"สมคิด" เปิดใจ หนุน "4 รมต.พลังประชารัฐ" บอกเป็นบุคคลคุณภาพ น่าจะทำให้การเมืองดีขึ้น ยันไม่ใช่กุนซือ

"สมคิด" เปิดใจ หนุน "4 รมต.พลังประชารัฐ" บอกเป็นบุคคลคุณภาพ น่าจะทำให้การเมืองดีขึ้น ยันไม่ใช่กุนซือ

 

"สมคิด" เปิดใจ หนุน "4 รมต.พลังประชารัฐ" บอกเป็นบุคคลคุณภาพ  หวังทำให้การเมืองไทยดีขึ้น จึงสนับสนุน ยันไม่ใช่กุนซือ "เป็นอาจารย์สมคิด"

 

วันนี้ (1 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์" รองนายกรัฐมนตรี แถลงเปิดใจกรณีพรรคการเมืองต่างๆ กดดันให้ 4 รัฐมนตรีในรัฐบาล ลาออก หลังเข้าไปทำงานกับ "พรรคพลังประชารัฐ" (พปชร.) ว่า รัฐมนตรีทั้ง 4 คน ถือเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ เมื่อทั้ง 4 คน ต้องการทำงานการเมือง หวังทำให้การเมืองไทยดีขึ้น เราจึงควรสนับสนุน เพราะการเมืองไทยตั้งแต่อดีตที่ผ่านมา คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยอยากเข้ามา กลัวเดือดร้อน จึงเลือกหันหลังให้การเมือง 


ทั้งนี้ เมื่อทั้ง 4 คน อาสามาอยู่ข้างหน้า เราน่าจะให้การต้อนรับ เพื่อเป็นตัวอย่างต่อคนรุ่นหลัง ให้เข้าร่วมมากขึ้น เพราะยิ่งมีคนหน้าใหม่จากหลายอาชีพเข้ามา ก็จะเป็นเรื่องดีต่อทุกพรรค ส่วนที่มีเสียงวิจารณ์ว่าทั้ง 4 คนจะใช้ตำแหน่งหน้าที่หาประโยชน์ หรือเอาเปรียบพรรคอื่นๆนั้น ทั้ง 4 คนยืนยันชัดเจนว่า เป็นเรื่องที่ตรวจสอบได้ มีกฎหมายรองรับ หากทำอะไรไม่ถูกต้อง ก็เป็นความเสี่ยง แต่ถ้ากฎหมายไม่ห้าม แสดงว่าไม่ผิด ขอให้ติดตามดูแล การที่ต้องเปิดตัว เพราะมีเงื่อนไขเวลา แต่เมื่อการเลือกตั้งยังไม่เกิด ก็ขอให้รอเวลาที่เหมาะสม แล้วทั้ง 4 คนจะลาออก


 

 รองนายกฯ ยังระบุด้วยว่า ช่วงนี้เขาต้องทำงานเต็มที่ จะให้ลาออกตอนนี้ ผมคิดว่าหลายโครงการที่เราวางไว้สำคัญมากต่อประเทศในอนาคต เช่น อีอีซี ที่ "นายอุตตม สาวนายน" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ดูแลมาตั้งแต่ต้น และอีกไม่นาน ก็จะสามารถปักหลักได้ จะละทิ้งได้ยังไง ส่วนนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ซึ่งเข้ามาทำงานแล้วก่อให้เกิดความตื่นตัวอย่างมาก เรื่องของพรรค พปชร. ก็กำลังไปได้ด้วยดี ผมว่าเวลานี้ ให้เขาทำงานอย่างเต็มที่ เขาแยกออกอยู่แล้ว ส่วนนอกเวลาราชการ ก็แล้วแต่เขา หรืออย่างนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ คุณจะไปหาจากไหน จบปริญญาเอก MIT แต่โดดมาการเมือง ผมถือว่านี่เป็นมิติใหม่ของการเมืองไทย ที่มีคนคุณภาพอย่างนี้เข้ามา ไม่ใช่แค่อายุน้อยๆเข้ามา แล้วเฮฮากัน มันไม่ใช่ เขาเข้ามาทำงานจริงจัง เมื่อเขาไม่ได้ทำอะไรผิด กฎหมายไม่ได้ห้าม ก็น่าจะต้องติดตามตรวจสอบเขาดู

 

"ตนเคยร่วมรัฐบาลที่อยู่จนครบเทอม ซึ่งก็ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการลงเลือกตั้ง เมื่อพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งออกมา ก็ไปเลือกตั้ง ดังนั้น จึงอยู่ที่การประพฤติกรรมของแต่ละคน เสียงวิจารณ์เป็นเรื่องธรรมดา แต่เราควรดูแลคนรุ่นใหม่ ที่เข้ามาทำงานการเมือง" ” นายสมคิด ระบุ  

 

