- 04 ก.ย. 2561
ถึงบางอ้อ! เหตุใด“ลูกโอ๊ค”ไม่มีชื่อนั่งเบอร์ 1 พท.ทั้งที่เลือดข้นกว่าน้ำ การป้ายสี "สุเทพ" อย่างไร้ข้อเท็จจริงวานนี้คือคำตอบ หลายคนบอกนั่นแหล่ะปัญหา เพราะเขา "พร่องในวุฒิภาวะ" ที่คนอายุขนาดนั้น...ควรจะมี
ถึงบางอ้อ! เหตุใด“ลูกโอ๊ค”ไม่มีชื่อนั่งเบอร์ 1 พท.ทั้งที่เลือดข้นกว่าน้ำ การป้ายสี "สุเทพ" อย่างไร้ข้อเท็จจริงวานนี้คือคำตอบ หลายคนบอกนั่นแหล่ะปัญหา เพราะเขา "พร่องในวุฒิภาวะ" ที่คนอายุอานามขนาดนั้น...ควรจะมี
เรียกว่า....หน้าแหกระดับชาติทีเดียว สำหรับกรณีที่ “ลูกโอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร" บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของ "นายใหญ่-ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ ผู้อื้อฉาว ได้โพสต์ภาพลงในอินสตาแกรมและทวิตเตอร์ส่วนตัว ซึ่งเป็นภาพของ "นายสุเทพ เทือกสุบรรณ" ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย หรือ รปช. ซึ่งชัดเจนแล้วว่า เป็นการเดินทางไป สำนักงาน ป.ป.ช.เดิม ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับทำเนียบรัฐบาล
เพื่อชี้แจงกรณีที่ "นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ" ซึ่งก็คือคนของพรรคเพื่อไทยเอง ที่ไปยื่นร้อง ป.ป.ช.ขอให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินของนายสุเทพ เมื่อครั้งที่เป็นเลขาฯ กปปส. ซึ่งไปเดินรณรงค์คัดค้านการออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย และรับเงินบริจาคในคราวนั้น
...ทว่า นายพานทองแท้ กลับโพสต์ข้อความประกอบภาพดังกล่าวทำนองจงใจชี้นำให้ผู้อ่านคล้อยตามไปในทิศทางที่ตนต้องการว่า “คนนี้ใคร เมื่อเช้ามาทำเนียบทำไมอ่ะ??”
ข้อความของ "โอ๊ค" ตีความเป็นอื่นไม่ได้ นอกเสียจากหวังผลทางการเมืองแน่ เพราะมีเหตุผลอันใดที่...จงใจใช้ภาษาชี้นำเช่นนั้น...“คนนี้ใคร เมื่อเช้ามาทำเนียบทำไมอ่ะ??” ทั้งที่ความจริงนายสุเทพไปสำนักงาน ป.ป.ช. เดิมอย่างที่กล่าว และนายสุเทพเอง ก็ยืนยันว่า เมื่อ ป.ป.ช. นัดให้มาชี้แจง ตนก็ไปตามนัด แต่ไม่คิดว่าจะมีคนแอบถ่ายรูปภาพ ขณะที่กำลังเดินในพื้นที่นั้น และนำมาขยายผลทางการเมืองเช่นนี้ น่าจะทำเป็นขบวนการ ทั้งยังระบุตรง ๆ ด้วยประโยคถัดมาว่า นายพานทองแท้จงใจ...ตั้งคำถามชี้นำ....
"ตั้งคำถามชี้นำระบุว่า ตนไปทำเนียบฯ ทำไมนั้น ซึ่งตนไม่มีอะไรจำเป็นที่ต้องไปทำเนียบรัฐบาลแต่อย่างใดหรือแอบไปพบใคร" นายสุเทพ ทิ้งท้าย และถือเป็นการตอกหน้าลูกชายนายใหญ่แบบหงายเก๋ง
และนี่อาจเป็นคำตอบที่หลายต่อหลายคนอยากจะรู้ว่า...เหตุใด "ลูกชายนายใหญ่" จึงไม่มีชื่อเป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย...ที่ไร้หัวมานาน....ทั้ง ๆ ที่อายุอานาม และความเป็น "ชินวัตร" สายตรง....รวมทั้งสโลแกน "คนรุ่นใหม่" ที่ทักษิณโยนหินออกมาล่าสุด น่าจะทำให้เขาได้เปรียบใครต่อใครทุกผู้นามที่ถูกดันชื่อขึ้นไป แม้แต่อาเขย...อย่าง “สมชาย วงศ์สวัสดิ์" หรือ “ผศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์-อาจารย์เชน” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ “อาสมชาย”กับ “เจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์" ก็น่าจะยังห่างอยู่หลายก้าว
แต่ความที่เขา "พร่องในวุฒิภาวะ" บางประการซึ่งสะท้อนจากการใส่ไคล้นายสุเทพวานนี้อย่างแจ่มชัด รวมทั้งอีกหลายต่อหลายครั้งก่อนหน้านั้น...ทำให้ประตูหัวหน้าพรรคเพื่อไทย...แทบจะปิดตายสำหรับเขา...และส่อว่าหวยจะไปออกที่ "นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์" สามีของ “เอม - พินทองทา" ในฐานะ "เขยชินวัตร" แทน...แม้เรื่องนี้ทางฝ่ายเพื่อไทยจะยังแบ่งรับแบ่งสู้ก็ตาม
แน่นอน คดีฟอกเงินกรุงไทยฯ ที่ชื่อของนายพานทองแท้เข้าไปเกี่ยวข้องนั้น อาจเป็นชนักใหญ่ที่ทำให้ชื่อของเขาไม่อยู่ในโผแคตดิเดต แต่นั่นดูจะไม่ใช่ประเด็นหลักนักในสายตาของนักวิเคราะห์ อาการ "พร่องในวุฒิภาวะ" ดังกล่าวต่างหากที่เป็นโจทย์ใหญ่ เพราะมันสะท้อนความเป็น "คนสับปลับ-โป้ปดมดเท็จ" ซึ่งเป็นข้อห้ามของการเป็นผู้นำ...และน่าจะลดน้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น แต่โอ๊คกลับมีครบ...แม้กรณีสุเทพ...จะมีข่าวต่อมาว่า...เขาออกมาแก้เกี้ยวให้ตัวเอง....ไปแบบน้ำขุ่น ๆ แล้วก็ตาม แต่นั่นก็ดูจะช้าไปเสียแล้ว...เพราะคำพูดที่ "เป็นนาย" เผยแพร่ไปสู่การรับรู้ของสาธารณชนเสียแล้ว...หนำซ้ำยังจะแจ้งกว่าทุกครั้ง
จากนี้คงต้องจับตาดูว่า...การเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่...จะฝุ่นตลบขนาดไหน...แต่ที่แน่ ๆ การใส่ร้ายสุเทพของ "ลูกโอ๊ค" วานนี้...ก็เผยให้สังคมได้เห็นอย่างจะแจ้งว่า...เหตุใด "ก้อนเลือดที่ข้นกว่าน้ำ" และเป็นสายตรงอย่างเขา...จึงไม่มีชื่อในโผ...เช่นสายรองคนอื่น ๆ