สะดุ้งทั้ง ปท.?! "บิ๊กป๊อก" ลั่นโกงอาหารกลางวันเด็ก-ต้องมีคนรับผิดชอบ สั่งสแกนทั่วไทย ย้ำต้องไม่เกิดอีก ซัด 20 บาทยังโกงเด็กได้

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

 

สะดุ้งทั้งประเทศ ?! "บิ๊กป๊อก" ลั่นโกงอาหารกลางวันเด็ก-ต้องมีคนรับผิดชอบ ระบุเรื่องนี้ต้องหารือผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สั่งสแกนทุกตำบล ย้ำต้องไม่เกิดอีก


วันนี้ (8 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  กล่าวถึงการทุจริตงบประมาณค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียนในสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ว่า เรื่องนี้จะต้องหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ในการประชุมขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล และภารกิจสำคัญของ มท. ประจำปีงบประมาณ 2561

 

ปกติทางท้องถิ่นจะมีงบฯ อาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียนหัวละ 20 บาท จริงๆ แล้วเรื่องนี้ควรจะเรียบร้อยไม่มีปัญหา แต่มันอาจจะมีการทุจริต บริหารงานไม่ดี ถามว่าใครต้องรับผิดชอบ ในความคิดตนคิดว่าหน่วยแรกเลยต้องเป็นโรงเรียนในสังกัด อปท. ในฐานะที่ต้องดูแลตรวจสอบอย่างละเอียด ต่อจากนั้นคือท้องถิ่นเพราะเป็นผู้กำกับดูแล รวมถึงให้งบฯ ลงไป จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น ควรที่จะมีมาตรการตรวจสอบ ขณะที่ในส่วนพื้นที่ ผู้ว่าฯ นายอำเภอ ก็จะต้องรับผิดชอบ แต่จะให้ผู้ว่าฯ นายอำเภอ ไปตรวจสอบอาหารกลางวันทุกโรงเรียนคงเป็นไปไม่ได้

 

พล.อ.อนุพงษ์  ยังระบุว่า ตนตั้งเป้าว่ากรณีแบบนี้ต้องไม่เกิดขึ้น มาตรการหนึ่งที่ผมจะเสนอแนะผู้ว่าฯทั่วประเทศ คือ ต้องให้แนวนโยบายที่แน่ชัดกับนายอำเภอ เพราะนายอำเภอค่อนข้างที่จะกำกับดูแลแล้วได้ผล นายอำเภอต้องรู้ว่ามีโรงเรียนใดบ้างที่ต้องเฝ้าระวัง หรือโรงเรียนใดบ้างที่ไม่ต้องห่วง ต้องหามาตรการ นายอำเภออาจจะลงไปสุ่มตรวจดูบ้าง ผู้ที่ช่วยได้เยอะอีกกลุ่มคือภาคเอกชน ผู้ปกครอง ภาคประชาชน สื่อมวลชน ถ้ามันมีอาการไม่ดีก็จะได้แก้ไขได้ทัน เป็นสิ่งที่ผมอยากสร้างกลไกนี้ไว้ ผมไม่ตำหนิหากสื่อมวลชนได้ข้อมูลว่า พื้นที่ไหนน่าจะมีการทุจริตแล้วมาบอก ผมชอบ ช่วยกันดูช่วยกันบอก จะได้หาทางแก้ไข แต่ต้องมาจากความสุจริต ไม่ใช่มาใส่ไฟกัน” รมว.มหาดไทย กล่าว


"ตำบลทั่วประเทศมีตั้ง 7,000 กว่าแห่ง โรงเรียนก็ต้องเยอะแยะมากมาย ถ้าไม่วางโครงสร้างในการควบคุม มันก็จะเกิดข้อผิดพลาด งบฯ ไม่ว่าจะเป็น 5 บาท 10 บาท หรือ 20 บาทมีค่าทั้งนั้น เพราะเป็นงบฯของประเทศชาติ และเป็นงบฯของเด็กนักเรียน ถือว่าน่าสงสาร ขณะที่โรงเรียนดีๆ ก็มีไม่น้อย แต่สังคมคงไม่รู้ สังคมคงเห็นเฉพาะที่มีปัญหา" มท.1 ระบุ พร้อมกล่าวว่า


 ถ้านายอำเภอรู้ว่ามีโครงการลักษณะนี้ ควรหาผู้มาช่วยส่งเสริม เช่น ภาคเอกชน พ่อค้าต่างๆ เพื่อให้เด็กนักเรียนได้รับประโยชน์ เพราะงบฯหัวละ 20 บาทถือว่าน้อย แต่จะทำให้ดีคงไม่ง่าย ต้องหามาตรการมาช่วย แล้วดูว่าโรงเรียนไหนผ่าน โรงเรียนไหนมีปัญหาก็บันทึกทำเครื่องหมายไว้ จัดลำดับให้ดี