“วิษณุ” เตือน การเมืองอย่าทำอะไรสุ่มเสี่ยง อาจมีผลย้อนหลัง-หากถูกร้อง

“วิษณุ” เตือน การเมืองอย่าทำอะไรสุ่มเสี่ยง อาจมีผลย้อนหลังได้-หากถูกร้อง

“วิษณุ” เตือน การเมืองอย่าทำอะไรสุ่มเสี่ยง อาจมีผลย้อนหลังได้-หากถูกร้อง

 

วันนี้ (20 ก.ย.) ผุ้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา10.30 น. ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต "นายวิษณุ เครืองาม" รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีมีการเผยแพร่ภาพรถแห่ของกลุ่มประชาภิวัฒน์ และชาวพิษณุโลก เชิญชวนแสดงความคิดเห็นจัดทำนโยบายร่วมกับ "นายสุเทพ เทือกสุบรรณ" ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ว่าตนไม่ขอตอบอะไรเกี่ยวกับการทำกิจกรรมเฉพาะอย่าง เพราะมีเจ้าหน้าที่เขาดูแลอยู่  ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง คสช.และกกต. ตนอยู่ในซีกรัฐบาลคงไม่ไปวินิจฉัยอะไร 


แต่ถ้าให้เตือนสามารถเตือนได้ว่าให้ระมัดระวัง ทุกอย่างอยู่ในสายตาถึงวันหนึ่งจะมีการนำมาใช้ประโยชน์ เมื่อรู้ผลแพ้ชนะเลือกตั้งอาจมีการยกมาเป็นเหตุผลวันนั้นจะอันตราย เหมือนการเลือกตั้งที่ผ่านๆ มาเตือนกันเท่าไรก็ไม่ฟัง วันหนึ่งมีการฟ้องร้องกันยกเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาก็หงายหลังเลย การเลือกตั้งกลายเป็นโมฆะไปเลยด้วยซ้ำ เมื่อทุกคนรู้ว่ามีคนจ้องเก็บหลักฐานอยู่ก็อย่าไปทำอะไรผิด เมื่อถามว่า การให้พรรคการเมืองสามารถประชาสัมพันธ์หาสมาชิก สุ่มเสี่ยงเป็นช่องให้หาเสียงได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า การเปิดนโยบายในการหาสมาชิกไม่ใช่บอกว่าคิดว่าประเทศควรมีหน้าตาเป็นอย่างไรเป็นสิ่งที่พูดได้ถ้าพูดเป็น มันพูดได้ แต่เมื่อไรที่วกกลับเข้ามาว่าจงเลือกพรรคของเรา หมายเลขนี้ นายคนนี้ ถ้าแบบนี้คือหาเสียง
บอกแสดงวิสัยทัศน์ทำได้ 
  

นายวิษณุ กล่าวว่า ข้อห้ามทำกิจกรรมทางการเมืองนั้น เราใช้คำพูดกันว่าห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง แต่ในคำสั่ง ระบุว่าห้ามชุมนุมกันเกิน 5 คนเพื่อทำกิจกรรมทางการเมือง ต้องไปแปลกันว่าการทำกิจกรรมทางการเมืองคืออะไร แต่การพูดอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะทุกฝ่ายพูดได้ เมื่อถามถึงกรณี พรรคประชาธิปัตย์จะเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ผู้สมัครสามารถแสดงวิสัยทัศน์ได้หรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่า ทำได้ เพราะเมื่อจะประชุมพรรค  พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องแจ้ง กกต.อยู่แล้ว 


เมื่อถามว่าพรรคการเมืองยังตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อห้ามการใช้สื่อโซเชียลมีเดียในการประชาสัมพันธ์ นายวิษณุกล่าวว่า เวลาเราพูดสั้นๆว่าห้ามใช้สื่อโซเชียลหาเสียง จะว่าถูกก็ถูก จะว่าผิดก็ผิด ที่ถูกเพราะเขาห้ามจริงๆ แต่ก็ห้ามเฉพาะช่วงนี้ เมื่อปลดล็อกทุกพรรคก็ใช้ได้ ถ้าถึงวันนั้นใช้ไม่ได้ค่อยมาตำหนิกัน ส่วนที่มีการโจมตีรัฐบาลว่าใช้สื่อในการประชาสัมพันธ์อยู่นั้น ตนรับทราบ เข้าใจว่ามีคนที่พยายามดิสเครดิต คงต้องปล่อยให้เขาทำไป และไม่ว่าจะเป็นเวลาปกติหรือใกล้เลือกตั้ง รัฐบาลก็ต้องทำหน้าที่อยู่แล้ว รัฐบาลต้องมีกำลังใจทำหน้าที่เพื่อประชาชนต่อไป
แจง ไม่ปลดล็อกเพราะหวั่นสาดโคลน 
  

 

เมื่อถามว่าการที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตอบโต้ พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมย.กลาโหม ถือเป็นความไม่สงบที่ส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า "ไม่ตอบ เพราะผมไม่รู้" เมื่อถามว่า ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง แต่ละพรรคเริ่มออกมาโจมตีกัน นายวิษณุกล่าวว่า เป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเกิดขึ้น ฉะนั้น จึงมีการระมัดระวังในช่วง 90 วันนี้ที่ให้แค่คลายล็อก เพราะหากปลดล็อกยิ่งจะเชิญชวนให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเร็ว 
  

เมื่อถามถึงความชัดเจนว่ารัฐมนตรีเข้าสังกัดพรรคการเมืองสามารถดำรงตำแหน่งอยู่ได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า รัฐมนตรีจะไปทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องลาออก แต่หากเสี่ยงต่อคำครหานินทาก็แล้วแต่ความรับผิดชอบของแต่ละบุคคล ถ้าแบ่งเวลาได้ไม่เอาเวลาราชการไปทำงานการเมืองของพรรคถ้าแบบนั้นก็ทำได้ ถ้าทำแบบนั้นไม่ได้ก็ลาออกไป ที่สำคัญ รัฐมนตรีจะลงสมัครรับเลือกตั้งไม่ได้ แต่สามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่างๆได้ เพราะไม่มีอะไรห้ามแต่ในสังคมไทย แม้กฎหมายไม่ได้ห้ามก็มีสิ่งที่ถูกตำหนิได้ซึ่งต้องไปคิดเอง 


เมื่อถามว่า หากเป็นรัฐมนตรีและดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมืองด้วย จะถูกสังคมตำหนิหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า "ไม่น่าจะตำหนิ แต่กลับเป็นการส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยด้วยซ้ำไป ข้อสำคัญคือต้องไม่ใช้ความเป็นรัฐมนตรีไปทำประโยชน์ให้พรรคที่ตนเป็นสมาชิกหรือเป็นหัวหน้า"