กระดูกคนละเบอร์!"หญิงหน่อย"พลาดเลย วิจารณ์บัตรสวัสดิการรัฐ เทียบ 30 บาท โดน"สมคิด"ต้นตำรับสอนมวยไม่พอ เจอ"ไก่อู" ถึงจุกอก??

กระดูกคนละเบอร์!"หญิงหน่อย"พลาดเลย วิจารณ์บัตรสวัสดิการรัฐ เทียบ 30 บาท โดน"สมคิด"ต้นตำรับสอนมวยไม่พอ เจอ"ไก่อู" ถึงจุกอก??

แรงจริงชั่วโมงนี้ในพรรคเพื่อไทย  สำหรับ "คุณหญิงสุดารัตน์  เกยุราพันธุ์"  แคนดิเดทเก้าอี้หัวหน้าพรรค หลังจากกระแสข่าวสะพัดว่าเลื่อนนัดพบปะสื่อใหญ่ เดินทางไปฮ่องกงเพื่อพูดคุยรอบสุดท้ายกับ นายทักษิณ ชินวัตร  และโมเมนตั้มทางการเมืองก็ดูเหมือนว่าจะมีชื่อเป็น 1 ใน 3 ว่าที่ผู้ท้าชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ภายใต้สังกัดพรรคเพื่อไทยแน่นอน  หลังจากคัมแบ็คมาสมัครสมาชิกพรรคอีกรอบเมื่อวันที่ 26  ก.ย. ที่ผ่านมา

 

กระดูกคนละเบอร์!"หญิงหน่อย"พลาดเลย วิจารณ์บัตรสวัสดิการรัฐ เทียบ 30 บาท โดน"สมคิด"ต้นตำรับสอนมวยไม่พอ เจอ"ไก่อู" ถึงจุกอก??

 

ย้อนดูโปรไฟล์คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ โดยสังเขป   เริ่มต้นเข้าสู่สนามการเมืองระดับชาติจริง ๆ    เป็นช่วงการเลือกตั้งเมื่อวันที่  22 มีนาคม พ.ศ. 2535  และได้รับความไว้วางใจเป็น ส.ส. กรุงเทพมหานคร  เขต 12  ของพรรคพลังธรรม หลังจากระยะหนึ่งก็มาร่วมงานกับนายทักษิณ ในพรรคไทยรักไทย และร่วมงานการเมืองกันมาโดยตลอดจนกระทั่งเกิดกรณียุบพรรค และถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5  ปี มีหน้าที่การงานในรัฐบาลหลายตำแหน่ง ทั้ง  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม , รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  ,รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 

ในช่วงถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองก็มุ่งมั่นทางพุทธศาสนา  โดยสำเร็จการศึกษาปริญญาเอก พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา จาก คณะบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย    พร้อมกับทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการ ดำเนินงานโครงการบูรณปฏิสังขรณ์ สถานที่ประสูติพระพุทธเจ้า ณ ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล เป็นข่าวคราวอยู่พักใหญ่

 

กระดูกคนละเบอร์!"หญิงหน่อย"พลาดเลย วิจารณ์บัตรสวัสดิการรัฐ เทียบ 30 บาท โดน"สมคิด"ต้นตำรับสอนมวยไม่พอ เจอ"ไก่อู" ถึงจุกอก??

 

 

ไฮไลท์ก็คือเมื่อมีสัญญาณชัดเจนถึงการเข้าสู่เส้นทางการเมืองครั้งใหม่  ถึงขั้นเป็นแคนดิเดทหัวหน้าพรรคเพื่อไทย  คุณหญิงสุดารัตน์   ก็ชิมลางด้วยการเปิดประเด็นวิวาทะว่าด้วย  "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ในยุครัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา  โดยการย้อนนำไปเปรียบเทียบกับหลักประกันสุขภาพ  ในลักษณะวิพากษ์วิจารณ์ของเก่าดีกว่าของใหม่  เพราะเป็นการสร้างโอกาสเข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างมีคุณภาพทัดเทียมกัน  พร้อมท้วงติงเรื่องการอนุมัติกฎหมายตั้งซูเปอร์บอร์ดสุขภาพ โดยอ้างว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนเพียง 3 คน จาก 45คน เข้าร่วม แล้วที่เหลือส่วนมากเป็นข้าราชการ และมีเอกชนตัวแทนบริษัทยาข้ามชาติมาเป็นกรรมการ    ผลท้ายสุดก็จะทำให้เกิดปัญหาการเข้าถึงสิทธิการรักษาพยาบาล

 

 

กระดูกคนละเบอร์!"หญิงหน่อย"พลาดเลย วิจารณ์บัตรสวัสดิการรัฐ เทียบ 30 บาท โดน"สมคิด"ต้นตำรับสอนมวยไม่พอ เจอ"ไก่อู" ถึงจุกอก??

