เละเป็นโจ๊ก! ส่องวาทกรรมยันหน้า"ทักษิณ" หลังเพ้อสงครามยังไม่จบ แค่"สุริยะใส-ประสาร" ก็ล่อนจ้อนจน "เสื้อแดงยังส่ายหน้า-อ้าปากหวอ"

เละเป็นโจ๊ก?! คนรู้ทันยันหน้า "ทักษิณ" หลังออกมาละเมอเพ้อพกว่า "สงครามยังไม่จบ" ทำนอง...."หากยังสู้อยู่ก็จะไม่แพ้ สู้กันกี่ยกๆ ก็แค่แบทเทิล แต่วอร์ยังไม่จบ ” กรอกหูลิ่วล้อที่ตบเท้าเข้าอวยพรวันเกิดย้อนหลังที่ฮ่องกงเมื่อ 2 - 3 วันก่อน และพลันที่ "สาร" ดังกล่าวส่งถึงผู้รู้ทันที่เมืองไทย....ทักษิณก็แทบ "เละเป็นโจ๊ก" ไปในบัดดล 

 

เละเป็นโจ๊ก?! คนรู้ทันยันหน้า "ทักษิณ" หลังออกมาละเมอเพ้อพกว่า "สงครามยังไม่จบ" ทำนอง...."หากยังสู้อยู่ก็จะไม่แพ้ สู้กันกี่ยกๆ ก็แค่แบทเทิล แต่วอร์ยังไม่จบ ” กรอกหูลิ่วล้อที่ตบเท้าเข้าอวยพรวันเกิดย้อนหลังที่ฮ่องกงเมื่อ 2 - 3 วันก่อน และพลันที่ "สาร" ดังกล่าวส่งถึงผู้รู้ทันที่เมืองไทย....ทักษิณก็แทบ "เละเป็นโจ๊ก" ไปในบัดดล 


เพราะคนรู้ทันเหล่านั้น....เอาแค่ "นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต" และ  "นายประสาร มฤคพิทักษ์" อดีต 40 ส.ว. และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย แค่ 2 คนก็ยันหน้า "ทักษิณ" จนเงิบแล้วเงิบอีก เพราะทั้งคู่ตอกกลับแบบประเด็นต่อประเด็น...และแกะระหว่างบรรทัดออกมา..."สวน"...จนหากมองด้วยข้อเท็จจริง...ที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ของทักษิณในรอบ 10 กว่าปีที่ผ่านมา นับจากถูก คมช. ของ พล.อ. สนธิ บุญรัตนกลิน เขี่ยลงจากอำนาจไปนั้น...ล้วนแต่เป็นความจริงที่ใครก็ยากจะปฏิเสธ แม้แต่ "เสื้อแดงที่พอจะยอมรับความจริงอยู่บ้าง....ยังต้องอ้าปากหว๋อ....เพราะไม่รู้จะถกเถียงในสิ่งเหล่านั้น...ได้อย่างไร" 


 

"ทักษิณ" บอกว่า "อยากบอกทุกคนว่าถ้าเราไม่ยอมแพ้ คำว่าแพ้มีได้ 2 กรณี คือ 1.แพ้เพราะตาย กับ 2.แพ้เพราะยอมไปเอง ถ้าเรายังสู้อยู่เราก็จะไม่แพ้ นั่นก็คือ มีแต่แบทเทิล ไม่มีวอร์ วอร์มันจะเอนด์ต่อเมื่อทุกอย่างมันจบ แต่สู้กันกี่ยกๆ นี่คือแบทเทิล ซึ่งวอร์ยังไม่จบ เรายังต้องทำต่อไป” ทักษิณ กล่าว และระบุต่อด้วยว่า

 

"สิ่งที่สำคัญที่สุด คือวอร์เพื่อประชาธิปไตย ตนอายุ 69 ปีแล้ว สิ่งที่อยากเห็น คือ อยากเห็นประเทศไทยกลับมารุ่งเรืองใหม่ และที่สำคัญ คืออยากเห็นศักดิ์ศรีกลับมาสู่คนไทยทุกคน เพราะวันนี้เราถูกลดด้อยศักดิ์ศรีลงไปเยอะ

 
 

“เราเคยอยู่กับระบอบประชาธิปไตยที่ทุกคนมีศักดิ์ศรี มีสิทธิเสรีภาพเท่ากัน แต่วันนี้เราถูกปกครองโดยใครก็ไม่รู้ ที่อยู่ๆ ก็ถือปืนมาปกครองกดขี่พวกเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเรารับไม่ได้ ถึงวันเลือกตั้งเมื่อไหร่จะเป็นวันที่ประชาชนตัดสินว่าตนพูดจริงหรือเปล่า ขอให้ทุกท่านมีกำลังใจเพราะเรายังจะต้องประกอบอาชีพกันต่อไป ไลฟ์มัสต์โกออน” นายใหญ่คนเสื้อแดง ทิ้งท้าย

 

ถ้อยคำของทักษิณ เอาแค่ประโยคสั้น ๆ ที่ว่า "วอร์เพื่อประชาธิปไตย และอยากเห็นประเทศไทยกลับมารุ่งเรืองใหม่" ก็โดนสวนจนหมดสภาพแล้ว เพราะ "นายสุริยะใส" ตั้งข้อสังเกตในเรื่องนี้ทันทีว่า....“สงครามของทักษิณ...สงครามของใคร เพื่อใคร...เพราะถ้าถอดรหัสคำพูดของคุณทักษิณ ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าการเลือกตั้งที่จะมาถึง จะยังอยู่ในวังวนของเกมส์ชิงอำนาจ และผลประโยชน์ ประชาธิปไตยที่คุณทักษิณพูดหมายถึงอะไร เพราะในช่วงที่คุณทักษิณเรืองอำนาจก็เต็มไปด้วยปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น การฆ่าตัดตอน การละเมิดสิทธิชนและความแตกแยกในสังคมเป็นต้น สงครามที่คุณทักษิณพูดจึงน่าจะเป็นสงครามเพื่อผลประโยชน์ที่แลกมาด้วยชีวิตและความแตกแยกของผู้คนในสังคม” รองคณบดีฯ ม.รังสิต แสดงความเห็น (ยกมาแค่บางส่วน)

 

หากไม่ใช่คนเสื้อแดงบางปีกที่หลงงมงายทักษิณอย่างมืดบอด....ถ้อยคำของ "นายสุริยะใส" คงถกเถียงด้วยได้ยาก...เพราะทั้งหมดล้วนแต่เป็นความจริงเชิงประจักษ์....เหนืออื่นใดก็คือ ล้วนถูกพิสูจน์แล้วในชั้นศาลฯ ....จากคดีโกงต่าง ๆ ที่ทักษิณทำไว้ จนตัวเขาเองยังต้องระเห็จไปแดนไกลนับ 10  ๆ ปี

 

....ไม่นับประโยคท้ายๆ ที่ว่า "สงครามที่คุณทักษิณพูดจึงน่าจะเป็นสงครามเพื่อผลประโยชน์ที่แลกมาด้วยชีวิต และความแตกแยกของผู้คนในสังคม”...นั่นก็ชัดจนไม่มีวันลบเลือน...จากกรณีคนเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมืองเมื่อปี 52 - 53...ไม่นับ "ล้มประชุมอาเซียนที่พัทยา...และขอแยกประเทศเป็น สปป.ล้านนา....ที่ติดป้ายหราทางภาคเหนือเมื่อหลายปีก่อน"....เหล่านั้นเป็นผลพวงจาก....สงครามแย่งชิงบ้านเมือง...ของทักษิณทั้งสิ้น

 

ขณะที่ "อดีต 40 ส.ว. อย่างนายประสาร" ก็ขอดเกล็ดทักษิณตั้งแต่...วลีแรกที่ว่า "ถ้าเรายังสู้อยู่เราก็จะไม่แพ้ วอร์มันจะเอนด์ต่อเมื่อทุกอย่างมันจบ แต่สู้กันกี่ยกๆ นี่คือแบทเทิล ซึ่งวอร์ยังไม่จบ เรายังต้องทำต่อไป” เพราะ "นายประสาร" ถามดัง ๆ เลยว่า "แม่ทัพที่หนีตาย หนีคุกไปเสวยสุขอยู่ต่างประเทศ ปล่อยให้ไพร่พลสกลไกร สู้ศึกในสนามรบอย่างเดียวดาย มีทั้งบาดเจ็บ ล้มตาย ถูกจับ ถูกคุมขัง บ้านแตกสาแหรกขาด พินาศปี้ป่นไปกี่ชีวิตแล้ว ยังเหลือความชอบธรรมอะไรที่จะมาพูดเช่นนี้"

 

ช่วงท้ายของข้อคิดเห็น "นายประสาร" ถามทักษิณตรง ๆ และเป็นการเตือยคนเสื้อแดงบางกลุ่มดัง ๆ เลยว่า "สำหรับคนๆ หนึ่งที่ปฏิเสธคำพิพากษาของศาลสถิตยุติธรรม ที่ตัดสินอย่างชอบธรรมบนพื้นฐานของพยานหลักฐานอย่างครบถ้วนรอบด้าน ทั้งคดีที่ดินรัชดาฯ ติดคุก 2 ปี คดียึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้าน และยังหนีหมายศาลอีก 4 - 5 คดี กลายเป็นสัมภเวสีหนีอาญาแผ่นดิน กลับมาสู้หน้าคนไทย ต้อนรับการเผชิญสืบจากกระบวนการยุติธรรมไทยอย่างสง่าผ่าเผย มิดีกว่าหรือ มีนักโทษคนไหนในโลกที่ขอพิพากษาตนเองว่าตนไม่ผิด 

 

"คำถามก็คือ จะต้องเอาคนอื่นไปตายแทนอีกกี่ชีวิต สงครามจึงจะจบ อันที่จริงคนพูดไม่ได้แพ้สงครามหรอก เขาแพ้ภัยตนเองต่างหาก และเขาจะต้องทรมานกับภัยที่สร้างขึ้นด้วยตนเองไปจนสิ้นอายุขัย" นายประสาร ทิ้งท้าย และเป็นการเปลื้องเปลือย....นักประชาธิปไตยจอมปลอมของคนเสื้อแดงจนสิ้น

 

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร นอกเหนือจาก 2 ท่านดังกล่าวแล้ว...ยังมีผู้รู้ทันคนอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่งที่ออกมาลอกคราบนายทักษิณต่อกรณีนี้...แต่ที่ยกมาแค่ 2 ท่านก็เพียงพอที่จะทำให้สังคม โดยเฉพาะคนเสื้อแดงบากปีกที่ยังมืดบอด...อาจมองเห็นอะไรได้บ้าง....เพราะว่ากันว่า...แม้แต่ "แดงที่ยังยอมรับข้อเท็จจริงอยู่บ้าง...ยังอ้าปากหวอต่อกรณีนี้...เพราะมันไม่รู้จะเอาอะไรไปเถียงจริงๆ แถมแดงบางคนยังแอบส่ายหน้าด้วยซ้ำ"