"บิ๊กตู่" ลั่นมาอุบลฯ ไม่ได้มารับข้อเสนอใคร แต่มาฟังเสียง ปชช. ยันอยากให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการทำงานของรัฐบาล

"บิ๊กตู่" ลั่นมาอุบลฯ ไม่ได้มารับข้อเสนอใคร แต่มาฟังเสียงประชาชน ฟังความต้องการที่ประชาชน อยากให้ทุกคนพอใจการมีส่วนร่วมในการทำงานของรัฐบาล

 

"บิ๊กตู่" ลั่นมาอุบลฯ ไม่ได้มารับข้อเสนอใคร แต่มาฟังเสียงประชาชน ฟังความต้องการที่ประชาชน อยากให้ทุกคนพอใจการมีส่วนร่วมในการทำงานของรัฐบาล

 

วันนี้ (24 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ได้ออกมาแถลงภายหลังการประชุม ครม.สัญจร ว่า ทางกลุ่มจังหวัดได้เสนอการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ พัฒนาคมนาคมขนส่ง ขยายเส้นทาง เพื่อบรรเทาอุบัติเหตุ รถไฟทางคู่ การจัดทำเส้นทางรถไฟเพิ่มเติมเชื่อมต่อรถไฟทางคู่ ขยายโอกาสให้ประชาชนได้สัญจรไปมาได้อย่างสะดวก และยังมีโครงการที่เกี่ยวข้องกับแหล่งน้ำกว่า 40 โครงการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการจัดทำแก้มลิง เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง ตนได้สั่งการ ให้แนวทางในการขุดลอกแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อกระจายน้ำให้ทั่วถึงทุกพื้นที่ อย่างไรก็ตาม บางครั้งในโครงการขนาดใหญ่ ก็จะดำเนินการลำบาก 

 

นายกรัฐมนตรี  ยังระบุด้วยว่า กลุ่มจังหวัดยังมีการเสนอโครงการยกระดับการพัฒนาการเกษตร โดยเฉพาะเกษตรอินทรีย์  ต้องเริ่มจากเกษตรปลอดภัย ทั้งนี้ได้ให้แนวทางไปว่า ทำอย่างไรเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกิน ได้มีโอกาสเข้ามาเป็นคนกลางในการจำหน่าย แลเกษตรกรต้องรู้จักการค้าการลงทุน สร้างกลไกการตลาด ไม่ผลิตจนปริมาณล้นตลาด  ทั้งนี้ กลุ่มจังหวัดได้เสนอให้จัดตั้งโรงงานต้นแบบเพื่อผลิตเครื่องสำอาง เครื่องดื่ม เกษตร ปศุสัตว์ โดย ครม.ได้รับไว้พิจารณา ว่าจะจัดสรรงบประมาณได้อย่างไร เพื่อให้เกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ขอฝากความหวังไว้กับสถาบันการศึกษา ให้ช่วยเรื่องพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยการเกษตร  ขอให้ช่วยให้ความรู้กับประชาชนด้วย

 

"ทั้งหมดล้วนเป็นความต้องการที่ประชาชนขอมา รัฐบาลมีหน้าที่จัดสรรปันส่วนงบประมาณไปให้พื้นที่พอใจ แต่ไม่ได้ต้องการให้ทุกคนพอใจรัฐบาล เราอยากให้ทุกคนพอใจการมีส่วนร่วมในการทำงานของรัฐบาล ส่วนเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิต ทางจังหวัดได้เสนอขยายโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ โดย ครม.ได้ให้ขยายโดยใช้พื้นที่ของหน่วยความมั่นคงซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน พร้อมเพิ่มเครื่องมือในการรักษาพยาบาล โดยเฉพาะโรคเฉพาะทาง เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ 

“ประชาชนในพื้นที่กังวลเรื่องพัฒนา การทางด้านร่างกาย โดยเฉพาะเด็กแรกเกิด เด็กก่อนวัยเรียน เพราะจากสถิติ การพัฒนาทางสมอง ทดสอบไอคิว ค่อนข้างน้อย ขีดความสามารถการเรียนระดับพื้นฐานก็ต่ำ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่ต้องแก้ไข แต่สิ่งที่กังวลคือการขาดแคลนไอโอดีน โปรตีน เกลือแร่” นายกฯ กล่าว พร้อมระบุด้วยว่า

 

ส่วนด้านการท่องเที่ยวภาคอีสานมีศักยภาพมาก ถือเป็นดินแดนแห่งอาหาร ป่า วัฒนธรรม ทั้งนี้ จะทำอย่างไรให้มีมูลค่ามากขึ้น ขณะที่รัฐบาลก็ให้ตามที่ขอทั้งหมดไม่ได้ เพราะสิ่งที่ขอนั้นไม่เชื่อมโยงกันเลย วันนี้เราได้ปรับปรุงการท่องเที่ยวทั้งหมด และมุ่งการท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู รักษาสุขภาพ ให้คนมาพักผ่อนในพื้นที่ธรรมชาติ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก ยืนยันว่ามาวันนี้ ไม่ได้มารับข้อเสนอของใคร แต่มาฟังประชาชน เพราะฉะนั้นการสื่อสารสองทางจึงเป็นสิ่งสำคัญ  การกระจายอำนาจจะต้องทำโครงสร้างให้แข็งแรงก่อน ส่วนข้อเสนอการขยายสนามบินอุบลราชธานี และศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการสร้างสนามบินสนามบินเลิงนกทา จ.โยสธร ซึ่งต้องใช้งบประมาณสูง ในหลายด้านก็ได้บรรจุในแผนงบประมาณอยู่แล้ว แต่ยังดำเนินการไม่เสร็จ ก็ต้องทำต่อ จัดสรรงบประมาณให้ครบทุกเส้นทาง ส่วนปัญหาเสาไฟฟ้า ที่ทำให้ประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาดูไม่สวยงามนั้น ทางกระทรวงมหาดไทยจะเข้าไปดำเนินการต่อไป