ใครชักใย-จึงกล้านัก?ใย"หนุ่มขแมร์" จึงกล้าใส่ร้าย"บิ๊กตู่"เรื่องน้ำมัน อ้างอยากได้เงินจากยอดไลค์นั่นบ้องตื้นไป ใครคือไอ้โม่งที่จงใจเขย่าคสช.

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

 

ข่าวการจับกุม "นายรัตนะ เฮง-หนุ่มกัมพูชา" ปลอมข่าว "นายกรัฐมนตรี ฟิวขาดไล่ประชาชนไปเติมน้ำเปล่าแทนน้ำมัน" หลังราคาน้ำมันในไทยทะยานขึ้นต่อเนื่องหลายต่อหลายครั้งเมื่อสัปดาห์ก่อน จะมองให้เป็นข่าวเล็กในยุคอินเตอร์เน็ตครองโลก...เช่นเรื่องอื่น ๆ ที่เอาความเร็วเข้าว่าก็คงได้...หรือจะมองให้ใหญ่ว่า...เรื่องนี้มีความจงใจโจมตีรัฐบาลตรง ๆ ก็คงได้อีกเช่นกัน...เพราะมันทำให้เกิดไฟลามทุ่งได้ไม่ยาก...ต่อกรณีนี้ กระทั่งหลายคนเชื่อสนิทใจไปแล้วว่า "บิ๊กตู่ ลั่นให้คนไทยไปเติมน้ำเปล่าแทนน้ำมัน"

เหนืออื่นใดก็คือ พบว่านายรัตนะ เคยโพสต์ข้อความเท็จใส่ร้ายรัฐบาลไทย และนายกรัฐมนตรีมาแล้วถึง 3 ครั้ง 3 คราก่อนหน้า โดยแต่ละครั้งก็ล้วนจงใจ...เขย่าเสถียรภาพของรัฐบาล คสช. ทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าที่ผ่าน ๆ มาประเด็นมันไม่ไป-จุดไม่ติด ไม่เหมือนเรื่องราคาน้ำมัน...ที่มันอ่อนไหว และกระทบกับชีวิตประจำวันอย่างหนัก...มันจึงสะพัดได้ง่าย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ผู้ที่เดินทางไปกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เพื่อพบ นาย เซา ซก คา รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ ผู้บัญชาการหน่วยรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือนของกัมพูชา เพื่อหารือการจับกุม นายรัตนะ เฮง ผู้ต้องหาคดีนี้ยืนยันชัดเจนว่า การป้อนข้อมูล สร้างข่าวเท็จข่าวลวงเรื่องนี้ ส่งผลกระทบต่อรัฐบาล กรณีที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหาย และกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล ซึ่งทางตนได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจปอท.ให้ตรวจสอบเว็บไซต์ดังกล่าว จนทราบว่าจดทะเบียนโดยนายรัตนะ เฮง ชาวกัมพูชา และรอบปีนี้มีการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าระบบถึง 3 ครั้ง มีการบิดเบืยนข้อมูลการสัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี 1 ครั้ง บิดเบือนด้านนโยบายรัฐบาล 1 ครั้ง และโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดนครราชสีมาอีก 1 ครั้ง

 

โดย รอง ผบ.ตำรวจท่องเที่ยว ระบุด้วยว่า "ใครจะมีแฟนเพจเยอะ หรือกองหนุนมากขนาดไหน หากคุณ โกหกสร้างเรื่อง ปลุกปั่น รวมไปถึง “ผู้ส่งต่อข้อมูลหลักฐานเท็จ ไปให้คนอื่นเผยแพร่ต่อ” เพื่อกระทำการใส่ร้ายคนอื่น ระวังจะหมดอนาคตนะครับ ผมเตือนทุกคน ไม่ต้องบอกว่าตัวเองเล็ก หรือไปป่าวประกาศว่า “ใครใหญ่” มาจากไหน เพราะคนโกหกสร้างเรื่องใส่ร้ายคนอื่น จุดจบคือ “คุก” นะครับ กระบวนการนำสืบพิสูจน์ได้หมด"

 

อย่างไรก็ตาม ด้านนายรัตนะ เฮง ซึ่งเป็นเจ้าของ "เว็บไซต์ Ratstas.com" อันเป็นต้นทางของข่าวปลอมชิ้นนั้น ซึ่งตัวเขายังเป็นแอดมินอีกหลายเว็บไซต์ ได้ออกมากล่าวอ้างในวันที่ถูกจับว่า เว็บไซต์ดังกล่าวจดในนามของตนจริง แต่ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบ พร้อมขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ที่สร้างความเสียหายให้กับทางรัฐบาล


คำกล่าวอ้างแบบกำปั้นทุบดินของนายรัตนะ ไม่อาจทำให้ตำรวจปักใจเชื่อได้ เพราะพบจิ๊กซอว์สำคัญว่า มีเงินไหลเข้าบัญชีของนายรัตนะ ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากการที่มีคนกดไลค์ กดแชร์ติดตามข่าวสารดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง


คราวนี้คำถามสำคัญจึงอยู่ที่ว่า...นอกจากเงินที่ไหลเข้าบัญชีจากยอดไลค์  ยอดแชร์อันเป็นผลพลอยได้ที่นายรัตนะรับไปแบบหน้าฉากแล้ว...หลังฉากนั้นมี..."ไอ้โม่ง"...คนไหนชักใย "เด็กหนุ่มแห่งทุ่งสังหาร" ที่เพิ่งโตรายนี้....ให้สวมหัวใจสิงห์ออกมาชนกับรัฐบาล คสช. หรือไม่...เพราะลำพังแค่อ้างว่า....อยากได้เงินจากยอดไลค์...นั่นดูจะบ้องตื้นไปหน่อย...เพราะมีข่าวหวือหวาอื่น ๆ ...ซึ่งจะก่อให้เกิดรายได้มากมายกว่านี้เยอะให้หยิบมานำเสนอ...ยิ่งตำรวจสืบทราบว่า...นายรัตนะนั้น....ชื่นชอบที่จะติดตามข้อมูลข่าวสารจากเมืองไทย...และดูจะไม่ค่อยชอบ....รัฐบาล คสช.เท่าไหร่....นั่นยิ่งต้องรอดูว่า...เรื่องนี้ฝ่ายบ้านเมือง...จะสาวลึกลงไปแค่ไหน...เพราะผู้สันทัดกรณี และคอลัมนิสต์บางคน...เริ่มตั้งคำถามตรงกันแล้วว่า...เป็นไปได้หรือ...ที่เด็กเพิ่งโต....และอยู่ที่พนมเปญ...ซึ่งว่าไปแล้วโครงสร้างพื้นฐานยังล้าหลังไทยอยู่มาก....จะกล้ากระทำเรื่องแบบนี้โดยลำพัง...ไม่มี "ไอ้โม่ง" ชักใยอยู่เบื้องหลัง...เป็นไปได้จริง ๆ หรือ???