แห้วหรือไม่!!จับ”อดีตพระพรหมเมธี” กลับไทย “บิ๊กป้อม”ลั่นไม่ยังไม่รู้ว่าจะได้ตัว??

ความคืบหน้าการติดตามตัว พระจำนงค์ เอี่ยมอินทรา หรือ อดีตพระพรหมเมธี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีเงินทอนวัด หลังพบเบาะแสว่าอดีตพระพรหมเมธีหลบหนีไปยังประเทศเยอรมนี

 

ทันทีที่อดีตพระพรหมเมธีเดินทางถึงเยอรมนี ได้ยื่นคำร้องขอลี้ภัยกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองประเทศเยอรมนี และ ตม.เยอรมนี ส่งคำร้องขอลี้ภัยของพระจำนงค์ไปยังสำนักงานดูแลผู้อพยพและผู้ลี้ภัยแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี(BAMF) ถือเป็นพระสงฆ์ไทยรูปแรกที่ขอลี้ภัยในต่างประเทศเลยก็ว่าได้

 

 

ภายหลังจากที่คณะของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)เดินทางไปที่เยอรมัน เพื่อไปรับตัวอดีตพระพรหมเมธี แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ  ต้องรอผลเป็ลา3วัน

 

 

ล่าสุดพล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าการติดตามตัวอดีตพระพรหมเมธีจากประเทศ เยอรมัน หลังเกินกำหนด3วันที่ทางการเยอรมันขอเวลาไว้ว่า

เรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่เค้าไปดำเนินการอยู่  

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทางการเยอรมันแจ้งมาให้ทราบความคืบหน้าหรือไม่ พล.อ ประวิตร กล่าวว่า ยัง เดี๋ยวเค้ากำลังดำเนินการอยู่ 

 

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า มีกระแสข่าวว่าทางเยอรมันจะขอเลื่อนเวลาในการพิจารณากรณีอดีตพระพรหมเมธีออกไป พล.อ ประวิตร กล่าวว่า เลื่อนก็เลื่อน เค้าให้ก็ดีแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าอย่างไรให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการ

เมื่อถามอีกว่า ยังมั่นใจหรือไม่ว่าจะได้ตัวอดีตพระพรหมเมธี กลับมาดำเนินคดี พล.อ ประวิตร กล่าวว่า ตนยังไม่รู้  เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่าทางการเยอรมันแจ้งมาว่าอย่างไรบ้าง พล.อ ประวิตร ปฎิเสธที่จะตอบคำถาม กล่าวเพียงสั้นๆว่า ไม่รู้ 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่าไทย-เยอรมันไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน จะทำให้เป็นปัญหาในการส่งตัวอดีตพระพรหมเมธีกลับมาดำเนินคดีในไทยหรือไม่พล.อ ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ ไม่ตอบ 

 

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตุว่าตลอดการให้สัมภาษณ์ พล.อ ประวิตร มีท่าทีไม่ต้องการตอบคำถามเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวนี้ คือ ถามคำ ตอบคำ และบ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถามและให้ข้อมูลใดๆ โดยจะกล่าวเพียงสั้นๆแค่ ไม่ตอบ ไม่รู้

 

มีรายงานว่าการปฎิเสธที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้ากรณีอดีตพระพรหมเมธีของพล.อ ประวิตร เป็นเพราะหากพูดอะไรออกไปเวลานี้อาจส่งผลต่อความพยายามในการนำตัวอดีตพระพรหมเมธีกลับมาดำเนินคดีในไทยได้