พุทธิพงษ์สวนปากนักลากตั้ง กดดัน4รมต.ลาออก ลั่นย้อนดูอดีต ไม่มีใครออกสักคน

ขอความเป็นธรรม พุทธิพงษ์สวนปากนักลากตั้ง กดดัน4รมต.ลาออก ลั่นย้อนดูอดีต ไม่มีใครออกสักคน

ถาโถมมาเป็นระลอกคลื่น สำหรับกระแสวิพากษ์วิจารณ์พรรคพลังประชารัฐ  จากกรณี 4 รัฐมนตรีที่ประกาศร่วมเป็นคณะผู้บริหารพรรค ก็ทำให้บรรดาเสือ สิงห์ กระทิง แรด ในภาคการเมืองถึงขั้นอดรนทนไม่ได้ ทั้งประชาธิปัตย์-เพื่อไทย ออกมาขย่ม วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเอาเป็นเอาตาย ถูกเรียกร้องให้ลาออก เพื่้อความเป็นธรรมทางการเมือง เรียกได้ว่า รายวันเลยทีเดียว

 

พุทธิพงษ์สวนปากนักลากตั้ง กดดัน4รมต.ลาออก ลั่นย้อนดูอดีต ไม่มีใครออกสักคน

ล่าสุด 8 ต.ค.61  เป็นทางด้านของ นายพุทธิพงษ์  ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวกดดัน 4 รัฐมนตรีให้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง หรือ ประมาณวันที่ 12-13 ธันวาคม ว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้เลย  คิดว่าสื่อมวลชนคงคำนวณเองว่าจะมีการลาออกเมื่อมีการปลดล็อกหรือเมื่อพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.)การเลือกตั้งประกาศแล้ว  แต่เท่าที่ตนทราบคือทั้ง 4 รัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่าจะลาออกเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งในวันนี้ยังไม่มีการพูดถึงวันที่แน่นอน  เช่นเดียวกับตนที่ยังไม่ทราบว่าจะลาออกหรือไม่และเมื่อใด

 

พุทธิพงษ์สวนปากนักลากตั้ง กดดัน4รมต.ลาออก ลั่นย้อนดูอดีต ไม่มีใครออกสักคน

พุทธิพงษ์  ปุณณกันต์

 

“ผมเป็นข้าราชการตัวเล็กๆ จึงไม่น่าจะอยู่ในข่ายและคงไม่มีใครมายุ่ง เพราะไม่สามารถให้คุณให้โทษในทางการเมืองได้   แต่ผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว อะไรก็ได้ เดี๋ยวค่อยว่ากัน” นายพุทธิพงษ์กล่าว 

เมื่อถามถึง กรณีฝ่ายการเมืองวิพากษ์วิจารณ์ 4 รัฐมนตรีที่ไม่ลาออกจากตำแหน่ง นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า มีสิทธิตั้งคำถามได้ แต่ต้องย้อนไปดูในอดีตว่าหลายรัฐบาลปฏิบัติอย่างไร  เช่น 2-3 รัฐบาลก่อนหน้านี้ก็อยู่จนถึงวันเลือกตั้งด้วยซ้ำ ไม่มีใครออกสักคน จึงต้องให้ความเป็นธรรมในการเทียบเคียงกับแนวปฏิบัติที่ผ่านมาด้วย

 

พุทธิพงษ์สวนปากนักลากตั้ง กดดัน4รมต.ลาออก ลั่นย้อนดูอดีต ไม่มีใครออกสักคน

งานระดมสมองคนรุ่นใหม่ของพรรคพลังประชารัฐ

 

เมื่อถามถึง งานระดมสมองคนรุ่นใหม่ของพรรคพลังประชารัฐเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า เป็นบรรยากาศที่ดี  โดยตนได้พูดคุยกับทีมรุ่นใหม่มานานไม่ต่ำกว่า 3-4 เดือนก่อนหน้านี้ เป็นการพูดคุยในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชารัฐ แต่เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ เมื่อประจวบกับมีการก่อตั้งพรรคและตนเข้ารับตำแหน่งรองเลขาธิการนายกฯ จึงเชิญชวนคนรุ่นใหม่เหล่านั้นเข้ามาทำงาน ซึ่งนิยามคนรุ่นใหม่ของตนคือ คนที่คิดอะไรใหม่ๆ กล้าเปลี่ยนแปลง กล้าปฏิรูปประเทศไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ทั้งนี้ อายุโดยเฉลี่ยของทีมอยู่ที่ 30-40 ปีและมีประสบการณ์การทำงาน

 

พุทธิพงษ์สวนปากนักลากตั้ง กดดัน4รมต.ลาออก ลั่นย้อนดูอดีต ไม่มีใครออกสักคน

งานระดมสมองคนรุ่นใหม่ของพรรคพลังประชารัฐ

 

เมื่อถามว่า หลังจากรับตำแหน่งรองเลขาฯนายกฯฝ่ายการเมือง  จะได้เห็นบทบาทการพูดคุยกับมวลชนมากขึ้นหรือไม่ นายพุฒิพงษ์ กล่าวว่า การพูดคุยกับประชาชนเป็นทางถนัดของตนอยู่แล้วและเป็นหน้าที่ส่วนหนึ่งที่นายกฯมอบหมาย ซึ่งที่ผ่านมาอาจไม่มีคนทำหน้าที่นี้มากนัก ถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะตนจะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนกับประชาชนด้วย