
ไปอาศัยประเทศเขาอยู่ แล้วเกิดมาเป็นคนไทยทำไม!! "บิ๊กตู่" ฉะใคร..ปากบอกรักประชาธิปไตย แต่สร้างความวุ่นวาย!?
Publish 2018-06-26 15:06:32
พล.อ ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเดินทางกลับจากการเยือนอังกฤษ-ฝรั่งเศส ที่ท่าอากาศยาน2กองบิน6 ดอนเมืองว่า เรื่องการเมืองตนไม่ขอพูดอะไร เพราะพล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมได้พูดไปหมดแล้ว และตนได้ทำการติดต่อกับพล.อ ประวิตร ตลอดเวลา ก่อนเดินทางไป ตนได้มอบหมายในหัวข้อการพูดคุยไว้กับพล.อ ประวิตร หมดแล้ว ซึ่งทั้งหมดจะนำมาพิจารณาในที่ประชุมคสช.อีกครั้งหนึ่ง ขออย่าให้บ้านเมืองเกิดความไม่สงบขึ้นอรกเลย ช่วงนี้ก็เดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง ขอให้คิดถึงคนที่เดือดร้อนบ้าง หากเล่นแต่ข่าวการเมืองแบบอย่างนี้ อย่างอื่นจะไหลตามไปหมด การเมืองก็คือการเมืองก็เดินหน้าไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่ตนกังวลก็คือ จะได้รัฐบาลอะไรกลับมา ตามที่กล่าวอ้างว่า ทำเพื่อประชาชน ตนตามดู ไม่เห็นจะมีใครพูดเรื่องเหล่านี้ เห็นพูดแต่จะแก้โน่น แก้นี่ เท่านั้น ทำไมไม่มองดูตัวเลขอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ว่าขึ้นไปเท่าไหร่บ้าง ปีแรกก่อนเข้ามา 0.9 และขึ้นมาเป็น 2 เป็น3 จนวันนี้ตัวเลขจีดีพีอยู่ที่ 4แล้ว และไตรมาสแรกโต4.8 % ปัญหาอยู่ตรงไหน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากคนจนไม่ได้อะไรจากตรงนี้ ตามข้อเท็จจริงแล้วใช่หรือไม่ ในเมื่อตัวเลขเศรษฐกิจดีขึ้นก็ต้องมีคนได้ประโยชน์จากตรงนี้ ไม่ใช่คนรวยอย่างเดียว แต่เป็นคนที่อยู่ในวงจร อยู่ในห่วงโซ่เกษตร ลูกจ้าง จะมีรายได้ อย่ามาพูดว่ารัฐบาลทำเพื่อคนรวย ไม่ใช่ ถ้าตนทำเพื่อคนรวยจริง ตนไม่ทำแบบนี้ให้ยุ่งยากแบบนี้หรอก ไม่ต้องเอาโครงการไทยนิยมลงไปในพื้นที่ 3-4ปีที่ผ่านมาตนพยายามเต็มที่ เวลาที่เหลืออยู่พยายามที่จะให้ประชาชนในพื้นที่เข้าใจในการพัฒนาพื้นที่ตนเอง
“และโครงการไทยนิยมไม่ได้ทำเพื่อหวังคะแนนเสียงอะไร ผมยังไม่ได้อยู่กับใครสักคนหนึ่งเลย
สักพรรคหนึ่งเลย เพราะฉะนั้นก็เป็นการประเมินกันไปอีก วันหน้าเมื่อมันถึงเวลา เมื่อถึงตอนนั้นค่อยพูดกันดีกว่ามั้ง พูดตอนนี้ก็มีแต่เทลาะกัน “
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าอย่าไปหวังอะไรกับการเลือกตั้งในวันข้างหน้าเพราะทุกอย่างจะเหมือนเดิม หากยังจะอยู่กันแบบนี้ บนความขัดแย้ง ขอให้ทุกคนได้ช่วยกันสร้างความเข้าใจว่าประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลง ใน5ปีข้างหน้าและต่อๆไปในทุก5ปีและพัฒนาไปเรื่อยๆ ไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตามแนวทางศาสตร์พระราชา
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ตนอ่านในโซเชียลมีเดียแล้วไม่สบายใจเพราะทำให้เกิดคน2ฝ่ายเสมอ เป็นธรรมดาของสื่อ แต่อะไรที่เป็นความขัดแย้ง และไม่ใช่ข้อเท็จจริง และคนพูดที่ไม่ควรได้รับความสนใจ แล้วสื่อจะเสนอไปทำไม
“ไปให้เกียรติเค้าทำไม เราควรจะให้เกียรติคนที่ทำงานอยู่ในประเทศ ในนี้ไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ไปให้เครดิตกับคนที่ทำความผิดแล้วหนีไปอยู่ที่โน่น ผมไปต่างประเทศไป2ประเทศก็มีคนสนับสนุนผม คนไม่ชอบผมก็มี แต่ผมไม่โกรธเค้า เพราะผมเป็นคนไทย ไม่ว่าเค้าจะไปทำอะไรที่ไหนก็ตาม เค้าคือคนไทย ผมต้องรักเค้า เพียงแต่เค้าไม่เข้าใจผมวันนี้ วันหน้าอาจเข้าใจ หรือ ไม่เข้าใจก็แล้วแต่เค้า ผมทิ้งเค้าไม่ได้หรอก อย่าไปให้เครดิตคนที่ไม่สร้างสรร หรือโจมตีประเทศตัวเอง ไปอาศัยประเทศเค้าอยู่ แล้วเกิดมาเป็นคนไทยทำไม ไปอยู่แบบคนชั้น2เค้า ขออาศัยเค้าอยู่ อย่าทำ ผมว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเลย มันควรจะเดินสู่ครรลองกฎหมาย กฎหมายเค้ามีไว้ให้สู้คดี ให้เกิดความเป็นธรรม ถ้าคิดว่าถูกก็กลับมา “
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ที่ตนพูดไม่ได้หมายถึงใครคนใดคนหนึ่ง และทุกอย่างที่ตนทำมาไม่ได้ทำเพื่อตนเองเลย และตนไม่เคยได้ประโยชน์อะไรจากที่ตนทำ. และจากที่เดินทางไปต่างประเทศ ต่างประเทศให้เกียรติตนเป็นอย่างดี แต่มีคนบางประเภทที่ไม่เข้าใจอะไร ปากบอกรักประเทศไทย รักประชาธิปไตย มันใช่ไหม ตนเข้ามาเพื่อทำทุกอย่างให้เร็วขึ้น แต่ทุกคนพยายามให้วุ่นวายกันต่อไป ตนถามหน่อยว่าจะอยู่กันอย่างไร จะทำไปเพื่ออะไร ทุกคนตอนนี้ทำตามใจตัวเองกันทั้งหมด และมีคนไปยุแยงตะแคงรั่วไปเรื่อย และนี่แหละประเทศไทยมันเปลี่ยนแปลงยากตรงนี้ คือความเคยชิน ขออย่าเอาการเมืองอย่างเดียวเลย และขออย่าเอาประเทศไปประจาน
ข่าวอื่นๆ ในเครือ
'ศรีสุวรรณ' จี้ 'บิ๊กตู่' สอบผบ.ทหารปล่อยให้มีทหารรับใช้
ร้อยคำพูดหรือจะสู้! คลิปพิเศษนายกฯปู
“จุรินทร์” ลั่น!ส.ส.ต้องยึดมติพรรค-วิปรัฐบาล
เรียบเรียงโดย