทั้งหมด เขาเป็นคนหนุ่มสาวเป็นประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพของตัวเอง นี่เป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่ควรได้รับการรับรอง ไม่มีเหตุผลที่จะไม่นิรโทษกรรม
- (ปิยบุตร) บรรดาประกาศและคำสั่งของ คสช. คือปืนที่เอากฎหมายมาห่อไว้ แต่ไม่ใช่กฎหมาย 

เอาความมั่นใจมาจากไหน?! 'ธนาธร' ปากกล้า "จะสู้กับอำนาจคสช.-นิรโทษกรรมนักโทษคดีการเมือง ยุค คสช."

อย่าลืมถามคนที่เขาโหวตรับดัวยนะ!! "สุริยะใส" ตอกกลับ "ธนาธร-ปิยบุตร" คิดฉีก รธน.60-นิรโทษกรรมคดีการเมืองยุค คสช.

โดนซัดอีกดอก!! "มัลลิกา" ถามอีกเสียง "ธนาธร-ปิยบุตร" คิดฉีก รธน. "ถาม ปชช.เสียงส่วนใหญ่แล้วหรือยัง??"

 

   ล่าสุดวันที่ 28 พ.ค.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ให้สัมภาษณ์ถึงหลังการประชุม ครม.ถึงกรณีแกนนำพรรคอนาคตใหม่ประกาศจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ 60 และพร้อมนิรโทษกรรมคดีการเมืองในยุค  คสช.ว่า ตนมองทุกพรรค ซึ่งเป็นเรื่องของคสช.ที่จะติดตามอีกทีว่าการดำเนินการใดๆก็ตาม
เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ มีข้อบังคับอะไรต่างๆ อยู่หรือไม่ ฉะนั้น จะทำอะไรขอให้ใช้สติปัญญาใคร่ครวญ อย่าเอากฎหมายว่าเป็นอุปสรรค เพราะกฎหมายมีไว้ให้เกิดความเป็นธรรม และทุกพรรคก็ไม่ได้ออกมาพูดจาให้ใครเสียหาย
ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการประชุมพรรค การจัดหาสมาชิกพรรค อะไรก็ว่ากันไป แต่การที่จะมาติติงให้ร้ายอะไรต่างๆ มันสมควรหรือไม่ ก็ต้องไปดูในประเด็นข้อกฎหมาย
 

   เมื่อถามถึงผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่ระบุว่านายกฯความนิยมลดลงเนื่องจากปัญหาค่าครองชีพและราคาน้ำมันที่สูงขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนเคยบอกแล้วว่า เรื่องการให้คะแนนนิยม เราให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้มากเกินไป ซึ่งหมายถึงทำอันนี้คนชอบ ทำอันนั้นคนไม่ชอบ ก็เลยไม่ทำ จึงทำให้บ้านเมืองพัฒนาไม่ได้ หลายอย่างที่รัฐบาลนี้ทำเป็นหลายอย่างที่เคยทำไม่ได้มาก่อน ก็ต้องทำให้ได้ ขณะเดียวกันก็ต้องดูความเดือดร้อน แก้ไขปัญหาให้ประชาชนไปด้วย ไม่ใช่จะบังคับใช้กฎหมายแต่เพียงอย่างเดียว นั่นคือความยุ่งยากในการทำงานของเรา ค่าครองชีพต่างๆ วันนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นตอนนี้ได้ให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงที่เกี่ยวข้องไปสำรวจการขึ้นราคาสินค้าโดยไม่จำเป็น ไม่มีเหตุผลอันสมควร ส่วนเรื่องราคาน้ำมัน รัฐบาลมีมาตรการออกมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันดีเซล หรือแก๊ส อะไรต่างๆ และวันนี้ก็มีข่าว สถานการณ์น้ำมันโลกมีแนวโน้มจะลดลง ก็ต้องติดตามทั้งหมด เป็นเรื่องของต่างประเทศและในประเทศที่เกี่ยวข้องกัน ฉะนั้น อย่าบิดเบือนกันอีกต่อไปและไม่ใช่เหตุผลที่จะมาขึ้นราคาอะไรกันในเวลานี้