ครั้งแรก !! เปิดใจ "ดร.สุวิทย์ " ก้าวสำคัญ บนเส้นทางใหม่ทางการเมือง ในฐานะ รองหัวหน้า พลังประชารัฐ

“ผมตั้งใจไว้ว่าจะทำให้พรรคพลังประชารัฐ เป็นทางเลือกใหม่ของคนไทยทุกคน ที่ก้าวข้ามความขัดแย้ง เดินหน้าประเทศไทย โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังครับ” ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์

เรียกกระแสได้อย่างถล่มทลายสำหรับการเปิดตัว ของ “พรรคพลังประชารัฐ” การประชุมเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค สำหรับประกอบยื่นจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้จัดขึ้นที่ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2561

 

ครั้งแรก !! เปิดใจ "ดร.สุวิทย์ " ก้าวสำคัญ บนเส้นทางใหม่ทางการเมือง ในฐานะ รองหัวหน้า พลังประชารัฐ

 

สิ่งที่น่าสนใจคงหนีไม่พ้น การเปิดหน้าทางการเมืองของ 4 รัฐมนตรี ที่ประชุมพรรคได้คัดเลือก ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม  เป็นหัวหน้าพรรค, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์. เป็นเลขาธิการพรรค , ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นรองหัวหน้าพรรค และ ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล    รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็น โฆษกพรรค และกรรมการบริหารพรรค เพื่อนำทัพพรรคพลังประชารัฐ สู้ศึกเลือกตั้ง ส.ส. ที่คาดว่าจะมีขึ้นในปี 2562

ล่าสุดทางด้าน  ดร.สุวิทย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวบอกเล่าถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญในการก้าวสู่เส้นทางการเมืองหลังเข้ารับตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรค “พลังประชารัฐ” ระบุว่า..

 

สุวิทย์ เมษินทรีย์ กับอีกก้าวสำคัญ บนเส้นทางใหม่ทางการเมือง

ครั้งแรก !! เปิดใจ "ดร.สุวิทย์ " ก้าวสำคัญ บนเส้นทางใหม่ทางการเมือง ในฐานะ รองหัวหน้า พลังประชารัฐ

 

หลายท่านคงทราบข่าวการเข้ารับตำแหน่งเป็นว่าที่รองหัวหน้าพรรค"พลังประชารัฐ" ของผมทางสื่อต่างๆกันมาบ้างแล้วนะครับ ผมขอใช้พื้นที่บนเพจส่วนตัวของผม ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตัดสินใจเดินสู่เส้นทางการเมืองให้ผู้ที่สนใจได้รับทราบกันครับ

 

ผมสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ ระดับปริญญาตรีด้านเภสัชศาสตร์ จากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระดับปริญญาโทด้านการตลาด จากคณะบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น ประเทศสหรัฐอเมริกาครับ

 

ครั้งแรก !! เปิดใจ "ดร.สุวิทย์ " ก้าวสำคัญ บนเส้นทางใหม่ทางการเมือง ในฐานะ รองหัวหน้า พลังประชารัฐ

อย่างที่ท่านทราบกันครับ ผมเป็นลูกศิษย์ของ อาจารย์ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และท่านสมคิดได้ส่งต่อให้ผมได้มีโอกาสเป็นลูกศิษย์ของ ศ.ฟิลิป คอตเลอร์ (Philip Kotler) อาจารย์ด้านการตลาดที่ Kellogg Graduate School of Management, Northwestern University โอกาสในครั้งนั้นทำให้ผมได้เขียนหนังสือ“The Marketing of Nations : A Strategic Approach for Building the National Wealth” ร่วมกับอาจารย์ทั้ง 2 ท่าน คือ ศ.ฟิลิป คอตเลอร์ และ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นอกจากนี้ระหว่างที่ผมได้มีโอกาสช่วยงานท่านสมคิดทางการเมืองช่วงปี 2546 จนถึงปัจจุบันผมยังเขียนหนังสืออีกหลายเล่ม

 

โดยส่วนใหญ่เนื้อหาจะบอกเล่าถึงความเป็นไปของโลกในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น “เมื่อโลกไม่ใช่ใบเดิม”  “โลกพลิกโฉม: ความมั่งคั่งในนิยามใหม่ (Post Knowledge Based Society), “จุดเปลี่ยนประเทศไทย : เศรษฐกิจพอเพียงในกระแสโลกาภิวัฒน์” และเล่มล่าสุด “โลกเปลี่ยน ไทยปรับ: หลุดจากกับดัก พ้นจากชาติที่ล้มเหลว”

 

ผมได้มีโอกาสทำงานในภาคการศึกษา โดยเป็นผู้อำนวยการ Sasin Institute of Global Affairs ที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำงานกับบริษัทเอกชนทั้งไทยและต่างประเทศ รวมถึงองค์กรของรัฐในระดับบริหารและการให้คำปรึกษาในเชิงนโยบาย อาทิ บริษัท LEK Consulting บริษัท Booz Allen & Hamilton หรือการเป็นกรรมการบริษัทเอกชนต่างๆ อาทิ บมจ.ไทยออยล์ บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ บมจ. น้ำมันพืชไทย หรือในสายตลาดเงินและตลาดทุน เช่น กรรมการธนาคารนครหลวงไทย และเป็นที่ปรึกษา ตลาด MAI ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยครับ

 

ประสบการณ์ตรงนี้เองที่ทำให้ผมได้เรียนรู้ มีประสบการณ์และเข้าใจในมุมมองของภาคธุรกิจ การได้เห็นภาพใหญ่ในเชิงมหภาคที่จะวางนโยบายเพื่อรองรับและขับเคลื่อนงานต่างๆ

