เลวเกินบรรยาย? รัฐฯ ฮึ่ม"แก๊งชั่วใช้ปมศาสนา-ล้างทุจริตเงินทอนวัด"ใส่ร้ายรัฐบาล บิดข่าวสร้างความแตกแยกพุทธ-มุสลิม ลั่นเจอตัวจัดการขั้นเด็ดขาด

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

 

เลวเกินบรรยาย?! รัฐฯ ฮึ่ม "แก๊งชั่วใช้ปมศาสนา-ล้างทุจริตเงินทอนวัด" ใส่ร้ายรัฐบาล โดยบิดเบือนข่าวหวังสร้างความแตกแยกพุทธ-มุสลิม โดยจงใจใส่ร้ายว่า นายกฯ เป็นมุสลิมจึงให้ความสำคัญกับศาสนาอิสลามมากกว่าศาสนาพุทธ (จึงบุกจับพระเถระชั้นผู้ใหญ่คดีเงินทอนวัด) ลั่นเจอตัวการจัดการขั้นเด็ดขาด

 

วันนี้ (9 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการแชร์ข้อความและภาพในโซเชียลมีเดียระบุ เหตุผลในการจับพระให้เป็นข่าวใหญ่ ก็เพื่อกลบข่าวการเปิดทำเนียบเลี้ยงละศีลอดเดือนรอมฎอน รวมทั้งรัฐบาลอนุมัติงบประมาณก่อสร้างมัสยิดหลายแห่ง เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นมุสลิมจึงให้ความสำคัญกับศาสนาอิสลามมากกว่าศาสนาพุทธ ว่า

“เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยมีผู้พยายามจะปล่อยข่าวบิดเบือนสร้างความสับสน ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรก ยืนยันว่าพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นับถือศาสนาพุทธ จะเห็นได้ว่านายกฯ เป็นผู้ที่ทำบุญตักบาตรอย่างสม่ำเสมอ และเข้าร่วมพิธีทางศาสนาเมื่อถึงโอกาสสำคัญ เช่น วันวิสาขบูชา ทั้งที่เป็นพระราชพิธีและภายในทำเนียบรัฐบาล และในฐานะผู้นำประเทศก็ดูแลให้ความสำคัญกับทุกศาสนา”

 

 

ส่วนการจัดงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน ที่ทำเนียบรัฐบาลนั้น เป็นงานที่รัฐบาลจัดขึ้นเป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกปีตั้งแต่ในอดีตมา ไม่ใช่เพิ่งเริ่มในรัฐบาลนี้ เช่นเดียวกับงานเมาลิดกลางที่ผู้นำประเทศจะไปร่วมงานด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ การสนับสนุนงบประมาณให้แก่ศาสนาใดก็จะมีกฎระเบียบและขั้นตอนที่ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีก็ตาม โดยศาสนาพุทธก็มีเงินอุดหนุนวัด เช่นกัน ดังที่เป็นข่าวอยู่ในปัจจุบันว่ามีบางวัดกำลังมีปัญหาเรื่องการทุจริตอยู่ในเวลานี้

 

 

“หากตรวจสอบข้อเท็จจริงจะพบว่า มัสยิดที่มีการก่อสร้างหลายแห่งนั้น ส่วนใหญ่ใช้เงินบริจาค หรืองบประมาณจากท้องถิ่น เช่น มัสยิดที่ จ.นนทบุรี ส่วนที่ จ.นครศรีธรรมราช ก็มีการอนุมัติงบตั้งแต่ปี 2555 ขณะที่ค่าตอบแทนของโต๊ะอิหม่าม อิหม่าม คอเต็บ และบิหลั่น ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยนั้นอยู่ระหว่าง 1,000 – 3,500 บาท ไม่ใช่ 18,000 บาทต่อเดือน ตามที่มีการกล่าวอ้าง” โฆษกรัฐบาล กล่าว

 

ทั้งนี้ รัฐบาลขอให้พี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลที่บิดเบือน และขอให้ผู้ไม่หวังดีหยุดพฤติกรรมบ่อนทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างศาสนา หากสืบทราบว่าผู้ใดเป็นต้นตอของการปล่อยข่าวเท็จจะถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด