"อ.ยักษ์" ใส่เกียร์ 5 ชนต้องเลิก 3 สารพิษเกษตรทันที ยันไม่มีถอย-ต้องสู้ให้แบนให้ได้ เหตุพิษรุนแรงมาก

"นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร" หรือ "อ.ยักษ์" ดับเครื่องชนธุรกิจเคมรเกษตร ลั่นต้องเลิก 3 สารพิษเกษตรทั้ง พาคาควอต คอร์ไพริฟอส ไกลโฟเซตทันที เพราะมีพิษร้ายแรง ยันไม่มีถอย ต้องสู้จนยกเลิกให้ได้ ยันอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ให้ข้อมูลที่บิดเบือนแก่คณะกรรมการวัตถุอันตราย จึงมีมติไม่ได้แบน 3 สารพิษดังกล่าว 

 

"นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร" หรือ "อ.ยักษ์" ดับเครื่องชนธุรกิจเคมีเกษตร ลั่นต้องเลิก 3 สารพิษเกษตรทั้ง พาคาควอต คอร์ไพริฟอส ไกลโฟเซตทันที เพราะมีพิษร้ายแรง ยันไม่มีถอย ต้องสู้จนยกเลิกให้ได้ ยันอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ให้ข้อมูลที่บิดเบือนแก่คณะกรรมการวัตถุอันตราย จึงมีมติไม่ได้แบน 3 สารพิษดังกล่าว 

 

วันนี้ (29 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร" รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานมหกรรมสมุนไพรและอาหารครั้งที่ 3 “กินเปลี่ยนวัย กินอย่างมั่นใจ” เพื่อขับเคลื่อนพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน ที่เมืองทองธานี และได้กล่าวตอนหนึ่งว่า คนไทยต้องการอาหารที่ไม่มีสารปนเปื้อน แม้แต่ปุ๋ยเคมี ไม่จำเป็นต้องใช้โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาฆ่าหญ้า และยาฆ่าแมลง ยิ่งเป็นพิษต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ไม่สมควรอย่างยิ่งที่ประเทศไทยจะใช้ต่อไป ซึ่งตามนโยบายตลาดนำการผลิต ตลาดต้องการอาหารปลอดภัย

 

กลุ่มเป้าหมายแรกคือ โรงพยาบาล 9 ล้านรายต่อวัน เด็กนักเรียน 12 ล้านคน กำหนดไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ฉบับที่12 ให้มีพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืน 5 ล้านไร่ โดยนายกรัฐมนตรี พูดในครม.ถึง 3 ครั้งว่าถ้าแบนไม่ได้ ห้ามใช้ไม่ได้ ต้องจำกัดการใช้ให้มากที่สุด ขณะนี้กระทรวงมหาดไทย ประสานมาแล้วมี 56 จังหวัดทำให้เกิดเกษตรปลอดภัยให้ได้


รมช.เกษตรฯ ระบุด้วยว่า ตนเห็นว่าอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ให้ข้อมูลที่บิดเบือนแก่คณะกรรมการวัตถุอันตราย ไม่เสนอข้อมูลผลกระทบของสารเหล่านี้ทำให้คณะกรรมการฯ จึงมีมติไม่ได้แบน 3 สารพิษ พาคาควอต คอร์ไพริฟอส ไกลโฟเซต ตนจะดำเนินการส่งข้อมูลที่ครบถ้วนให้กับคณะกรรมการศึกษาผลกระทบ 3 สาร ที่มีนายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯเป็นประธาน 


"ผมจะจิกไม่เลิกต้องสู้ให้แบนให้ได้ ไม่ใช่แค่จำกัดการใช้ ต้องห้ามใช้ทันที ผมจะใช้ความรู้เป็นพลังร่วมกับเกษตรกรที่จะต่อต้านสารพิษ ที่ใช้ในการเกษตรส่งผลคนไทยเจ็บป่วยมากขึ้น ส่วนข้อมูลของกรมวิชาการเกษตร จะทำข้อมูลอย่างไรก็ทำไป เรามีข้อมูลของเราผมมีอำนาจในมือ เพราะเป็นประธานคณะกรรมเกษตรกรรมยั่งยืน มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.พัฒนาที่ดิน มาตรา 13 และ 15” นายวิวัฒน์ กล่าว

 

 

พร้อมกันนี้นายวิวัฒน์ ได้ให้ผู้แทนของกลุ่มเกษตรกร เกษตรกรรมยั่งยืน เกษตรอินทรีย์ มาร่วมในงานได้ กล่าวปฏิญาณตนอย่างพร้อมเพียงกันว่าจะทำเกษตรกรรมโดยไม่ใช่สารเคมีต่อไป และนายวิวัฒน์ กล่าวอีกว่าคนที่ทำเกษตรปลอดภัยเป็นเรื่องทางบุญให้คนได้กินอาหารปลอดภัย ถือเป็นการทำบุญ “เพราะฉะนั้นใครที่ส่งเสริมให้ใช้สารเคมี คือคนขวางทางบุญ นรกจะกินหัว การต่อสู้ครั้งนี้ คนไม่ได้ทำ แต่ ยักษ์ ทำจะสู้ได้ไหม” ซึ่งเกษตรกรได้ตอบรับส่งเสียงดังลั่นห้องจัดแสดงงานว่า “สู้ได้ๆ”


ทั้งนี้ ทางด้าน "นายกฤษฏา บุญราช" รมว.เกษตรฯ ได้หารือกับ พ.ต.ท.พงษ์ชัย วราชิต ประธานคณะกรรมมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาจัดตั้งหน่วยงานรัฐวิสาหกิจด้านการเกษตร สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยประธานกมธ.กล่าวถึงปัญหาการใช้สารเคมีวัตถุอันตราย 3 ชนิด ว่าคณะกรรมการเกษตรฯ สนช. จะมีการประชุมเรื่องนี้ถึงผลกระทบทุกด้านเพื่อให้เกิดแนวทางชัดเจนว่าจะเลิกใช้เมื่อไหร่อีก 1 หรือ2 ปี ทราบว่าฝ่ายนโยบายควบคุมการใช้ระหว่างนี้


นายกฤษฏา กล่าวว่า อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ได้เสนอคู่มือจำกัดการใช้โดยใช้ได้เฉพาะผู้ได้รับอนุญาตเท่านั้น และลดการนำเข้าจาก 4-5 หมื่นตันเหลือ 1.3-1.5 หมื่นตัน ให้กับคณะกรรมการวัตถุอันตราย ทั้งนี้การแบนหรือไม่อย่างไร ขึ้นกับคณะกรรมการศึกษาจะสรุปผลภายใน 60 วัน