สติจงมา..อย่าโทษปี่กลอง!!"หลวงพ่อพยอม"ออกโรงเตือนสติชาวพุทธ  จับพระโกงเงินทอนวัด สมควรแก่เหตุ..ล้างบางคนทำศาสนาเสื่อม!??

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

  จากกรณีในช่วงระยะเวลานี้ได้มีเรื่องราวมากมายในวงการสงฆ์ของไทยที่ทางรัฐบาลหันมาเอาจริงเอาจังกับการปัดกวาดเช็ดถูความมืดดำของศาสนาซึ่งล้วนแต่ทำให้ศาสนาพุทธเกิดจุดด่างพร้อยมหาศาล ไม่ว่าจะเรื่องพระนัดสีกาขึ้นกุฏิ กินเหล้าเมาขับรถชน อาละวาด ขโมยของในวัดกันเอง เสพเมถุนต่างๆนานาตั้งแต่เรื่องของพระชั้นเล็กๆขยายมาถึงพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่โกงกิน ใช้ความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนจนร่ำรวยจนมหาเศรษฐียังอาย แต่สุดท้ายก็หนีบ่วงกรรมไม่พ้น
   แต่อย่างไรก็ตามความศรัทธาของเหล่าลูกศิษย์ลูกหาของแต่ละพระเถระนั้นบางครั้งญาติโยมอาจลืมนึกถึงความเป็นศาสนากันจนหมด  แม้พระจะเสื่อมแต่ศาสนาไม่ได้เสื่อม คนนี่แหละเสื่อมจากศาสนา 

   โดย "หลวงพ่อพยอม กัลยาโณ" เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้เขียนบทความลงในคอลัมน์ 'สำนักข่าวพระพยอม' หัวข้อ "ล้างบางศาสนา".....ได้พูดถึงกรณีการแบ่งพรรคแบ่งพวกของกลุ่มที่สนับสนุนและไม่สนับสนุนการจับกุม อดีตพระพุทธอิสระ ในส่วนของลูกศิษย์นั้นก็ต่างพากัน ลูกศิษย์ลูกหาก็ร้องห่มร้องไห้บอกว่าทำไมทำกับพระดีๆอย่างนี้ได้ ก็ต้องดูว่าที่ว่าดีนั้นดีของใคร ดีไม่ดีตรงไหน เป็นความดีที่ยอมรับกันทั่วไปมั้ย เพราะในทุกคนต่างมีดี มีร้ายอยู่ในตัว จึงยกกรณีนี้ขึ้นมา โดยระบุว่า  เรื่องพระโดนจับ เพราะข่าวที่เขาสืบพบว่าเอาเงินไปให้หมอนวดด้วย ถ้าเป็นจริงหมอนวดคนนี้ก็แย่เหมือนกัน ตอนได้เงินไม่แฉ พอไม่ได้เงินมาแฉ อย่างนี้ไม่ต่างกับ “ผีเน่ากับโลงผุ” ยังไงก็ขอให้ชาวพุทธมีสติรู้ว่า “ในดีมีเสีย ในเสียมีดี” การล้างบางก็เพื่อทำให้ศาสนาสะอาด อย่าวิตกกังวลว่าศาสนาจะเสื่อม ศาสนาไม่เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนามากกว่า เมื่อรู้เมื่อเข้าใจก็ทำนุบำรุงศาสนาและปฏิบัติธรรมตามคำสอนกันให้เนืองแน่นต่อไป
 

   และยังได้พูดถึงการแยกแยะความถูกผิดของพระดีกับบางคนที่อาจทำให้ศาสนาเสื่อม จากบทความ "ต้องแยกแยะ". ในเรื่องของการเลื่อมใสศรัทธาของพุทธศานิกชนจนลืมความเป็นศาสนาจนหน้ามืดตามัว โดยระบุว่า ชาวพุทธต้องรู้จักแยกแยะ ไม่ใช่ไหลไปตามสถานการณ์จนศรัทธาโดยไม่คิดถึงพระศาสนา หลักธรรมคำสอนที่เป็นหลักการสำคัญ แม้พระจะเสื่อมแต่ศาสนาไม่ได้เสื่อม คนนี่แหละเสื่อมจากศาสนา เราจึงต้องแยกแยะเรื่องของศรัทธา เรื่องของทุกข์และการหลุดพ้น ความเบาเย็นสบาย ชีวิตก็จะไม่ระทมตรมทุกข์ จะเห็นทันทีว่าศาสนาเป็นของวิเศษ เหมือนอยากจะกินผลไม้ กินแล้วก็เกิดมรรคผล ไม่หลุดหล่น ไม่ฉีก ไม่พลัดตกลงมา เราจึงต้องปีนต้นไม้เพื่อให้ได้ผลไม้ ไม่ใช่มีข่าวพระในทางไม่ดี พระแย่แล้ว เลยเลิกนับถือศาสนา อันนี้ถือว่าเอาความไม่ดีของคนอื่นมาปล้นความดีของตนเอง มาฆ่าความดีของตนเอง ไม่ควรจะให้เป็นเช่นนั้น


ขอบคุณข้อความบางส่วน ล้างบางศาสนา / โดย พระพยอม กัลยาโณ , ต้องแยกแยะ / โดย พระพยอม กัลยาโณ