ลอกคราบ"คนไม่มีผม-ผู้อวดตัวกูรูเศรษฐกิจ" ที่"บิ๊กตู่"พูดถึง-ตอนเป็น รมว. ผลงานสุดห่วย"แจกบัตรพลังงานให้แท็กซี่-เจ๊งยับจนวันนี้"

นับว่าเรียกเสียงฮือฮาทีเดียว สำหรับคำพูดของ "บิ๊กตู่ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรีวานนี้ ที่ออกมาตอกหน้า "นายใหญ่ - ทักษิณ ชินวัตร" ว่าเป็นคนที่มี "ตรรกะที่ใช้ไม่ได้ ที่คิดจะขายเรือดำน้ำ ทั้งที่ยังไม่ทำอะไรเลย ยังไม่ได้จ่ายเงินเลย พูดไปประชาชนชอบใจ แต่มันไม่ใช่เพราะเป็นการบิดเบือน 

นับว่าเรียกเสียงฮือฮาทีเดียว สำหรับคำพูดของ "บิ๊กตู่ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรีวานนี้ ที่ออกมาตอกหน้า "นายใหญ่ - ทักษิณ ชินวัตร" ว่าเป็นคนที่มี "ตรรกะที่ใช้ไม่ได้ ที่คิดจะขายเรือดำน้ำ ทั้งที่ยังไม่ทำอะไรเลย ยังไม่ได้จ่ายเงินเลย พูดไปประชาชนชอบใจ แต่มันไม่ใช่เพราะเป็นการบิดเบือน 

 

พร้อมกันนี้ ในช่วงหนึ่งนายกฯ ยังจวกไปถึงลูกพรรคบางคนของทักษิณ ซึ่งนายกฯ เรียกว่า ""คนไม่มีผม" ซึ่งรับรู้กันในเวล่ต่อมาว่าเป็น "นายพิชัย นริพทะพันธุ์" อดีต รมว. พลังงานยุค น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย หลังเจ้าตัวออกมาวิพากษ์วิจารณ์ตัวเลขทางเศรษฐกิจในยุค คสช. ทำนองโตสู้ยุคตนไม่ได้ และหากไม่มีการประท้วงชัตดาวน์กรุงเทพฯ และไม่มีการปฏิวัติรัฐประหาร เศรษฐกิจยุครัฐบาลตนจะยิ่งเติบโตกว่าที่เห็น


 

เรื่องนี้ทำให้นายกฯ กล่าวถึงนายพิชัยด้วยเสียงอันดัง หลังพูดถึงนายทักษิณว่า 

 

"บางคนยังไม่รู้เลย ดังนั้น คนที่ชิงพูดก่อนก็จะได้ประโยชน์ วันนี้รายได้ของประเทศสูงขึ้น เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ไม่มีใครพูดถึง  ลืมกันไปหมด อย่างจีดีพีของประเทศวันนี้โตถึง 4.8 แต่ก็มีบางคนบิดเบือน บอกว่าเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวล้มเหลว บอกว่าก่อนปี 2557 เศรษฐกิจโตร้อยละ 4 กว่า


 
“มันจะบ้าหรืออย่างไร ไอ้นี่ความจำเสื่อม พูดผิดไปหมด เพราะก่อน 57  โตแค่ 0.9 ไอ้คนไม่มีผม รู้ใช่หรือไม่ว่าคือใคร  ไม่มีผมแต่ชอบพูด ฝากรองนายกฯด้วย เผื่อจะเรียกมาคุยอีก แต่ก็คงเบื่อแล้ว เรียกมาก็กลับไปพูดอีก ที่ผ่านมาก็เรียก 15 ครั้งแล้ว เรียกจนเบื่อ กลับไปก็กลับไปก็ไปพูดอีก” นายกฯ ระบุ

 

อย่างไรก็ดี สังคมก็รับรู้รับทราบกันดีแล้วว่า..."ไอ้คนไม่มีผม" ที่นายกฯ ระบุนั้น หมายถึงนายพิชัยแน่ เพราะหลังจากนั้นเขาก็ออกมาโต้เดือดนายกฯ อีกรอบจากกรณีดังกล่าว โดยหยิบตัวเลขทางเศรษฐกิจมาอธิบาย....ในทำนอง "ข้าเก่งคนเดียว" ให้ยุ่บยั่บไปหมด


 

ว่าไปแล้ว...ผู้เกาะติดทางการเมืองมานานต่างรู้ดีว่า...นายพิชัยนั้น...ดีแต่โวหาร เพราะตอนทำงานจริงผลงานไม่เป็นสับปะสดสักนิด และแทบมองหาผลงานเป็นชิ้นเป็นอันไม่เจอ เท่าที่นึกได้ และสังคมรับรู้รับทราบอันเป็นผลงานเอกอุของเขาคือ การแจกบัตรเครดิตพลังงานให้แก่พวกแท็กซี่ ซึ่งเป็นฐานเสียงของตัวเองในเมืองหลวง...จากนั้นพวกแท็กซี่ก็เบี้ยวนายพิชัย คือรูดบัตรเครดิตแล้วไม่ยอมชำระคืน กลายเป็นหนี้เสีย...ทั้ง ๆ ที่ขณะที่รูดบัตรเครดิตพลังงานนั้น...ชาวแท็กซี่ก็ได้ก๊าซ NGV ที่ราคาถูกกว่าคนไม่ถือบัตรกิโลกรัมละ 2 บาทอยู่แล้ว...เรียกว่าตอบแทนฐานเสียงเต็มที่...และนั่นเองที่ทำให้บัตรเครดิตพลังงานของเขา...เจ๊งมาจนวันนี้  

 

ทั้งหลายทั้งปวงนั่น ยังไม่นับถึงผลงานห่วยอีกชิ้น ซึ่งได้แก่ ประกาศยกเลิกการใช้น้ำมันเบนซิน 91 ทั้งที่น้ำมันชนิดดังกล่าวยังคงเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในขณะนั้น (ธันวาคม 2554) และมัดมือชกบีบบังคับให้ประชาชนหันไปใช้ "แก๊สโซฮอล์ 95" แทน....จนทำให้ชาวบ้านด่ากันกรมในช่วงนั้น แถมบางคนมองลึกไปว่า...รัฐบาลเพื่อไทย...มีนอกมีในกับบริษัทผลิตแอททาน่อล...ที่ใช้เป็นส่วนผสม "แก๊สโซฮอล์ 95" หรือไม่อย่างไร

 

เพราะลำพังจะอ้างว่า เพื่อกระตุ้นยอดขาย  "แก๊สโซฮอล์ 95" และสนับสนุนพลังงานทดแทนยิ่งฟังไม่ขึ้น เพราะนั่นต้องให้ประชาชนผู้ใช้รถเป็นคนตัดสินใจเลือกเติม...ไม่ใช่มัดมือชก...แบบเผด็จการรัฐสภาเช่นนี้ (แปลกประเด็นเหล่านี้เสื้อแดงไม่สำเหนียก และลิร่านทั้งหลายกลับไม่มองว่าถูกละเมิดสิทธิ)...ซึ่งว่าไปแล้วการยกเลิกการใช้น้ำมันเบนซิน 91 แทบไม่ต่างอะไรกับโครงการจำนำข้าวเลยสักนิด เพราะผลประโยชน์ล้วนไปตกอยู่กับพวกพ้อง ขณะประชาชนตาดำ ๆ แทบไม่ได้อะไรจากนโยบายเหล่านั้น (อาจได้บางเพียงเศษเสี้ยว ยิ่งกรณีจำนำข้าวยิ่งชัด) และหลังจากนั้นไม่นาน...พิชัยก็ถูกดีดออกจาก รมว.พลังงาน เพราะถือว่าตอบแทนฐานเสียงในกรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว และเก้าอี้ รมว.พลังงานก็กลายเป็นเก้าอี้ดนตรีรอบใหม่ในพรรคฯ ขณะที่นายพิชัย...ก็ค่อย ๆ พยายามเปิดหน้าตนเองอีกครั้ง...ในบทบาทกูรูเศรษฐกิจดังที่เราเห็นในช่วงที่ผ่านมา

 

...นั่นเป็นแค่ตัวอย่างบางตอน..ผลงานสุดห่วยของ "นายพิชัย" ที่พยายามอวดรู้ว่าข้าคือ...กูรูทางเศรษฐกิจในขณะนั่ง รมว.พลังงานยุค "หญิงปู" ...และโดนผู้รู้ทันสมเพชมาจนวันนี้ (ที่จริงตอนนั่งเป็น รมว.พลังงาน ก่อนกระเด็นตกเก้าอี้ไป นายพิชัยก็ทำ 2 เรื่องแค่นี้แหล่ะ-ผู้เขียน)