 

ครั้งแรก !! เปิดใจ "ดร.สุวิทย์ " ก้าวสำคัญ บนเส้นทางใหม่ทางการเมือง ในฐานะ รองหัวหน้า พลังประชารัฐ

ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์   ,ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์

 

สำหรับเส้นทางทางการเมืองของผมในยุคแรกนั้นเริ่มต้นเมื่อปี 2546 หรือประมาณ 14 ปี มาแล้วครับ ผมได้ถูกแต่งตั้งให้เป็น

- ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

- ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์

- ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์)

 

ซึ่งท่านสมคิดก็ได้มอบหมายงานให้ผมรับผิดชอบในหลายๆเรื่อง แต่เรื่องที่ผมภาคภูมิใจมากที่สุดคือการบริหารจัดการงานกับหลายภาคส่วนเพื่อปั้นและขับเคลื่อนโครงการ “หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์” หรือ OTOP ซึ่งเป็นนโยบายที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่จดจำมาจนถึงทุกวันนี้ครับ

 

 

ครั้งแรก !! เปิดใจ "ดร.สุวิทย์ " ก้าวสำคัญ บนเส้นทางใหม่ทางการเมือง ในฐานะ รองหัวหน้า พลังประชารัฐ

 

หลังรัฐประหารโดย คสช. ผมได้รับเกียรติเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และทำหน้าที่ในตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญจัดทำวิสัยทัศน์และออกแบบอนาคตประเทศไทย ช่วงนั้นเองที่ผมได้มีแนวคิดในการร่างนโยบาย Thailand 4.0 เพื่อเสนอต่อท่านนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

 

หลังจากนั้นผมได้รับโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ และขยับเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยรับงานสำคัญคือ เลขานุการคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) และปัจจุบันผมได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อขับเคลื่อนผลักดันนโยบาย Thailand 4.0 ให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม

 

ครั้งแรก !! เปิดใจ "ดร.สุวิทย์ " ก้าวสำคัญ บนเส้นทางใหม่ทางการเมือง ในฐานะ รองหัวหน้า พลังประชารัฐ

 

ตัวผมเองมีโอกาสได้ทำงานการเมืองในหลายช่วงเวลา แต่ละยุคสมัยมีบริบทและปัจจัยแวดล้อมที่แตกต่างกันมาก มีรัฐบาลในหลายรูปแบบ แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาในหลายเรื่องที่สำคัญของประเทศได้ และนอกจากการแก้ปัญหาแล้วยังมีอีกเรื่องซึ่งผมให้ความสำคัญมากที่สุดคือการวางพื้นฐานในการพัฒนาคนให้พร้อมไปกับการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะให้พร้อมกับอนาคตข้างหน้าที่จะต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงจากหลากหลายมิติและปัจจัย ในกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้น ผมมีนโยบาย"วิทย์สร้างคน" เพื่อพัฒนาคนทุกช่วงวัยด้วยวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะเด็กๆ ที่เป็นเมล็ดพันธุ์ที่สำคัญที่เราจะปลูกฝังให้พวกเขาเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ เป็นทรัพยากรที่สำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไปครับ

 

และอีกภารกิจที่สำคัญของผมที่ยังต้องขับเคลื่อนให้สำเร็จคือ การจัดตั้งกระทรวงใหม่ ซึ่งจะควบรวมกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ากับการอุดมศึกษาและสภาวิจัยแห่งชาติซึ่งกระทรวงใหม่นี้ ตั้งขึ้นเพื่อตอบโจทย์สองเรื่อง คือ 1) เป็นกระทรวงที่เตรียมคนไทยไปสู่ศตวรรษที่ 21  ,2) เป็นกระทรวงหลักในการปรับเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจสังคมไปสู่ฐานนวัตกรรม ซึ่งผมมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า กระทรวงใหม่นี้จะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอนครับ

 

ครั้งแรก !! เปิดใจ "ดร.สุวิทย์ " ก้าวสำคัญ บนเส้นทางใหม่ทางการเมือง ในฐานะ รองหัวหน้า พลังประชารัฐ

 

ที่ผมได้เล่าให้ทุกท่านฟังทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ทุกท่านได้ทราบถึงประสบการณ์การทำงาน ความหวังและความตั้งใจที่ผมได้ตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรคการเมือง เพื่อมีโอกาสได้สานต่อในสิ่งที่ผมได้มีส่วนช่วยวางรากฐานเอาไว้ และอยากที่จะขับเคลื่อนต่อให้สำเร็จ

 

อย่างที่ทราบกันดี การพัฒนาประเทศไม่สามารถทำได้ในระยะเวลาสั้นๆ ต้องอาศัยเวลาและการร่วมแรง ร่วมใจกันทั้งรัฐบาลและประชาชน ความสามัคคีของคนในชาติ ประชาชนต้องกล้าเปลี่ยนแปลง เพราะเมื่อโลกเปลี่ยนไทยต้องปรับตัวให้ทัน

 

“ผมตั้งใจไว้ว่าจะทำให้พรรคพลังประชารัฐ เป็นทางเลือกใหม่ของคนไทยทุกคน ที่ก้าวข้ามความขัดแย้ง เดินหน้าประเทศไทย โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังครับ”

 

สุดท้ายนี้ ผมขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนและให้กำลังใจผมในงานทุกอย่างที่ผมทำนะครับ กำลังใจเหล่านี้เป็นพลังสำคัญให้ผมมีแรงใจและพละกำลังในการทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติของพวกเราทุกคนต่อไปครับ