- 15 ก.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากกรณีที่เพจ “KonthaiUk” ได้เสนอข้อมูลเท็จ เมื่อวันที่13 ก.ค. ที่ผ่านมาหลังจาก กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอขออนุมัติให้ 'การบินไทย' จัดซื้อเครื่องบินใหม่ ทดแทนเครื่องบินลำเก่า วงเงิน 1 แสนล้านบาท เโดยระบุว่า..
เอาเงินใครจ่ายเห็นเจ๊งทุกปี
ก็เงินภาษีของคนไทยจ่าย
เคยมีใครได้บินฟรีกันสักครั้งไหมวะ
ชงครม. ก.ย. ไฟเขียวการบินไทยซื้อเครื่องบินใหม่ 23 ลำ กว่าแสนล้าน
จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆเป็นจำนวนมาก ต่อมาเมื่อวันที่14 ก.ค. ทางด้านนางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า โครงการจัดหาเครื่องบินของ บริษัท การบินไทยฯ เป็นแผนการจัดหาเครื่องบิน ปี 2561-2565 จำนวน 23 ลำ ซึ่งเป็นการจัดหาเพื่อทดแทนเครื่องบินเก่าที่มีอายุใช้งานมากกว่า 20 ปี
และจะต้องปลดระวางตามแผนปฏิรูปองค์กร ซึ่งแผนดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากกระทรวงคมนาคมแล้ว และจะนำเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไปนั้น จากการที่บริษัทฯ เป็นบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทฯ ไม่ได้ใช้งบประมาณของภาครัฐ ซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชนมาใช้ในการจัดซื้อเครื่องบิน ซึ่งบริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจโดยไม่ได้พึ่งพางบประมาณของภาครัฐ
และรัฐบาลก็มิได้มีการจัดสรรงบประมาณให้กับบริษัท การบินไทยฯ แต่อย่างใด อนึ่ง การจัดหาเงินทุนของโครงการจัดหาเครื่องบินดังกล่าว บริษัทฯ อยู่ระหว่างการหารือกับที่ปรึกษาด้านการเงิน เพื่อช่วยพิจารณาการจัดหาแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมกับสถานะของบริษัทฯ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่11 ก.ค. ”ฐานเศรษฐกิจ”ได้เปิดเผยบทสัมภาษณ์ ของ แหล่งข่าวระดับสูงจากการบินไทย ถึงแผนการลงทุนจัดซื้อเครื่องบินใหม่ 23 ลำไว้อย่างละเอียด มีเนื้อหาทั้งหมดดังต่อไปนี้
แผนการลงทุนจัดซื้อเครื่องบินใหม่ 23 ลำ มูลค่าการลงทุนไม่เกิน 1 แสนล้านบาท เป็นกรอบลงทุนที่เป็นการลงทุนในการจัดซื้อเครื่องบินรวมเครื่องยนต์และอุปกรณ์ภายในเครื่องบิน เป็นแผนลงทุน 5 ปี (2561-2565) ซึ่งขอยืดหยุ่นให้การบินไทยสามารถจัดซื้อเครื่องบินได้ทั้งเครื่องบินลำตัวกว้างและลำตัวแคบ ที่เหมาะสมตามแผนการขยายเน็ตเวิร์คของการบินไทยในช่วง 5 ปีนี้ ซึ่งตามแผนการใช้เครื่องบินจะโฟกัสที่จุดบินของการบินไทยในปัจจุบันเป็นหลักและแผนที่อยากจะขยายในช่วง 5 ปีนี้ (ยังไม่รวมแผนเปิดจุดบินไปสหรัฐอเมริกา) แทนที่จะระบุว่า ต้องนำมาทดแทนเครื่องบินที่จะปลดระวาง 19 ลำ ซึ่งเป็นเครื่องบินพิสัยไกล 17 ลำ และเครื่องบินลำตัวแคบ 2 ลำ
"การยืดหยุ่นเช่นนี้จะทำให้การบินไทยสามารถซื้อเครื่องบินมาทดแทนเครื่องบินที่จะปลดระวาง 19 ลำ และยังอาจทำให้การบินไทยมีเครื่องบินมาใช้งานได้เพิ่มขึ้น และแผนดังกล่าวจะเป็นกรอบการลงทุนเฉพาะในส่วนของการบินไทย ไม่รวมการจัดหาเครื่องบินของไทยสมายล์ จำนวน 9 ลำ ที่จะไม่นำมารวม เพราะเป็นการต่อสัญญาการเช่าเครื่องบินเท่านั้น จากจำนวนเครื่องบินที่จะปลดระวางทั้งหมด 28 ลำ ซึ่งเป็นของการบินไทย 19 ลำ เป็นเครื่องบินพิสัยไกล 17 ลำ และเครื่องบินลำตัวแคบ 2 ลำ ส่วนอีก 9 ลำเป็นเครื่องบินบินลำตัวแคบ ที่เป็นการเช่าดำเนินการสำหรับสายการบินไทยสมายล์"
ส่วนกรอบที่ขออนุมัติไป จะเป็นแค่พิสัยของเครื่องบินที่มีทั้งลำตัวแคบและกว้าง ยังไม่ได้ระบุรุ่นเครื่องบินที่จัดซื้อ เพราะการจัดซื้อที่จะเกิดขึ้นเป็นสเต็ปต่อไปหลังจาก ครม. อนุมัติ ซึ่งการจะซื้อเครื่องบินรุ่นใดของแอร์บัส หรือ โบอิ้ง จะพิจารณาจากใครที่ยื่นข้อเสนอที่ดีที่สุดให้การบินไทย และต้องเป็นเครื่องบินนิวเจเนอเรชั่นมีเทคโนโลยีทันสมัย เช่น เครื่องบินพิสัยไกล อาทิ แอร์บัส 350-1000 และโบอิ้ง787-10
อย่างไรก็ตาม จากการจัดหาฝูงบินที่เกิดขึ้น ทำให้การบินไทยเตรียมการเสนอขายตราสารหนี้ประเภทหุ้นกู้ และหรือหุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุน (ตราสารหนี้ฯ) จำนวน 8 หมื่นล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี (2561-2565) สำหรับนำไปใช้คืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดและหรือใช้คืนหุ้นเงินกู้ วงเงิน 4 หมื่นล้าน โดยจะใช้คือในปี 2561 วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ปี 2562 วงเงิน 9 พันล้านบาท ปี 2563 วงเงิน 6 พันล้านบาท ปี 2564 วงเงิน 6 พันล้านบาท และปี 2565 วงเงิน 9 พันล้านบาท และแผนจัดหาฝูงบินใหม่ ที่ต้องเตรียมการรองรับการจ่ายค่ามัดจำในล็อตแรก ที่คาดว่าหลังจากการสั่งซื้อเครื่องบิน จะต้องใช้เวลาราว 14-28 เดือน ในการรับมอบเครื่องบิน ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับมอบเครื่องบินลำแรกได้ในช่วงไตรมาสแรก ปี 2563
ทั้งนี้เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่าน จากกรณีปฏิบัติการรวบผู้แชร์ข่าวบิดเบือนเพื่อทำลายความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลและเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล และได้ทำการออกหมายจับ "นางวัฒนา เอ็บเบจช์ หัวขบวนเพจ KonthaiUk" ซึ่งมีถิ่นพำนักอยู่ที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ตามฐานความผิด พ.ร.บ.คอมพ์ จากการปั้นข่าว “เรือเหาะ - ดาวเทียม 91,200 ล้าน!” เรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างดี