"บิ๊กป๊อก" เผยต้องเร่งระบายน้ำ-นำ 13 หมูป่าออกก่อนฝนตกหนักรอบใหม่ ระบุอยากให้เร็วที่สุด-ยกทุกคนเป็นพระเอก

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

วันนี้ (3 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา" รมว. มหาดไทย ได้ออกมากล่าวถึงความคืบหน้า การช่วยเหลือเด็ก ๆ นักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมี 13 คนออกจากถ้ำหลวง จ.เชียงราย หลังจากพบเด็กทั้ง 13 คนช่วง 3 ทุ่มคืนนี้ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างนำตัวทั้ง 13 คนออกมาจากถ้ำ โดยจะใช้เส้นทางเดิม แต่สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการคือการระบายน้ำออกจากถ้ำ เพื่อจะได้ไม่ต้องดำน้ำออกมา แต่บางช่วงอาจไม่สามารถดำเนินการได้โดยเฉพาะช่วงสามแยกในถ้ำ ส่วนที่คาดการณ์ว่าช่วง 2-3 วันนี้จะมีฝนตกลงมาถ้าเป็นเช่นนั้นจะต้องเร่งนำเด็กออกมาให้ได้ โดยใช้อุปกรณ์ดำน้ำเพราะถ้าน้ำสูงกว่านี้จะทำให้การทำงานลำบาก เราจึงต้องชิงนำตัวเด็กออกมาจากถ้ำให้ได้ก่อน สำหรับการช่วยเหลือนั้น ต้องใช้เจ้าหน้าที่ 2 คนต่อเด็ก 1 คน เชื่อว่านักดำน้ำได้มีการเตรียมแผนไว้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่าจะให้เด็กทั้ง 13 คนหลีกเลี่ยงการดำน้ำออกมาใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การดำน้ำไม่ใช่เรื่องง่าย คนที่ไม่เคยดำน้ำจะทำยาก เพราะในถ้ำมีลักษณะเป็นช่องแคบ ดังนั้นจะต้องใช้อุปกรณ์ดำน้ำให้เป็น หากอุปกรณ์ดำน้ำหลุดช่วงใดอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ อีกทั้งภายในถ้ำก็ค่อนข้างมืด ถามว่าเด็กพวกนี้เก่งไหม ตนคิดว่าเด็กพวกนี้เก่งและเชื่อว่าหน่วยซีลจะช่วยเหลือเด็กออกมาได้


ส่วนถามว่าทั้ง 13 คนจะออกมาจากถ้ำได้ใน 2-3 วันนี้หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ ตอบว่า ขอตั้งความหวังว่าวันนี้ (3 ก.ค.) น่าจะออกมาได้ แต่ต้องดูส่วนปฏิบัติการก่อนว่ามีแผนและวิธีการนำเด็กออกมาจากถ้ำได้อย่างไร ทราบว่าหน่วยซีลได้นำหมอเข้าไปในถ้ำด้วยอยู่แล้ว


 


 

เมื่อถามอีกว่า เรื่องนี้ใครควรเป็นพระเอก พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่าสิ่งที่ทำให้เกิดความสำเร็จคือความร่วมมือร่วมใจในการทำงาน ถือว่าเป็นพระเอกทุกคนเพราะมีความหมาย ทั้งจิตอาสา พนักงานโบกรถ ทุกคนต่างทำหน้าที่ของเขา ส่วนเบื้องหลังของพระเอกตัวหลักคือหน่วยซีลที่เข้าไป และภายใต้หน่วยซีลก็มีหน่วยสนับสนุนอีกเป็นจำนวนมากเพราะเขาต้องลุยไปข้างหน้าอย่างเดียว รวมถึงทีมที่อัดน้ำ อัดอากาศ ส่งของไปให้หน่วยซีล ส่วนสำคัญคือการไฟฟ้าที่เดินสายไฟจำนวนมาก ภายใต้ภาวะที่ยากลำบาก เพราะสายไฟอยู่กับน้ำ และช่วยกันปั๊มน้ำ ตนว่าพระเอก พระรองมีเยอะ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความร่วมมือร่วมใจของทุกคน รวมถึงพระบารมี และสมเด็จพระสังฆราชซึ่งท่านได้ประทานพรให้ ถ้าทุกอย่างทำงานแล้วมีความร่วมมือร่วมใจกันก็จะสำเร็จหมดในเมืองไทย

 

รมว. มหาดไทย ยังระบุด้วยว่า กล่าวต่อถึงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ที่ประสบความเดือดร้อนจากปริมาณน้ำที่พร่องออกมาจากถ้ำว่ามีการสำรวจความเสียหายไว้แล้ว ทุกอย่างจะดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ต้องกังวลทุกภาคส่วนก็จะเข้าไปช่วยกัน และจากการตรวจสอบเมื่อวานนี้(2 ก.ค.) ยังไม่พบความเสียหายเกิดขึ้น แม้จะมีน้ำเข้าไปในนา ทั้งนี้ตนเองคงไม่ได้ลงไปในพื้นที่เพราะเจ้าหน้าที่ทุกส่วนได้ปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดีแล้ว