เดือดสุดๆ!! “คนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม”บุกประณามถึงหน้าบ้าน"เอกชัย" การกระทำต่ำทรามโหน"หมูป่า"ตีกินการเมือง!!!

ภายหลังความพยายามจากทุกภาคส่วน เพื่อช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนทีม “หมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 คน” ที่พลัดหลงเข้าไปในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ประสบความสำเร็จในเบื้องแรก คือ พบตัวเด็กทั้ง 13 คนแล้ว

 

นายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมือง  ขั้วตรงข้ามคสช. ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ระบบการทำงานกู้ภัยของค้นหา 13 ชีวิต อย่างต่อเนื่องและกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที เมื่อวานที่ผ่านมา (4 ก.ค.) นายเอกชัย เดินทางมาข้างทำเนียบฯ เรียกร้องให้รัฐบาลตั้ง “หน่วยกู้ภัยแห่งชาติ” เป็นผลจาก ทีมหมูป่าฯติดในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน เห็นว่ารัฐบาลควรจัดตั้งหน่วยกู้ภัยแห่งชาติ และเพิ่มอุปกรณ์การช่วยเหลือ จะเห็นว่าลำพังการใช้กำลังทหาร และหน่วยซีล ไม่สามารถช่วยเหลือได้

ล่าสุดวันนี้ (5 ก.ค.) ได้มีกลุ่มนักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ร่วมตัวกันในนาม “กลุ่มคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม” ได้เดินขบวนมาบริเวณหน้าบ้านของนายเอกชัย พร้อมอ่านแถลงการณ์ ซึ่งนายเอกชัยไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว

 

 

แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า ..เนื่องจากสถานการณ์ที่ผ่านมาการช่วยเหลือน้องน้องทั้ง 13 คนที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนจังหวัดเชียงราย เป็นเวลาหลายวันเป็นสิ่งที่ประชาชนคนไทยและชาวต่างประเทศทั่วโลกคอยติดตามความคืบหน้าทุกคนมีความห่วงใหญ่อย่างมีความหวังเฝ้ารอการกลับมาของน้องน้องที่หมูป่าและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำงานไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยซิว. ทหาร ตำรวจ ชาวต่างชาติ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ปฎิบัติหน้าที่ในการช่วยเหลือน้องๆทั้ง 13 คน

 

ทั้งหมดล้วนระดมกำลังกันอย่างเต็มที่ในท่ามกลางความกดดันที่จะเร่งช่วยน้องๆให้ได้เร็วที่สุด สิ่งเหล่านี้เป็นการแสดงออกถึงการเสียสละของเจ้าหน้าที่ในการทำภารกิจช่วยชีวิตคน ถือเป็นการกระทำที่ควรยกย่องตามหลักมนุษยธรรมโดยคนไทยและชาวต่างชาติประเทศล้วนส่งแรงใจไปให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานโดยตลอดมา โดยทางกลุ่มเห็นว่าทุกภาคส่วนของสังคมไทยในร่วมใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการช่วยเหลือและให้กำลังใจเป็นการแสดงออกซึ่งความรักความสามัคคีของคนในชาติเป็นเรื่องดีๆที่เกิดขึ้นในสังคมไทย 

 

แต่ในขณะเดียวกันก็เกิดกรณีผู้ไม่หวังดีคือคุณเอกชัย หงส์กังวาน ที่พยายามสร้างกระแสหยิบยกประเด็นต่างๆเพื่อทำลายกำลังใจของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและมุ่งหวังเชื่อมโยงทางการเมืองซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเป็นการแสดงออกที่หวังผลทางการเมืองโดยไม่แยกแยะผิดชอบชั่วดีความเหมาะสมตามหลักมนุษยธรรมและความเห็นใจคนไทยด้วยกันแสดงออกให้เห็นถึงการไร้ซึ่งวุฒิภาวะความรับผิดชอบต่อสังคมพยายามปลุกปั่นให้เกิดการเกลียดชังกันในสังคม

 

 

