ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องบอกเลยว่าแวดวงการเมืองกลับมาเข้มข้นขึ้นเป็นพิเศษ ทั้งกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. นำทัพเดินทางเยือน อังกฤษ และฝรั่งเศส พร้อมๆกับการที่2 พี่น้องนายทักษิณ - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ได้เช็คอินฉลองวันเกิดครบ 51 ปี เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ของน้องสาวอย่างน.ส.ยิ่งลักษณ์

ที่”จอม เพชรประดับ” อดีตผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ได้โพสต์ภาพคู่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ขณะที่พบเจอกันที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้อวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดและเผยถ้อยคำบางส่วนในการหลบหนีออกนอกประเทศ ของน.ส.ยิ่งลักษณ์

 

สะอึกมั้ย"ณัฐวุฒิ"? บทเรียน"บุญทรง"นายใหญ่ประกาศลั่น-ไม่ยอมให้น้องสาวติดคุกแม้วินาทีเดียว" ลอยแพสมุน..จบไม่สักราย?!

หากแกะถ้อยความระหว่างบรรทัดที่นายจอม ระบุว่า มีคนถามคำถามนี้ด้วยเช่นกัน และคำตอบจากส่วนลึกในหัวใจของอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทยที่ได้คือ "เธอไม่คิดจะหนี และพร้อมที่จะเดินเข้าคุก เพราะเธอยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมว่าจะยังดำรงความเป็นธรรมให้กับเธอ และเธอก็ยืนยันเรื่องนี้มาโดยตลอด"

และเมื่อฟังมาถึงตรงนี้ เสียงหนึ่งดังขึ้นกลางวงสนทนาทันทีว่า "แต่ผมจะไม่ยอมให้น้องสาวผมติดคุกแม้แต่วันเดียว หรือแม้แต่วินาทีเดียว"

 

ไม่ต้องบอกคงนึกออกว่านี่เป็นเสียงของนายทักษิณพี่ชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์แน่ เพราะจอมก็บอกในประโยคต่อมาเองว่า...."เข้าใจ และเห็นใจ ทั้งสองอดีตนายกฯพี่ชาย - ที่ต้องรับผิดชอบชีวิตน้องสาวไม่เพียงเพราะสายเลือดเดียวกัน แต่ด้วยเพราะเป็นผู้นำพาน้องสาวเข้าสู่สมรภูมิการเมืองฯ"

 

นั่นคือประตูเปิด....สู่การหนีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตามคำกล่าวอ้างของนายจอม จากนั้นทั้งนายทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ปล่อยภาพชีวิตหรูหรา ฟู่ฟ่า ในดินแดนที่หลายคนใฝ่ฝันว่าจะได้ไปสักครั้งในชีวิต...อวดโอ่ต่อสาวกอยู่เรื่อย ๆ และดูไม่เหมือนคนที่พร้อมจะติดคุกตามอ้าง

 

จึงทำให้หลายคนตั้งคำถาม นายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และตระกูลชินวัตร เคยคิดถึงเรื่องอื่นบ้างหรือไม่ นอกเสียจากประโยชน์ของครอบครัวของตนเอง หักหลังได้แม้แต่ลูกน้องของตัวเองใช่หรือไม่??

 

 เพราะคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นคดีทุจริต ที่ปล่อยปละละเลยให้เกิดการโกง - ไม่ใช่คดีการเมืองตามที่แกนนำคนเสื้อแดงกล่าวอ้าง...และมีความเสียหายนับ 5 - 6 แสนล้านบาท รวมทั้งข้าวเน่ากองโตที่คาอยู่ในโกดังที่รัฐบาล คสช. ต้องแบกภาระค่าเช่าต่อมาอีกหลายปีเป็นประจักษ์พยาน

อีกทั้งคดีจำนำ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษาสั่งจำคุก ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต อาทิ

นายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์  จำคุก 36 ปี ไม่รอลงอาญา

