ศึกชิงเก้าอี้หัวหน้าประชาธิปัตย์ ปฏิรูปการเมืองสานต่อเจตนามวลมหาประชาชน!

แค่เริ่มเปิดฉากแรกก็ดุเดือดเสียจริงๆ สำหรับ ศึกชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์รอบนี้ ระหว่างหัวหน้าเดิม "อภิสิทธิ์" ปะทะ "หมอวรงค์" จากแรงหนุนของ"ถาวร" จึงเป็นเหตุการณ์ทางการเมืองที่ถูกจับตามอง อย่างมาก

ชัดเจนแล้วว่า นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม โดยผ่านการสนับสนุนจากนายถาวร เสมเนียน อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์   เข้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน ที่ครองตำแหน่งมาอย่างยาวนานกว่า 13ปี ตั้งแต่ปี  2548 และวันนี้ความเคลิ่อนไหวที่ต้องจับตาคงเป็นทางด้านของฝั่งนพ.วรงค์ และ นายถาวร อย่างใกล้ชิด

 

ศึกชิงเก้าอี้หัวหน้าประชาธิปัตย์ ปฏิรูปการเมืองสานต่อเจตนามวลมหาประชาชน!

ล่าสุดเป็นทางด้านของนายถาวร เคลื่อนไหวผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวระบุว่า...

เรียนเพื่อนๆ เฟสบุ๊คทุกท่านครับ ผมเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่ปี 2512 ซึ่งขณะนั้นผมเป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และคงเป็นสมาชิกพรรคอยู่ถึงทุกวันนี้ สามารถตรวจสอบได้ตามทะเบียนของพรรคฯ ผมรักพรรคประชาธิปัตย์และคนประชาธิปัตย์ทุกรุ่นให้โอกาสผมมาโดยตลอด ถือเป็นบุญคุณอันยิ่งใหญ่ ผมเป็นสมาชิกพรรค ปชป.จนถึงทุกวันนี้ ในช่วงปลายปี 2556 ถึง กลางปี 2557

 

ผมลูกพระแม่ธรณีบีบมวยผมและอีกหลายคนออกไปต่อสู้กับรัฐบาลทรราช ต่อสู้กับกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับสุดซอย เมื่อจบภารกิจผมและหลายคนเดินกลับเข้าบ้านเกิด สิ่งที่นำติดตัวมาคือการปฏิรูป 5 ด้าน คือ 1.ปฏิรูปการเมือง 2.ลดความเหลื่อมล้ำ 3.กวาดล้างการทุจริต 4.กระจายอำนาจ และ 5.ปฏิรูปการศึกษา เป็นต้น

 

 การจับมือกับเพื่อนพ้องน้องพี่ลงแข่งขันเลือกหัวหน้าพรรคฯ เป็นการปฏิรูปการเมืองที่มวลมหาประชาชนมอบหมายมา ดังนั้นท่านใดที่มีความคิดเปลี่ยนหัวหน้าพรรคขอให้เข้าร่วมปฏิรูปการเมืองครั้งนี้ สำหรับการวิพากษ์วิจารณ์ว่าผมและหมอวรงค์ใช้อาคารแปซิฟิคเป็นวอร์รูม ขอกราบเรียนว่าไม่จริง เพราะผมและคณะใช้บ้านผมที่ริมคลองประปา สามเสน เป็นสถานที่ทำงานและสมาชิกในครอบครัวเห็นด้วยทุกคน เชิญทุกคนมาดูได้ ท่านสุเทพร่วมจัดตั้งพรรค รปช. การไปกล่าวหาท่านเช่นนั้นสมาชิกพรรค รปช.อาจเข้าใจผิดได้ จึงขอชี้แจงเพื่อให้เกิดความเข้าใจด้วย.

 

หลังจากเสร็จการชุมนุมทางการเมืองในปี 2557 แกนนำ กปปส.ทั้ง 9 คน ได้ร่วมกันจัดตั้งมูลนิธิ กปปส. ความสำคัญกับการปฏิรูปการศึกษา โดยการตั้งวิทยาลัยอาชีวะศึกษาภาวนาโพธิคุณ เรียนฟรี กินอยู่ฟรี มุ่งเน้นให้เด็กจบการศึกษามาประกอบอาชีพ ขณะนี้มีนักเรียน 200 กว่าคน วันที่ 25 - 28 กันยายน 2561 มีการจัดงานระดมทุนให้โรงเรียน ผมรองประธานมูลนิธิ ท่านสุเทพ ประธานมูลนิธิ จึงมีการนัดคุยเพื่อช่วยกันทำงานให้มูลนิธิ เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าต่อไป

 

ส่วนในประเด็นการเดินทางไปยังคอนโดของนายเอกณัฐ พร้อมพันธ์ ก็เป็นการเดินสายไปเพื่อทำความเข้าใจในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้ไปพบท่านชวน ท่านบัญญัติ ท่านนิพนธ์ ท่านเทอดพงษ์ หมอปรีชา อาจารย์เจริญ และก็ท่านอภิสิทธิ์ มาแล้ว อีกทั้งจะไปพบผู้หลักผู้ใหญ่ให้ครบทุกคน จึงมาแจ้งเพื่อทราบ

 

ศึกชิงเก้าอี้หัวหน้าประชาธิปัตย์ ปฏิรูปการเมืองสานต่อเจตนามวลมหาประชาชน!