โดยไม่มีเหตุอันชอบธรรมด้วยเหตุนี้ทางกลุ่มคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคมจึงขอประณามการกระทำของคุณเอกชัย หงส์กังวาน ในพฤติกรรมต่ำทรามไรสามัญสำนึก การหาผลประโยชน์จากสถานการณ์เพื่อหวังผลทางการเมืองโดยขาดความรับผิดชอบต่อสังคมและเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ ไม่ควรเอาเป็นแบบอย่าง ทั้งนี้ทางกลุ่มขอแสดงออกในสิ่งที่ควรกระทำเพื่อเป็นการสร้างบรรทัดฐานของสังคมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่กำลังปฎิบัติหน้าที่ในการช่วยเหลือน้องๆทั้ง 13 คนต่อไป

หลังจากอ่านแถลงการณ์ดังกล่าว ตัวแทน“กลุ่มคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม” ได้ปราศรัยวิพากษ์พฤติกรรมของนายเอกชัยอย่างดุเดือด บางช่วงบางตอนระบุว่า...

 

รับไม่ได้อย่างยิ่งกับการกระทำของนายเอกชัย ซึ่งพวกตนเป็นกำลังใจให้กับน้องๆ แต่มีคนบางคน หรือบางกลุ่มพยายามที่จะดิสเครดิตภาคส่วนที่เข้าไปช่วยเหลือ เพื่อทำให้การช่วยเหลือล่าช้า พยายามตีกินทางการเมืองต่างๆโดนไม่คำนึงถึงหลักมนุษยธรรม เป็นการกระทำที่ต่ำทราม ไม่มองผลประโยชน์ของชีวิตคนเป็นหลัก พวกตนรับไม่ได้ต่อการกระทำในครั้งนี้

 

ต่อจากนั้นนายเอกชัยได้ตอบโต้กลุ่มดังกล่าว โดยอ้างว่า ตนเก็เป็นห่วงเด็กทั้ง 13 คนในถ้ำ  ไม่น้อยกว่าคนไทยทั้งประเทศ แต่สิ่งที่ตนตั้งคำถามคือ ทำไมคนไทยถึงติดกับความคิดที่ว่า ทหารหรือหน่วยซีล เป็นหน่วยกู้ภัย เป็นความคิดที่มันไม่ถูกต้อง

 

นายเอกชัยระบุต่อด้วยว่า ..”เพราะเห็นชัดเจนว่า มีปัญญาซื้อเรือดำน้ำ แต่ไม่มีปัญญาซื้ออถ่านไฟฉาย”

 

โดยในช่วงนี้เองได้เกิดการปะทะคารมระหว่างนายเอกชัยกับ“กลุ่มคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม” ทั้งนี้นายเอกชัยได้ย้ำอีกด้วย การกู้ภัยไม่ได้ง่ายเหมือนการรัฐประหาร !!

 

 

อย่างไรก็ตามมีการตั้งข้อสังเกตว่าการที่นายเอกชัยออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้มีนัยยะบางอย่างทางการเมืองแอบแฝงหรือไม่ เพราะก่อนหน้านายเอกชัยเคยได้ออกมาวิพากษ์การทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหาร มาแล้ว ระบุว่า

 

 “นักร้องวิ่งหาเงินช่วย รพ

ทหารหาเด็กแทนหน่วยกู้ชีพ

มิน่าประเทศถึงไม่พัฒนา ”

 

 

 

 ไม่เพียงเท่านั้น ในเวลาต่อมานายเอกชัย ก็ได้โพสต์ข้อความในลักษณะดังกล่าวอีกครั้ง ระบุว่า..

 

“พรรคไหนลดทหาร

เพิ่มหน่วยกู้ภัย

ผมเลือกพรรคนั้น”

 

 

และต่อมาอีกหลายครั้ง.. 

 

“การที่เรายังยึดติดกับความคิดทหารคือ หน่วยกู้ภัย ทำให้การพัฒนาหน่วยกู้ภัยพลเรือนไม่เกิด

นอกจากนี้ทหารยังจะใช้ข้ออ้างนี้ในการเกณฑ์ทหาร และฝังตัวในกรุงเทพต่อไป

หากเรายังไม่สามารถแยกการกู้ภัยออกจากทหาร กองทัพก็ยังมีขนาดใหญ่ และมีอิทธิพลในทางการเมืองต่อไป”