เมื่อถามว่าวางบทบาทตัวเองอย่างไรในพรรค พปชร. นายสมคิด กล่าวว่า ไม่ได้วางตัวเองไว้ตรงไหน อนาคตเป็นสิ่งที่เราไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร 4 รัฐมนตรี เป็นทั้งรุ่นน้องและลูกศิษย์ เมื่อตัดสินใจทำงานการเมือง ก็อยากสนับสนุนให้คนดีๆ มีคุณภาพ เข้าสู่แวววงการเมือง ไม่ว่าจะไปอยู่พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย หรือพรรคอื่นๆ เพื่อช่วยกันเปลี่ยนแปลงการการเมืองสู่ทิศทางที่ดี มิเช่นนั้นจะวนเวียนอยู่กับการเมืองเก่าๆ ที่ทะเลาะกัน เราควรก้าวข้ามเรื่องเหล้านี้ไม่แล้ว เรามาถึงจุดนี้แล้ว อย่าให้มีความขัดแย้งกันอีก ให้การเลือกตั้งดำเนินไปอย่างราบเรียบ ให้ชาวโลกเห็นว่าประชาธิปไตยเราไปได้


เมื่อถามว่าส่วนตัวมองพรรค พปชร.ไว้หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ปีนี้อายุ 65-66 แล้ว เชื่อเถอะว่านี่เป็นเวลาของคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะพรรคการเมืองใด เราต้องพยายามเชิญชวนให้ทุกคนเข้ามา แต่ไม่ใช่เข้ามาหาอำนาจ ต้องมาทำงานให้บ้านเมืองดีขึ้น ไม่ใช่คิดว่าจะเข้ามามีอำนาจ หมดสมัยแล้ว


เมื่อถามว่านายอุตตม ระบุนายสมคิด เป็นที่ปรึกษาทางใจ นายสมคิด กล่าวว่า ส่วนตัวเป็นที่ปรึกษาทางใจของคนจำนวนมาก เพราะมีลูกศิษย์มาก ใครเข้ามาหาก็ให้คำแนะนำ ชี้ช่องทางการดำเนินชีวิต ชี้ช่องดีทั้งนั้น เพราะชี้ช่องทางให้คนเลวไม่เป็น

เมื่อถามว่าพรรค พปชร. จะเป็นทางเลือกของประชาชนเหมือนพรรคไทยรักไทยในอดีตได้หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ทุกพรรคล้วนเป็นตัวแทนประชาชน ทุกพรรคเป็นเพื่อนกัน ไม่มีพรรคใดเป็นศัตรูกัน เพราะแม้มีการอภิปรายกันในสภา แต่ออกจากสภาแล้ว ก็ยังเป็นเพื่อนกัน เราอยากเห็นการเมืองที่ดี มีความสัมพันธ์กัน ไม่มีพรรคพระเอก ผู้ร้าย ทุกพรรคเป็นตัวแทนประชาชน ประชาชนชอบพรรคใดก็โหวตให้พรรคนั้น จึงต้องดูว่ามีนโยบายอะไรออกมา ทั้งนี้ รู้สึกดีใจที่หัวหน้าพรรคบางพรรค ระบุควรโฟกัสที่นโยบาย จึงอยากให้ทุกพรรคมาแข่งกันในด้านนโยบาย ให้คนมาเลือก อย่าทะเลาะกัน


 
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่หากเลือกพรรค พปชร. จะได้ความต่อเนื่องนโยบายรัฐบาลนี้ นายสมคิด กล่าวว่า ไม่จำเป็น ต่อให้พรรคอื่นได้เป็นรัฐบาล หลายโครงการก็ควรเดินไปข้างหน้า ไม่จำเป็นต้องใช้ทุกนโยบายของรัฐบาลนี้ บางอย่างไม่เห็นด้วย ก็ไม่ต้องทำ แต่บางนโยบายที่เป็นกระดูกสันหลังของอนาคตประเทศจะเลิกได้อย่างไร เช่น อีอีซี ที่ดีกับทุกคน ตนไม่เชื่อว่าจะมีใครมาเลิก เวลาที่เหลือนี้ขอให้โฟกัสที่นโยบาย


 
เมื่อถามว่า วางตัวเป็นกุนซือของพรรค พปชร.หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ผมไม่ใช่กุนซือ ผมก็เป็นอาจารย์สมคิด ใครคิดว่าผมใช้ประโยชน์ได้ ผมก็พยายามทำให้บ้านเมืองไป เท่าที่จะมีแรง ทำมาตั้งแต่หนุ่ม ตอนนี้แก่แล้ว เมื่อถามว่า หากพรรค พปชร.เสนอให้เป็นหนึ่งในบัญชีที่จะเสนอชื่อเป็นนายกฯ จะรับหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า อย่าไปจินตนาการเลยนะ เป็นเรื่องของอนาคต