"บิ๊กตู่" ย้ำเส้นทางการเมือง จะประกาศหลังปลดล็อกฯ ยันที่ทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ชาติ

"บิ๊กตู่" เส้นทางการเมืองของตน จะประกาศหลังปลดล็อกพรรคการเมืองแล้ว ซึ่งจะตัดสินใจอีกครั้งในตอนนั้น ยันที่ทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ชาติ และประชาชน นำประเทศชาติไปสู่การปฏิรูป

"บิ๊กตู่" เส้นทางการเมืองของตน จะประกาศหลังปลดล็อกพรรคการเมืองแล้ว ซึ่งจะตัดสินใจอีกครั้งในตอนนั้น ยันที่ทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ชาติ และประชาชน นำประเทศชาติไปสู่การปฏิรูป

 

วันนี้ (4 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้สัมภาษณ์เปิดเผยถึง ความชัดเจนในอนาคตทางการเมืองของตนเองว่า วันนี้รู้ตัวอยู่แล้วว่าจะต้องเจอคำถามใด คำถามแรกที่สื่อถามว่านายกฯ จะตัดสินใจทางการเมืองหรือยัง แนวโน้มจะเป็นอย่างไร ขอตอบว่า เมื่อกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญอีกสองฉบับโปรดเกล้าฯ ลงมาแล้ว และเมื่อมีคำสั่ง ม.44 คลายล็อกพรรคการเมือง ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการ จากนั้นขั้นตอนต่อไป คือการเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง เพื่อนำไปสู่การเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ ที่จะต้องได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล 

 

นายกฯ ระบุด้วยว่า โดยสถานการณ์ในช่วงนั้น จะเป็นผลในการตัดสินใจของตน ว่าจำเป็นต้องอยู่เพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามรัฐธรรมนูญ  หรือด้วยกลไกของรัฐธรรมนูญหรือไม่ และถ้าจำเป็น แล้วจะเป็นได้อย่างไร ซึ่งจะตัดสินใจอีกครั้งในสถานการณ์ช่วงนั้น เพราะวันนี้คงตอบได้เท่านี้ ทั้งนี้ ก็เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติและประชาชน นำประเทศชาติไปสู่การปฏิรูป และเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติที่ได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว นี่คือคำตอบของตน ดังนั้น ขอร้องอย่าถามบ่อยนัก  เพราะวันนี้ยังไปไม่ถึงไหนเลย

 

"ต้องย้อนไปยังคำถาม ว่าอนาคตทางการเมืองของผมอยู่ตรงไหน มันจำเป็นหรือไม่ที่ผมจะต้องโปรโมทตัวเอง ในเมื่อทุกวันที่ผ่านมาก็พูดเองอยู่แล้ว และก็เป็นอย่างนี้ทุกรัฐบาล คนเป็นนายกรัฐมนตรี เขาก็พูดในขณะที่เป็นหัวหน้าพรรคด้วยซ้ำไป ซึ่งทุกพรรคก็ทำเช่นนี้ แต่ยืนยันว่าเราไม่ได้ทำแบบนั้น แต่เพียงต้องการให้ประชาชนได้รับรู้ว่า เราได้ทำงานอะไรได้บ้าง กี่เรื่องแล้ว ประชาชนจะเข้าถึงสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร วันนี้เราต้องสร้างความร่วมมือและเข้าใจกับทุกคนให้ได้ ถือเป็นการประชาสัมพันธ์งานของรัฐบาล ด้วยการให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ ที่ทุกคนควรรู้  ไม่ใช่การหาเสียง" นายกฯ กล่าว พร้อมยังบอกด้วยว่า


วันนี้ผมยังไม่มีพรรคอะไรเลย ผมจะหาเสียงไปให้ใคร ที่สำคัญเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐและภาคเอกชน จึงอยากฝากไว้และอยากให้ตั้งข้อสังเกตว่า การบริหารราชการแผ่นดินของประเทศไทย เป็นของนักการเมืองเพียงอย่างเดียวหรือเปล่า เป็นของคนกลุ่มเดียวหรืออย่างไร เพราะข้าราชการอื่นๆ พลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่เกษียณอายุแล้วก็มีขีดความสามารถ ที่จะเข้าสู่การเมืองได้ตามกฎหมาย ถ้าใครอยากจะทำ ในส่วนของผม ถ้าผมจะต้องทำก็จะไม่ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แต่จะทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นหลัก ขอให้คอยดูกันต่อไป โดยคาดว่ากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญอีกสองฉบับโปรดเกล้าฯลงมาในเดือนนี้ รวมทั้งจะมีคำสั่ง ม.44 คลายล็อกพรรคการเมืองในเดือนกันยายนนี้เช่นกัน