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์   จำคุก 42 ปี ไม่รอลงอาญา

นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ   จำคุก 40 ปี

นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีต ผอ.สำนักการค้าข้าวต่างประเทศ และอดีต รองอธ.กรมการค้าต่างประเทศ จำคุก 32 ปี 

นายอัครพงศ์ ช่วยเกลี้ยง หรือทีปวัชระ อดีตเลขานุการกรมการค้าต่างประเทศและอดีตผอ.สำนักการค้าข้าวต่างประเทศ  จำคุก 24 ปี 

หรือแม้แต่ เสี่ยเปี๋ยง นายอภิชาติ  จันทร์สกุลพร คนสนิทนายทักษิณ ก็ต้องโทษ จำคุก 48 ปี  เช่นกัน

 

โครงการรับจำนำข้าวถูกริเริ่มโดยนายทักษิณ และรัฐบาลยิ่งลักษณ์นำมาดำเนินการ แต่เมื่อโครงการมีปัญหาพบการทุจริต ฝ่ายปฏิบัติอย่างนายบุญทรง และคนอื่นๆต้องถูกจำคุก พร้อมกับปริศนาที่พูดไม่ได้ นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของผู้รับใช้ ”ระบอบทักษิณ” ได้รับ??

 

ตัดสลับมาที่อีกหนึ่งบุคคลที่เข้าข่ายเป็นผู้รับใช้ ”ระบอบทักษิณ” อย่างนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ยังคงหล่อเลี้ยงกระแสของคนเสื้อแดงไม่ให้จางหายไป

 

 เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ในการแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติยกคำร้องของ นายณัฐวุฒิ ที่ขอให้รื้อฟื้นคดีสลายการชุมนุม นปช. ปี 2553 เพื่อดำเนินคดีกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น

 

นายณัฐวุฒิเองถึงกับนั่งน้ำตาคลอ ระหว่างการสอบถามถึงเหตุผลที่ ป.ป.ช.  เนื่องจากเห็นว่ามติเดิมที่ ป.ป.ช. วินิจฉัยไปถูกต้องแล้ว ทั้งนี้นายณัฐวุฒิยังระบุอีกว่า ไม่ยอมรับมติ ป.ป.ช. และได้เตรียมรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 2 หมื่นคน เพื่อยื่นต่อประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ,ศาลฎีกาให้ตั้งกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. แถมยังมีขู่อีกด้วยว่า อนาคตต้องเจอกันแน่!!

 

ไม่ว่านายณัฐวุฒิจะต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพี่น้อง นปช.จริงหรือไม่ หรือแค่ต้องการหยั่งเสียง ปลุกกระแสแนวร่วมเสื้อแดง ยังมีแนวร่วม นปช.หลงเหลืออยู่มากน้อยเพียงใด  ซึ่งรูปแบบการเมืองของระบอบทักษิณที่ผ่านมา เป็นยุทธสาตร์2ขา แบ่งเป็นพรรคการเมือง ในสภาก็เคลื่อนในนามพรรคเพื่อไทย กับนอกสภาก็เคลื่อนโดยองค์กรแนวร่วม คนเสื้อแดงหรือนปช. เพื่อเป้าหมายสำคัญ คือ การชนะเลือกตั้งใหญ่ ที่กำลังจะมีขึ้น

 

ไม่รู้ว่านายณัฐวุฒิ จะได้อ่านวาทะเด็ด "แต่ผมจะไม่ยอมให้น้องสาวผมติดคุกแม้แต่วันเดียว หรือแม้แต่วินาทีเดียว" นี่แล้วหรือยัง.. จะมีความรู้สึกเจ็บช้ำน้ำใจบ้างหรือไม่

 

นายณัฐวุฒิเองก็ไม่ใช่จะไร้คดีติดตัว โดยเฉพาะในคดีเป็นผู้ว่าจ้างให้นายอริสมันต์ นำมวลชนไปล้มการประชุมที่ยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม แต่ที่แน่ๆจุดจบของผู้รับใช้ระบอบทักษิณไม่ดีสักคน  ดังกรณีของนายบุญทรงและนายภูมิ ถูกลอยแพเช่นนี้