- 27 ก.ย. 2561
ถือเป็นหนึ่งปรากการณ์ทางการเมือง ที่กำลังถูกโฟกัสอย่างมากในช่วงระยะนี้ สำหรับกำหนดการสำคัญการประชุมใหญ่"พรรคพลังประชารัฐ" ในวันที่ 29 ก.ย. 2561 เนื่องเพราะเป็นพรรคการเมือง
ถือเป็นหนึ่งปรากการณ์ทางการเมือง ที่กำลังถูกโฟกัสอย่างมากในช่วงระยะนี้ สำหรับกำหนดการสำคัญการประชุมใหญ่"พรรคพลังประชารัฐ" ในวันที่ 29 ก.ย. 2561 เนื่องเพราะเป็นพรรคการเมือง ที่มีกระแสเฝ้าจับตาว่าจะเป็นคีย์สำคัญในการจัดตั้งรัฐบาล ยิ่งไปกว่านั้นยังมีภาพลักษณ์ในฐานะเป็นพรรคการเมืองแนวทางใหม่ ที่จะรวบรวมคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ ความสามารถเข้ามาร่วมการทำงาน ด้วยเป้าหมาย และความมุ่งหวังสูงสุด ที่จะสานต่อแผนการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ 20 ปีของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อย่างเข้าอกเข้าใจและสามารถขับเคลื่อนงานต่าง ๆ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
สอดรับกับท่าทีของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่เคยให้สัมภาษณ์บางช่วงบางตอน ถึงภาพอนาคตทางการเมืองประเทศไทย ว่า "สิ่งที่ท่านนายกฯมุ่งหวังก็คืออยากให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกัน นำพาประเทศไปข้างหน้าไม่กลับไปขัดแย้งกันอีก ผมปรารถนาดีต่อประเทศชาติ การบริหารประเทศ ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่ใครก็ทำได้ ถ้าท่านนายกฯสละเวลาได้ ก็อยากให้ท่านอยู่ต่อ ก็พร้อมช่วยสนับสนุน เพราะเมื่อมีรัฐบาลหน้าแล้วทุกคนต้องเข้ามาช่วยกันทำงานสร้างสรรค์ให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าให้ได้ " ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้สื่อความโดยตรง แต่ก็พอมองเป็นภาพชัดเจนว่าแนวทางการเมืองของดร.สมคิด เป็นไปในทิศทางเดียวกับพรรคพลังประชารัฐมากน้อยขนาดไหน
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ,ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
ไฮไลท์หลัก ๆ ในวันที่ 29 ก.ย.ที่ไม่อาจปฏิเสธได้เลยคือ การเฝ้าจับตาการปรากฎตัวของคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชารัฐ จะประกอบด้วยใครบ้าง จากกระแสข่าวความเคลื่อนไหวก่อนหน้า ทั้งประเด็นร้อนว่าด้วยการเชื่อมโยงกับกลุ่มนักการเมืองที่รู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี ทั้งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน 2 อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย ที่มีรายชื่อก่อนหน้าว่าเป็นแกนหลักในการจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ โดยมีชื่อของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นจิ๊กซอร์เชื่อมโยงให้เกิดขึ้น
จนกระทั่งเกิดแรงกระเพื่อมและข้อจำกัดทางกฎหมาย ทำให้ทั้งนายสุริยะและ นายสมศักดิ์ ต้องขยับบทบาทการเคลื่อนไหวมาใช้ชื่อ "กลุ่มสามมิตร" แต่ก็สามารถสร้างกระแสข่าวได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะการแสดงจุดยืนชัดเจนในการสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีกลุ่มอดีตส.ส.จากหลายพรรค แสดงเจตจำนงค์เข้าร่วมอย่างต่อเนื่องในหลากหลายรูปแบบ
แม้ว่า นายชวน ชูจันทร์ ประธานวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรตลาดน้ำคลองลัดมะยม ผู้ริเริ่มการจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ จะเคยให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีนักการเมืองจากซีกไหน พรรคไหนมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละบุคคล แต่พรรคพลังประชารัฐไม่เคยรังเกียจใคร ถ้าคิดว่าจะช่วยกันขับเคลื่อนประเทศด้วยกัน
นายชวน ชูจันทร์
ด้วยองค์ประกอบหลายเหตุผลเช่นนี้ จึงทำให้มิติทางการเมืองของพรรคประชารัฐ นับจากจุดเริ่มต้นของการจัดตั้งพรรคตามกฎหมาย เมื่อวันที่9 เม.ย. 2561 เดินมาถึงจุดพีคให้ทุกกระแสเฝ้าจับตา ว่า นัดหมายการประะชุมในวันที่ 29 ก.ย. นี้ที่อิมแพค เมืองทองธานี จะมีความชัดเจนในระดับไหน อย่างไร เกี่ยวกับโครงสร้างพรรค และแนวทางการบริหารจัดการภายใน
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์
สำคัญยิ่งการประชุมดังกล่าว ยังอาจเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นภาพชัด ๆ ของบุคคล กลุ่มคณะบุคคล ที่มีเจตนาเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐอย่างเป็นทางการจะมีใครบ้าง ทั้งอดีตส.ส.ที่ลาออจากพรรคเดิม เพื่อเข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ และอีกกว่า 50 คน ภายใต้กลุ่มสามมิตรที่มีกระแสข่าวก่อนหน้า ไม่นับรวมอดีตแกนนำกปปส. ที่ผ่านประสบการณ์ทางการเมือง ทั้งในและนอกสภามาแล้ว ที่เลือกจะหันหลังให้ลุงกำนัน และ พรรค ปชป. อย่าง นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ , นายสกลธี ภัททิยกุล หรือกระทั่ง นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ฯลฯ ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ , นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ , นายสกลธี ภัททิยกุล
และพลาดไม่ได้กับก้าวจังหวะของ 3 รายชื่อรัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจ ในคณะรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อย่าง ดร.อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม , นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ , ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภายหลังจาก ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แสดงตัวจะเข้าสู่สนามการเมืองเป็นครั้งแรก ในฐานะสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเป็นหนึ่งแรงขับเคลื่อนผลักดันยุทธศาสตร์ 20 ปีประเทศ ให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นจากที่มีการวางฐานรากเริ่มต้นไว้ ทั้งหมดเป็นสถานการณ์ทางการเมืองวันที่ 29 ก.ย. ที่กำลังถูกโฟกัสแบบช็อตต่อช็อต
ดร.อุตตม สาวนายน, ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ , ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล
ตามที่ ดร.กอบศักดิ์ ได้เกริ่นเรียกน้ำย่อยก่อนเข้าร่วมประชุมใหญ่พรรคประชารัฐ ว่า "ผมฟังนายกฯบอกว่ารักประเทศชาติ นี่คือความรู้สึกของทุกคนที่ตัดสินใจจะทำเรื่องนี้ เราอยากทำให้ประเทศดีที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อทุกคน ซึ่งผมยินดี แต่ขอให้รอก่อน อีกไม่กี่วัน ถามว่าสนใจการเมืองหรือไม่ ความจริงผมทำงานการเมืองอยู่แล้ว ช่วยเหลือประชาชน ผมจึงมีความสนใจเช่นกัน นี่คือบ้านเมืองของเรา เรารักประเทศ รักประชาชน และวันที่ 29 ก.ย.จะมีการประกาศวางจุดยืนต่างๆ รวมถึงนโยบายให้เรียบร้อย คาดว่าจะประกาศพร้อมกันทั้งหมดในคราวเดียว"