"พล.ท.นันทเดช"ถลกหนัง"ตระกรูชิน"ปล่อยกู้เอ็กซิมแบงก์ พยานแฉ มีชื่อ"โอ๊ค" ผู้ติดตามไปพม่า??!!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

จากกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองได้ออกหมายจับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตรนายกรัฐมนตรี ในคดี เอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้เมียนมาสี่พันล้านบาท เอื้อประโยชน์ในเครือชินคอร์ป ถือว่าเป็นหมายจับใบที่4 ภายหลังจากที่พ.ร.ป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้วเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2560

ขณะเดียวกันได้มีความคิดเห็นจากทางด้าน พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์  อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) ได้โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นกรณีดังกล่าว ในหัวข้อ

 

"บาปกรรมนั้นวนเวียนอยู่รอบๆตัวเราเสมอ ไม่ได้หายไปเพราะการทำบุญแต่อย่างได" พร้อมระบุว่า...

 


เมื่อ 4ก.ค.61 ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของนักการเมืองออกหมายจับ. นาย ทักษิณ เป็นใบท่ี4ในคดีอนุมัติเงินกู้เอ็กซิมแบ็งก์ในอัตราต่ำกว่าดอกเบี้ยกว่าต้นทุนของธนาคาร เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มชินคอร์ป ลองมาดูเทียบเคียงกับคดี นาย สุรเกียรดิ์ เสถียรไทย อดีตรอง นรม./รมว.กต.รัฐบาลทักษิณ ได้ให้การต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมือง ในคดียึดทรัพย์7.6หมื่นล้าน บาท เมื่อ22ธ.ค.2552ในฐานะพยาน ก็พอจะเข้าใจเรื่องนี้ ได้ดียิ่งขึ้น.
คำให้การของ. นาย สุรเกียรติ์ จากคดียึดทรัพย์ นาย ทักษิณ 7.6หมื่นล้านนั้น พอสรุปในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคดีเอ็กซิมแบ็งค์ได้ว่า

รัฐบาลพม่า ขอกู้เงิน 3 พันล้านบาท เพื่อนำไปใช้การพัฒนาประเทศ 5 เรื่อง (การค้า การลงทุน, การเกษตรและอุตสาหกรรม, การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม, การท่องเที่ยวและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์) โดยไม่มีการเจรจา เกี่ยวกับกิจการโทรคมนาคม แต่อย่างได

ต่อมา พม่าขอกู้เพิ่มอีก 24 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ระบุจะไปใช้ในกิจการโทรคมนาคมแต่ ดร.สุรเกียรติ์ ซึ่งทำหน้าที่เจรจาในเรื่องดังกล่าว เสนอความเห็นต่อรัฐบาลพม่า และ นาย ทักษิณว่า "ไม่เห็นด้วยกับวงเงินกู้เพิ่มเพราะขณะนั้น เพราะผู้นำรัฐบาลไทย ก็มีธุรกิจเกี่ยวข้องกับกิจการโทรคมนาคม และ พม่ากำลังถูกแซงชั่นอีกด้วย"

 

รัฐบาลพม่าได้เปลี่ยนวิธีใหม่ ทำหนังสือขอเงินกู้เพิ่มอีก 2,000 ล้านบาท รวมกับวงเงิน 3,000 ล้านบาทเดิม เป็น 5,000 ล้านบาท โดยอ้างว่าเพื่อซื้อยางมะตอย และ วัสดุก่อสร้างจากไทยจำนวน1แสนตัน. ซึ่ง นาย ทักษิณฯได้อนุมัติเงินกู้เพิ่มเป็น 4,000 ล้านบาท

 

 กรณีนี้ นายสุรเกียรติ์ ยังได้ตอบอัยการโจทก์และการซักค้านของทนาย ของ นายทักษิณ ผู้ถูกกล่าวหาว่า พยานเพิ่งจะได้รับทราบเรื่องวงเงินปล่อยกู้ให้รัฐบาลพม่าจำนวน 4,000 ล้านบาท จากชั้นไต่สวนของคตส.ว่า รัฐบาลพม่าได้ใช้เงิน 300 ล้านบาท ในการทำสัญญาซื้ออุปกรณ์กิจการโทรคมนาคมจากบริษัท ชินแซเทิลไลท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือชินคอปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และไม่ทราบถึงเรื่องการเดินทางไปประชุมท่ีพม่าของ นายพานทองแท้ ชินวัตร แต่ยอมรับว่าเคยมีรายชื่อเป็นผู้ติดตามด้วยหลายครั้ง