ถึงว่าทำไมพล่านหนัก? "โอ๊ค" ขยับถี่-ที่แท้คดีฟอกเงินกรุงไทยฯ ที่ยื้อยุดกว่า 10 ปีชี้ขาดวันนี้ แถมคนอื่นนอนคุกไปก่อน-ยิ่งผวา

ถึงว่าทำไมพล่านหนัก? "โอ๊ค" ขยับถี่ ที่แท้คดีฟอกเงินกรุงไทยฯ ที่ยื้อยุดกว่า 10 ปีชี้ขาดวันนี้ แถมคนอื่นๆ นอนคุกไปหมดแล้ว

ถึงว่าทำไมพล่านหนัก? "โอ๊ค" ขยับถี่ ที่แท้คดีฟอกเงินกรุงไทยฯ ที่ยื้อยุดกว่า 10 ปีชี้ขาดวันนี้ แถมคนอื่นๆ นอนคุกไปหมดแล้ว


 

หากปะติดปะต่อให้ดีจะพบคำตอบว่า เหตุใด "ลูกโอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร" บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของ "นายใหญ่-ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ ผู้อื้อฉาวจึงขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวทางการเมืองถี่บ่อยนักในช่วงนี้ ทั้งการออกมาใส่ไคล้ "นายสุเทพ เทือกสุบรรณ" อดีตแกนนำ กปปส. และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ทำนองจงใจชี้นำให้ผู้อ่านคล้อยตามไปในทิศทางที่เขาต้องการว่า “คนนี้ใคร เมื่อเช้ามาทำเนียบทำไมอ่ะ??” 


 

ทั้ง ๆ ที่ความจริงนายสุเทพเดินทางไป สำนักงาน ป.ป.ช.เดิม ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับทำเนียบรัฐบาล หลังถูก "นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ" ซึ่งก็คือคนของพรรคเพื่อไทยเอง ที่ไปยื่นร้อง ป.ป.ช.ขอให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินของเขา เมื่อครั้งที่เป็นเลขาฯ กปปส. ซึ่งไปเดินรณรงค์คัดค้านการออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย และรับเงินบริจาคในคราวนั้น

 

รวมทั้งหลังจากนั้นไม่ถึง 24 ชั่วโมง เขาก็โพสต์แขวะ "นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" อดีตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  ซึ่งแม้ในข้อความจะไม่เอ่ยชื่อใคร แต่เนื้อความที่โพสต์ว่า "‏ปชป.บอกว่า "เกณฑ์ทหารเป็นหน้าที่หนีไม่ได้" อันนี้เฉพาะลูกตาสีตาสาป่าวครับ #ปชป.นึกดีๆ มีหนีทหารคนนึง #ใครช่วยตอบที" นั้นต่อให้ไม่ประสาประสา...ก็ยังนึกออกว่าเป็น "นายอภิสิทธิ์" แน่ เพราะเพื่อไทยและคนเสื้อแดง...ขยี้เรื่องนี้...มาตั้งแต่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกช่วงปี 2552 - 2553 แล้ว

 

อาการเคลื่อนไหวแบบถี่บ่อยของ "ลูกโอ๊ค" มาถึงบางอ้อในทันที เมื่อมีข่าวยืนยันว่า ในวันนี้พนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 นัดฟังคำสั่งคดีครั้งเเรกในคดีที่พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ยื่นสำนวนคดี พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง "นางกาญจนาภา หงษ์เหิน" , "นายวันชัย หงษ์เหิน" และมี "นายพานทองแท้ ชินวัตร" รวมอยู่ด้วย เป็นผู้ต้องหาที่ 2 – 4 ในคดีร่วมกันฟอกเงินการทุจริตปล่อยกู้แบงก์กรุงไทย-กฤษดามหานครมิชอบในวันนี้


ผู้สันทัดกรณีกล่าวไปในทางเดียวกันว่า...องคาพยพของ "ระบอบทักษิณ" ทุกปีกทุกเฉด ต่างพยายามยื้อคดี....ที่มีชื่อลูกชายนายใหญ่เข้าไปเอี่ยวในครั้งนี้อย่างสุดฤทธิ์ แม้แต่ตัวนายพานทองแท้เอง....ก็พยายามดึงไว้ด้วยตัวเองสุดกำลัง ดังจะเห็นได้จากการที่เขาส่งทนายไปขอเพิ่มการสอบพยานอีกปากแล้วปากแล้ว หรือแม้แต่การอ้างว่า DSI ไม่มีอำนาจสอบสวนในคดีนี้ กระทั่งไปลาก "ป๋าเปรม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" มาเป็นตัวประกัน โดยอ้างว่า "ป๋าเปรม" ก็รับเงินจากกรุงไทยฯ เช่นกันก็ยังเคย

คราวนี้...เมื่อคดีที่ลากดึงมากว่า 12 -13  ปีมาถึงโค้งสุดท้ายในวันนี้ คือพนักงานอัยการฯ นัดฟังคำสั่งคดีครั้งเเรกสายวันนี้ นั่นย่อมสร้างความสั่นไหวให้แก่นายพานทองแท้แน่ ดีไม่ดี...อาการที่ส่งเสียงมาตลอด 2 - 3 วันที่ผ่านมา...ล้วนมีเหตุมาจากคดีนี้ทั้งสิ้น...เพระปลายทางของคดีนั้น....มีคุกรออยู่ แล้วทาง DSI ก็มั่นใจว่าพยานหลักฐานที่ตนมีนั้นเอาผิดนายพานทองแท้ได้เสียด้วย แม้ล่าสุด "นายประยุทธ เพชรคุณ" รองโฆษกอัยการสูงสุด จะออกมาเผยว่า "ในวันนี้อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 ยังไม่มีคำสั่งคดีดังกล่าว เนื่องจากมีการสั่งสอบเพิ่มเติม ในหลายประเด็น ซึ่งทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอยังไม่ได้ส่งผลการสอบเพิ่มมาทางอัยการ จึงนัดสั่งคดีครั้ง ที่ 2 อีกครั้ง 10 ตุลาคม นี้ เวลา 10.00 น."...นั่นจะทำให้นายพานทองแท้...มีโอกาสหายใจอีกเฮือกใหญ่


...แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า....ชีวิตต่อจากนี้ของเขาจะสะดวกง่ายดายนัก เพราะหากมองย้อนกลับไปจะพบว่า ตัวละครหลัก ๆ ของคดีนี้ ทั้งอดีตผู้บริหารกฤษดามหานคร ซึ่งเป็นผู้ได้เงินกู้ และนายแบงค์กรุงไทยผู้อนุมัติเงินกู้ล้วนนอนคุกไปแล้วทั้งนั้น...เพราะหลักฐานการทุจริตนั้นแน่นหนาระดับโยนผู้เกี่ยวข้องคนอื่น ๆ เข้าไปนอนคุกนานนับ 12 - 18 ปี...กระทั่งบางคนไปต่อไม่ไหว...ตายคาคุกก็ยังมี

 

อ่าน นัดแรก วันนี้! รอลุ้นฟังคำสั่งอัยการ "โอ๊คพานทองแพ้" ฉาวฟอกเงินกรุงไทย