ขณะที่ด้านของนพ.วรงค์ก็ได้ออกมาโพสต์ ข้อความเช่นกัน..มีเนื้อหาทั้งหมด ดังต่อไปนี้

วันนี้ผมมีเรื่องที่ต้องบอกกล่าวสักสามเรื่องครับ

 

1. ผมตั้งใจจะประกาศเจตนารมณ์ สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ณ.ลานอนุเสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มหาวิทยาลัยนเรศวร ในวันที่ 27 กันยายน 2561 เริ่มเวลา 17.00 น. เนื่องจากจังหวัดพิษณุโลก เป็นบ้านของผมเอง และเป็นที่เกิดทางการเมืองของผม

 

ในวันที่ 28 กันยายน 2561 ผมและคณะจะเดินทางไปพบสมาชิกพรรค และผู้สนใจที่จังหวัดสุโขทัย เนื่องจากสุโขทัยคือบ้านเกิดของผม และจะไปอีกหลายจังหวัด

 

2. มีคนพยายามที่จะบอกว่า ผมไปใช้คอนโดเดอะไลท์ ของขิง เอกณัฐ และไปใช้แปซิฟิกคลับ ของท่านสุเทพ เป็นวอร์รูม ผมขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ผมไปเจอขิงที่เดอะไลท์เพียงที่เดียว เพื่อไปพูดคุย ชักชวน รับฟังข้อคิดเห็นเท่านั้น

 

วันนี้วอร์รูมที่เราใช้ประชุมกันนั้นคือบ้านท่านถาวร เสนเนียม ซึ่งไม่ห่างไกลจากพรรคประชาธิปัตย์มาก และประชุมกันเกือบทุกวัน ถ้าหากท่านใดอยากไปเยี่ยม หรือเพื่อนสื่อมวลชนอยากไปชม เรายินดีที่จะพาไปชมวอร์รูมของเราครับ เพราะไม่มีอะไรต้องปิดบัง

 

3.พวกเราสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีเจตนาที่ชัดเจนคือ ทำพรรคให้เข้มแข็ง ทำพรรคให้ยิ่งใหญ่ และมีชัยชนะ โดยไม่มีเรื่องใดๆแอบแฝง และปราศจากการครอบงำ

 

พวกเราต้องการการสนับสนุนจากทุกๆฝ่าย และตั้งใจเพื่อพรรค ประชาชนและประเทศจริงๆ จึงเป็นหน้าที่ที่จะต้องไปพบปะ พูดคุย กับผู้ใหญ่ในพรรค เพื่อนๆส.ส.และสมาชิกพรรคให้มากที่สุด ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด การตัดสินใจใดๆ ของผมจะยืนอยู่บนผลประโยชน์ของประชาชน และประเทศ ไม่ใช่ผลประโยชน์ของผู้สนับสนุน แต่ท้ายที่สุดผมเชื่อว่า ผู้ที่สนับสนุนผม ก็จะได้รับประโยชน์เช่นกันในฐานะที่เป็นคนไทย

 

ศึกชิงเก้าอี้หัวหน้าประชาธิปัตย์ ปฏิรูปการเมืองสานต่อเจตนามวลมหาประชาชน!

 

อย่างไรก็ตามด้วยทั้งคู่เคยขึ้นเวที กปปส. จึงไม่แปลกที่จะโดนคำข้อครหาว่า “ลุงกำนัน” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ  อดีตเลขาธิการพรรคเเละอดีตเเกนนำกปปส. แม้ลุงกำนันจะผันตัวไปตั้งพรรคการเมืองของตัวเอง โดยร่วมจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ว่าเป็นผู้ชักใยเรื่องนี้อยู่ลับๆ   ซึ่งก่อนหน้านี้ ลุงกำนันออกมาปฏิเสธไปแล้วว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องดังกล่าว งานนี้ก็ต้องจับตาดูกันไปยาวๆ เรียกได้ว่า แค่เริ่มเปิดฉากแรกก็ดุเดือดเสียจริงๆ สำหรับ ศึกชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์รอบนี้

 

ศึกชิงเก้าอี้หัวหน้าประชาธิปัตย์ ปฏิรูปการเมืองสานต่อเจตนามวลมหาประชาชน!