ทุกข์ลาภ?! ย้อนดูเงินร้อน 10 และ 26 ล้านนี่เอง ทำ "โอ๊ค-คอพาดเขียง" คดีฟอกเงินกรุงไทย แถมส่ออาการหนัก

ทุกข์ลาภ?! ย้อนปม"เช็คเงินสด 10 และ 26 ล้านนี่เอ งทำ"โอ๊ค-คอพาดเขียง" คดีฟอกเงินกรุงไทย แถมส่ออาการหนัก

 

ทุกข์ลาภ?! ย้อนปม "เช็คเงินสดจำนวน 10 และ 26 ล้านบาท" ที่สั่งจ่ายเข้าบัญชี "ลูกโอ๊ค" นี่เองที่ทำเขาอาการหนักคดีฟอกเงินกรุงไทย เพราะว่ากันว่าเส้นทางเงินนั้นถือเป็นหลักฐานที่มัดแน่น

 

หลัง "นายประยุทธ เพชรคุณ" รองโฆษกอัยการสูงสุด ได้ออกมาเผยวานนี้ว่า ทางอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 ยังไม่มีคำสั่งคดีฟอกเงินการทุจริตอนุมัติสินเชื่อของอดีตผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้กับกลุ่มธุรกิจในเครือกฤษดามหานครโดยมิชอบ ตามที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 นัดให้ นางกาญจนาภา หงษ์เหิน  , นายวันชัย หงษ์เหิน ) และนายพานทองแท้ ชินวัตร ผู้ต้องหามารับฟังคำสั่งคดีที่พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งสำนวนเอกสารหลักฐานฐานร่วมกันฟอกเงินนั้น

 

เนื่องจากมีการสั่งสอบเพิ่มเติมในหลายประเด็น ซึ่งทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอยังไม่ได้ส่งผลการสอบเพิ่มมาทางอัยการ จึงนัดสั่งคดีครั้ง ที่ 2 อีกครั้ง 10 ตุลาคม นี้ เวลา 10.00 น. โดยนายประยุทธ ระบุว่าเป็นรายละเอียดทางคดีที่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นเรื่องในสำนวน แต่พูดได้ว่าเรื่องที่สั่งสอบเพิ่มเติมนั้นเป็นประเด็นสำคัญทางคดี เพื่อจะให้การสอบสวนสิ้นกระแสความ และเมื่อสำนวนสมบูรณ์แล้วอัยการก็จะมีความเห็นทางคดีสั่งคดีไปทางใดทางหนึ่งได้....นายประยุทธ ระบุ และนั่นคือความคืบหน้าล่าสุดในคดีดังกล่าว...ที่มี "เสี่ยโอ๊ค" ลูกชายนายใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

 

ความเกี่ยวพันของคดีกับเสี่ยโอ๊คนั้น สืบเนื่องมาจาก การที่ ป.ป.ง.ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษให้ DSI ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการเงินในช่วงปี 2546 -2547 จำนวน 10 ล้านและ 26 ล้านบาท จากฟากฝั่งของผู้บริหารเครือกฤษดามหานคร ซึ่งเปรียบเสมือนเงินปากถุงจากการปล่อยกู้คดีดังกล่าว โดยพบว่าแคชเชียร์เช็คทั้ง 2 ก้อน ถูกนำเข้านำเข้าบัญชีของ "นายพานทองแท้" ที่ธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง


และถึงแม้ในเวลาต่อมาทางด้าน "นายพานทองแท้" จะออกมาแก้ต่างว่า เงิน 10 ล้านนั้น เป็นเงินร่วมลงทุนทำธุรกิจนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ ขณะที่เงินก้อนใหญ่ 26 ล้าน เป็นเงินที่ทาง "นายรัชฎา กฤษดาธานนท์" บุตร "นายวิชัย กฤษดาธานนท์" ฝากซื้อหุ้นบริษัท ช.การช่าง จำกัด และมีการสั่งยกเลิกการทำธุรกรรมในวันเดียวกันนั้นด้วย

 

 

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าคำแก้ต่างของนายพานทองแท้ฟังไม่ขึ้น เพราะดูผิดปกติในการทำธุรกรรมหลายประการ และส่อไปในทางผลประโยชน์ต่างตอบแทนจากการที่ธนาคารอนุมัติสินเชื่อในครั้งนี้ กระทั่งเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนไม่เชื่อในหลักฐานที่นายพานทองแท้นำมาชี้แจง ประกอบกับพฤติการณ์แห่งคดีเข้าองค์ประกอบความผิดของกฎหมายฟอกเงิน จึงมีมติให้ออกหมายเรียกนายพานทองแท้เข้ารับทราบข้อกล่าวหานี้ 


และต่อมาตัวนายพานทองเองยังได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ DSI เมื่อช่วงปลายปี 2560 ที่ผ่านมา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาฯ ดังกล่าว รวมทั้งระบุด้วยว่า พร้อมสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม และให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา


ว่าไปแล้ว...ดูเหมือนคดีนี้ทางนายพานทองแท้เอง...ก็มั่นใจในหลักฐานว่าจะสู้คดีในชั้นศาลได้แน่ หากถูกฟ้องจริง ซึ่งนั่นคงต้องรอดูว่าปลายทางแห่งคดีจะเป็นเช่นไร เพราะทางฝ่าย DSI เองก็ยืนยันหนักแน่นว่า...มีหมัดเด็ดน็อก "เสี่ยโอ๊ค" ได้แน่ แม้วานนี้ การสั่งสอบเพิ่มของอัยการ ที่ระบุว่า เพราะทางพนักงานสอบสวน DSIยังไม่ได้ส่งผลการสอบเพิ่มมาให้...จะดูทะแม่ง ๆ อยู่ แต่ผลพวงทั้งหมดนั้นก็ล้วนมาจากเช็คเงินสดจำนวน 10 ล้านและ 26 ล้านบาท...นั่นเอง