“บิ๊กตู่” ลั่นปลดล็อกผังเมือง-แก้ปัญหาขยะ ไม่เอื้อประโยชน์ใคร ยันมหาดไทย แค่กำกับดูแลไม่ได้อนุญาตสร้างโรงงาน

“บิ๊กตู่” ลั่นปลดล็อกผังเมือง-แก้ปัญหาขยะ ปัดเอื้อประโยชน์ใคร ยันมหาดไทย แค่กำกับดูแล ไม่ได้มีอำนาจอนุญาตสร้างโรงงาน

 

“บิ๊กตู่” ลั่นปลดล็อกผังเมือง-แก้ปัญหาขยะ ปัดเอื้อประโยชน์ใคร ยันมหาดไทย แค่กำกับดูแล ไม่ได้มีอำนาจอนุญาตสร้างโรงงาน
                

วันนี้ (26 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังนำปฏิบัติกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ”ว่า เราได้ทำกิจกรรมทำความดีด้วยหัวใจ ทุกคนก็ได้สมัครเป็นสมาชิกจิตอาสา ได้รับพระราชทางเครื่องหมาย หมวก และอะไรต่างๆ โดยที่เราทำวันนี้ไม่ได้ห่วงว่าทำเพื่อการประชาสัมพันธ์ แต่ทำเพื่อให้ทุกคนรู้สึกว่าบ้านเมืองเป็นของพวกเราทุกคน ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามมันมีผลกระทบทั้งสิ้น ถ้าเราไม่รักกัน ไม่ร่วมกันแก้ปัญหา เอาแต่ปัญหาของตัวเองมาเผชิญหน้ากันก็แก้ไม่ได้สักอัน เพราะฉะนั้นรัฐบาลพยายามจะแก้ปัญหาด้วยกฎหมาย ไม่ได้มุ่งหวังว่าจะให้เอาอำนาจไปไว้ที่ใคร อย่างที่เขียนกันว่าไปเอื้อประโยชน์ให้คนนี้คนโน้น ไม่ใช่ ต้องไปดูว่าปัญหาเดิมอยู่ที่ไหน แล้วทำไมถึงต้องแก้ไขกฎหมาย หรือแม้แต่ออกมาตรา44 มาต้องดูวัตถุประสงค์ว่าเพื่ออะไร ไม่เช่นนั้นใครจะกล้าทำ ถ้าจะทำเพื่อเอาประโยชน์ตรงนี้ไปให้ใครได้ประโยชน์คนเดียว ตนทำไม่เป็น ทำไม่ได้ ตนไม่เคยคิดแบบนี้

                

นายกฯ ยังระบุด้วยว่า เวลาไปต่างจังหวัดจะทำอย่างไรให้ทั่วถึง ทำอย่างไรให้เกิดกิจกรรมที่เกิดผลประโยชน์โดยตรงกับพื้นที่ ผลประโยชน์โดยอ้อมก็ต้องไปเกิดกับคนอื่นด้วย หรือเรียกว่าการทำงานโดยการใช้งบประมาณให้เกิดผลประโยชน์โดยตรง และโดยอ้อมกับคนอื่น การใช้งบประมาณต้องเป็นแบบนี้ วันหน้าครม.ก็ต้องทำงานแบบนี้ โครงการที่เหลือที่จะเข้าครม.ก็ต้องตอบคำถามได้ มีการประเมินล่วงหน้าว่าใน 1-2 ปี จะเกิดอะไรขึ้น โดยโครงการในระยะยาวก็ต้องตอบคำถามให้ได้อีกว่า ระหว่างที่ยังไม่เสร็จทั้งโครงการจะมีอะไรเกิดขึ้นให้กับประชาชน เพราะฉะนั้นรัฐบาลนี้เป็นคนที่ย่อยโครงการออกมาอีก ในการจัดซื้อจัดจ้าง ถ้ามันใหญ่มากกเกินไป 4-5 ปีกว่าจะเสร็จ ถึงตอนนั้นปัญหาใหม่ก็เกิดขึ้น ปัญหาเก่าก็ยังไม่ได้แก้ หลักการเป็นอย่างนี้ เราก็พยายามทำเต็มที่

                

"เรื่องขยะถือมีความสำคัญที่สุด เดิมมีกฎหมายอยู่แล้ว เพียงแต่ทุกคนไม่ต้องการขยะในพื้นที่ตัวเอง เราไปบังคับไม่ได้ เขาก็อ้างว่าไม่มีกฎหมายที่จะทำให้สามารถจัดการขยะได้ จึงต้องมีมาตรา 44 เรื่องผังเมือง ซึ่งไม่ใช่ปลดล็อกเพื่อให้ใครหรือเจ้าใดเจ้าหนึ่งมาทำ ก็ต้องไปหาคนมาทำ ไม่เช่นนั้นก็ดำเนินการไม่ได้ เพราะพื้นที่นั้นห้ามมีของเสีย แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องตอบคำถามเรื่องการแก้ปัญหาสังคมและขยะได้ หน้าที่นี้เป็นของท้องถิ่น ซึ่งมีสถานะเป็นนิติบุคคล กระทรวงมหาดไทยก็สั่งไม่ได้ เพียงแต่กำกับดูแลให้ท้องถิ่นทำตามนั้น โดยที่ไม่มีการเคลื่อนย้ายขยะที่เรี่ยราดอยู่ในวันนี้" นายกฯ กล่าว พร้อมระบุด้วยว่า

 

ขยะในบ้างพื้นที่ เช่นที่ระยองขยะบางส่วนต้องขนไปทิ้งที่สระบุรี นั่นคือเหตุผลที่ออกมาตรา 44 เพื่อปลดล็อกเรื่องผังเมือง ให้สามารถทำโรงงานขยะได้ แต่การจะเอาขยะไปฝังกลบหรือเอาไปทำเป็นปุ๋ย หรือพลังงานก็มีกฎหมายของกระทรวงพลังงานอยู่ ว่าท้องถิ่นสามารถทำเองได้หรือไม่ หรือจะร่วมกับใครได้หรือไม่ ขอให้ดูให้ลึกซึ้งหน่อยก็แล้วกัน ถ้าเราวิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์กันแบบเดิม มันก็กลับไปที่เก่า กลายเป็นว่าเอาประโยชน์ไปเอื้อใคร มหาดไทยเขาจะได้ประโยชน์ตรงไหน ในเมื่อเขาเพียงกำกับดูแล ไม่ได้เป็นคนอนุญาตสร้างโรงงานอะไรต่างๆ เป็นเรื่องของท้องถิ่น