"บิ๊กป้อม"ตอกหน้า"ทักษิณ"ถามใครเป็นคนทำ บ้านเมืองยุ่งเพราะใคร!!

สืบเนื่องจากกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาโพสต์ข้อความในหัวข้อ “12 ปี จาก 19 กันยายน 2549 ถึง 19 กันยายน 2561”

 

โดยมีเนื้อหาในทำนอง  12ปีที่ผ่านมาประเทศย่ำแย่ ประเทศช้ำพอแล้วหรือยัง รอยยิ้มของไทยที่เรียกว่ายิ้มสยามหายไปไหนหมด  อีกทั้งตอนหนึ่งยังระบุด้วยว่าในโอกาสครบรอบ 12 ปีนี้ ขอเปิดอกว่าตนเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนั้นตนต้องสูญเสียความสุข ความอบอุ่นในครอบครัว ที่พ่อแม่ลูกเราอยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่นมาตลอด

 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2561 ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี พรรคเพื่อไทยออกมาเรียกร้องให้ปลดล็อคการเมืองทั้งหมดว่า ขอให้ครบ 90 วันก่อนถึงจะปลดล็อคทั้งหมด ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช. ระบุแล้วว่าสามารถทำอะไรได้บ้างและมีการปลดล็อคให้ 9 ข้อแล้ว เพียงแต่ว่าไม่ให้โฆษณาชวนเชื่อ นอกนั้นก็ไม่มีอะไร 

 

พล.อ.ประวิตร ย้ำว่า การหาเสียงเลือกตั้ง ต้องรอไปถึงเดือนธันวาคมนี้ ส่วนข้อห้ามไม่ให้พรรการเมืองใช้โซเชียลมีเดียหาเสียงนั้น ตอนนี้ยังไม่ให้ใช้ เพราะการใช้โซเชียลมีเดียก็เหมือนกับการพูด ซึ่งทาง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะมีหน้าที่พิจารณาว่าพรรคการเมืองใดที่ใช้โซเชียลมีเดียแล้วเข้าข่ายการหาเสียงซึ่งก็ต้องมีบทลงโทษตามกฎหมาย ในช่วงนี้เราก็ปล่อยให้พรรคการเมืองดำเนินการจัดการประชุมพรรคได้อย่างอิสระ ซึ่งก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี

 

ส่วนที่มีการกำชับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ไม่ให้ช่วยนักการเมืองหาเสียง เพราะไม่ใช่หน้าที่ และตอนนี้ไม่ว่าใครก็หาเสียงไม่ได้ ตลอดจนถึงทหารที่ใส่เครื่องแบบไปเดินตามนักการเมือง

 

พล.อ.ประวิตร ยังระบุอีกว่า สำหรับผู้ช่วยทูตทหารก็ต้องไปเล่าสถานการณ์ ภายในประเทศว่ามีความก้าวหน้าอย่างไรโดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศไทยอยู่ในระหว่างการเลือกตั้ง ส่วนกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ ออกมาโพสต์ครบ 12 ปีที่ถูกรัฐประหารว่า บ้านเมืองที่วุ่นวายอยู่ทุกวันนี้เป็นเพราะใคร แต่ไม่ใช่พวกเราแน่นอนเพราะพวกเราไม่ได้เกี่ยวข้อง เราออกมาแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติ ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ระบุพร้อมพูดคุยปรองดองนั้น เขายังมีเรื่องที่ทำผิดกฎหมายอยู่ขอให้ไปเคลียร์ตรงนั้นให้ได้ก่อน