- 11 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
นับว่าน่าสนใจอย่างยิ่งทีเดียว เมื่อ "สุริยะใส กตะศิลา" รองคณบดี วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ออกมาแสดงความเห็นล่าสุดทางการเมือง โดยพูดถึงกรณีพรรคการเมืองเรียกร้องให้ใช้ ม.44 ยกเว้นการทำ "ไพรมารีโหวต" ในการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ โดยรองคณบดีฯ มหาวิทยาลัยรังสิต ยืนยันว่า นั่นเป็นการตัดตอนการมีส่วนร่วมของประชาชนที่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองออกไป แล้วการเมืองไทยจะหวนสู่ยุค"แฟมิลีโหวต-พรรคเป็นของคนตระกูลเดียว"
โดยนายสุริยะใส ระบุว่า มีการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้คำสั่งมาตรา 44 ยกเว้นการทำไพรมารีโหวตในการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ ว่ามีข้ออ้างสารพัดโดยเฉพาะการเตรียมตัวไม่ทันของพรรคการเมือง โดยก่อนหน้านี้ในช่วงที่มีการแปรญัตติร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองก็พบว่า พรรคการเมืองส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับระบบไพรมารีโหวต หรือการสรรหาผู้สมัครของพรรคโดยให้ประชาชน หรือสมาชิกพรรคมีส่วนร่วม
“ไพรมารีโหวตในสายตาของพรรคการเมืองยังมองว่า เป็นหอกข้างแคร่ที่เป็นอุปสรรคต่อวิถี หรือการบริหารจัดการพรรคการเมืองแบบเก่าๆ หรือพรรคการเมืองที่มีเจ้าของเพียงคนเดียวหรือตระกูลเดียว หรือกลับไปที่ระบบแฟมิลีโหวต ซึ่งประชาชนต้องช่วยกันติดตามตรวจสอบ เพราะการยกเว้นหรือตัดกลไกไพรมารีโหวตออกไป เท่ากับเป็นการตัดตอนบทบาท และการมีส่วนร่วมของประชาชนที่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง และจะส่งผลให้การปฏิรูปพรรคการเมืองให้เป็นสถาบันเป็นพรรคการเมืองที่ประชาชนเป็นเจ้าของกลายเป็นเรื่องเพ้อฝัน และสุดท้ายพรรคการเมืองก็จะกลายเป็นแค่แหล่งรวมกลุ่มผลประโยชน์ที่ใช้พรรคการเมืองเข้ามาเป็นเครื่องมือตักตวงผลประโยชน์และอำนาจรัฐเหมือนที่ผ่านๆ มาเท่านั้น”
รองคณบดี วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ยังระบุด้วยว่า การประชุมร่วมกันระหว่าง คสช.และบรรดาพรรคการเมือง ต้องไม่มีภาพของความคลางใจ หรือตกลงกันโดยเอาผลประโยชน์ความสะดวกสบายของพรรคการเมืองเป็นตัวตั้ง แต่ไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนตามเจตนารมย์ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง