“สุริยะใส” หนุนปชป.หยั่งหัวหน้าพรรค  พื้นฐานประชาธิปไตย จวกไม่เหมือนบางพรรคขยันพูด แต่เป็นเผด็จการ

ผมสนับสนุนและเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ ปชป.พยายามปรับตัวต่างกับบางพรรคที่ยังมีเจ้าของคนเดียวยังไม่มีความพยามจะปฏิรูปพรรค และขยันพูดเรื่องประชาธิปไตย แต่โครงสร้างในพรรคยังเป็นเผด็จการหรือเจ้าของคนเดียว

สถานการณ์การเมืองประเทศเรียกได้ว่ากลับมาเข้มข้นอย่างมากเลยทีเดียว ภายหลังจาก คสช. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีคำสั่งมาตรา 44คลายล็อกทางการเมือง ไฟเขียว เปิดทางให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมในช่วง 90 วันก่อนที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้  

 

โดยสามารถทำ 7 กิจกรรมได้  หาสมาชิกพรรค และการตั้งสาขาพรรค ,จัดประชุมใหญ่พรรค , จัดทำนโยบายของพรรค ,แสดงความเห็นเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง ,การสรรหาผู้สมัครรับ ,การใช้สื่อออนไลน์ติดต่อกับสมาชิกพรรค  และประเด็นที่โฟกัสเป็นพิเศษ คือ การเดำเนินการเลือกหัวหน้าพรรค

ความเคลื่อไหวของฝั่งพรรคการเมืองอย่างประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เองก็ได้เตรียม เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรควันจันทร์นี้  (17 ก.ย.) และนัดประชุมใหญ่พรรค 24 ก.ย. เพื่อเริ่มดำเนินการแก้ไขข้อบังคับ ก่อนเปิดรับสมาชิกพรรคเพิ่ม

 

“สุริยะใส” หนุนปชป.หยั่งหัวหน้าพรรค  พื้นฐานประชาธิปไตย จวกไม่เหมือนบางพรรคขยันพูด แต่เป็นเผด็จการ

 

ที่น่าสนใจคือการเลือกหัวหน้า และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่จะพ้นวาระลงในช่วงสิ้นปี ก่อนหน้านี้นายอภิสิทธิ์  เคยได้ประกาศว่า การเลือกหัวหน้าพรรคคร้ังนี้ ต่างจากเดิมที่ใช้การโหวตจาก คณะกรรมการบริหารพรรค แต่ครั้งนี้นายอภิสิทธิ์ ได้ประกาศ “ให้มีการทําไพรมารี่ โหวตในการเลือกหัวหน้าพรรค” อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้คนนอก สามารถเป็นหัวหน้าพรรคได้ โดยต้องผ่านข้อกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับคนนอกที่จะเข้ามามีส่วนร่วม จะต้องมีผู้รับรองการเสนอชื่อหรือมีการสมัครและมีเงื่อนไข 

 

“สุริยะใส” หนุนปชป.หยั่งหัวหน้าพรรค  พื้นฐานประชาธิปไตย จวกไม่เหมือนบางพรรคขยันพูด แต่เป็นเผด็จการ

ล่าสุดทางด้านของ นายสุริยะใส กตะศิลา  หนึ่งในแกนนำผู้รวมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้แสดงความคิดเห็นในหัวข้อ “คสช.คลายล็อก การหยั่งเสียง ปชป. สู่การปฏิรูปพรรคการเมือง”

 

“สุริยะใส” หนุนปชป.หยั่งหัวหน้าพรรค  พื้นฐานประชาธิปไตย จวกไม่เหมือนบางพรรคขยันพูด แต่เป็นเผด็จการ

 

กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เตรียมจัดให้มีกระบวนการหยั่งเสียงสมาชิกพรรคเพื่อหาหัวหน้าพรรคคนใหม่นั้น แม้กระบวนการดังกล่าวจะไม่ไปไกลถึงขั้นให้สมาชิกพรรคเลือกหัวหน้าพรรคและ กรรมการบริหารพรรคใด้โดยตรง ยังเป็นเพียงระเบียบภายในพรรคไม่ใช่ส่วนหนึ่งในข้อบังคับ พรรคเฉกเช่นกรณีของพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) ก็ตาม

 

แต่ก็ต้องถือว่าเป็นการปรับเปลี่ยนที่มีนัยสำคัญต่อ ปชป.และบรรดาพรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคเก่าแก่และพรรคใหญ่ๆให้หันมาให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมและกระบวนการประชาธิปไตยในพรรคมากขึ้น เราต้องยอมรับว่าการเมืองที่ล้มเหลวที่ผ่านมานั้น เพราะพรรคการเมืองไม่สามารถ สะท้อนเจตนารมณ์และยึดโยงกับผลประโยชน์ ของประชาชนได้อย่างแท้จริง

 

หลายพรรคพยายามโฆษณาชวนเชื่อว่าพรรคตัวเองยึดโยงกับประชาชน แต่ก็มักจะยึดโยงเฉพาะตอนหาเสียงเลือกตั้ง แต่พอมีอำนาจก็ไปยึดโยงกับนายทุนเจ้าของพรรคลืมประชาชนไปเลย

 

ผมสนับสนุนและเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ ปชป.พยายามปรับตัวต่างกับบางพรรคที่ยังมีเจ้าของคนเดียวยังไม่มีความพยามจะปฏิรูปพรรค และขยันพูดเรื่องประชาธิปไตย แต่โครงสร้างในพรรคยังเป็นเผด็จการหรือเจ้าของคนเดียว

 

สำหรับพรรคการเมืองต้องยอมรับว่ามีส่วนสำคัญในการคลี่คลายปัญหาบ้านเมือง การตั้งต้นปฏิรูปพรรคแข่งกันทำให้พรรคมีโครงสร้างมีกลไกลที่ประชาชนมีส่วนร่วมจริงจัง จะเป็นส่วนสำคัญในการปฏิรูปประเทศด้วย  นอกจากนี้การคลายล็อคของ คสช. ถือเป็นเรื่องที่ดีที่พรรคการเมืองจะใช้โอกาสนี้ในการปฏิรูปพรรคของแต่ละพรรคอย่างจริงจังก่อนจะเข้าสู่บรรยากาศการหาเสียงกับประชาชนในโอกาสต่อไป.

 

“สุริยะใส” หนุนปชป.หยั่งหัวหน้าพรรค  พื้นฐานประชาธิปไตย จวกไม่เหมือนบางพรรคขยันพูด แต่เป็นเผด็จการ