 

 

ไม่จบเท่านั้น คุณหญิงสุดารัตน์   ยังตามด้วยอีกหนึ่งชุดใหญ่   ระบุุว่าสืบเนื่องมาจากความไม่เข้าใจในโครงการหลักประกันสุขภาพ   มีใจความสำคัญลงไปถึงการตีความเรื่อง  "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ว่าจะเป็นอุปสรรคทำให้เกิดผลกระทบต่อการให้บริการผู้ป่วยผู้มีรายได้น้อย  ที่ได้รับสิทธิ์การรักษาฟรีอยู่แล้ว ตามโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ให้สิทธิคนไทยทุกคน ได้เข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพดีทัดเทียมกัน โดยไม่แบ่งแยกว่าคนผู้นั้นจะมีฐานะยากจนแค่ไหน ก็ต้องมีสิทธิ์ได้รับการรักษาพยาบาลในมาตรฐานเดียวกันกับคนอื่น

กระดูกคนละเบอร์!"หญิงหน่อย"พลาดเลย วิจารณ์บัตรสวัสดิการรัฐ เทียบ 30 บาท โดน"สมคิด"ต้นตำรับสอนมวยไม่พอ เจอ"ไก่อู" ถึงจุกอก??

 

ลงท้ายมีแง่มุมการเมืองประกอบมาเป็นปะทะเป็นน้ำจิ้มด้วยว่า  กรณีที่ ดร.สมคิด  จาตุศรีพิทักษ์  ประกาศในเชิงท้าทายพรรคเพื่อไทยว่า ในอนาคตถ้าคิดจะทำต้องให้ดีกว่าบัตรประชารัฐ  ด้วยว่า  "ขอเรียนว่าพวกเรามีวิธีคิด วิธีทำงาน ทีต่างจากที่รัฐบาลนี้ ทำมากว่า4 ปี เราให้ความสำคัญกับการสนับสนุน และกระจายรายได้ให้ธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก start up ตลอดจนเกษตรกรซึ่งเป็น "คนตัวเล็ก"  แต่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ เพราะการเพิ่มเงินในกระเป๋าของคนส่วนใหญ่เหล่านี้ จะสร้างกำลังซื้อภายในประเทศที่จะทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนเติบโตได้ต่อเนื่อง เรามั่นใจว่าเรามีวิธีที่จะสร้างโอกาส สร้างงาน สร้างรายได้ เพื่อเพิ่มเงินในกระเป๋าให้ประชาชนโดยตรง แบบไม่ใช่ให้แค่ผ่านมือคนจนไปสู่ธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น"

 

กระดูกคนละเบอร์!"หญิงหน่อย"พลาดเลย วิจารณ์บัตรสวัสดิการรัฐ เทียบ 30 บาท โดน"สมคิด"ต้นตำรับสอนมวยไม่พอ เจอ"ไก่อู" ถึงจุกอก??

 

บริบททางการเมืองส่วนนี้  ถึงแม้ว่าจะไม่มีการแยกแยะตีความ แต่โดยนัยก็สื่อพอให้เห็นภาพการแข่งขันเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้อย่างชัดเจนว่าจะเป็นไปในทิศทางใด  และบุคคลที่อยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อไทย อย่าง นายทักษิณ  ก็คงไม่ยอมให้  ดร.สมคิดในฐานะผู้สนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ  เดินเกมส์เรื่องนโยบายแต่เพียงฝ่ายเดียว  กลับกันที่ผ่านมาผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐก็ประกาศชัดว่ายังมีนโยบายเพื่อการพัฒนาประเทศ 20 ปีข้างหน้าอีกหลายมาตรการเป็นเป้าหมายให้สานต่อ  

 

 

ขณะที่โปรไฟล์ของดร.สมคิดเองก็ไม่ธรรมดา  นอกเหนือจากตำแหน่งหน้าที่หลัก ๆ ในภาคเอกชน  โดยเฉพาะ ตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)  ยังเป็นคีย์สำคัญการเข้าร่วมงานการเมืองในฐานะของผู้ได้รับการเชื้อเชิญให้เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร และวนเวียนอยู่ในตำแหน่งสำคัญอื่น ๆ โดยตลอด ทั้ง รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ   ,  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  จนกระทั่งสิ้นยุครัฐบาลทักษิณ หลังเหตุการณ์รัฐประหาร  19  ก.ย. 2549 

 

(ข้อมูลวิกิพีเดีย : ดร.สมคิด ได้ชื่อว่าเป็นขุนพลเศรษฐกิจคนสำคัญของรัฐบาลทักษิณ   โดยนโยบายประชานิยมหรือนโยบายเศรษฐกิจหลายอย่างก็มาจากแนวความคิดของ ดร.สมคิดเอง  ในระหว่างการทำงานการเมืองได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่มีภาพลักษณ์ดี  เพราะเก่งกาจ มีความเชี่ยวชาญสามารถคนหนึ่ง และได้ชื่อว่าบางครั้งก็ไม่ทำตามนโยบายหรือแนวทางของนายทักษิณกำหนดไว้เสมอไป)

 

 

ดังนั้นการที่ ดร.สมคิด ออกมากระแทกกลับ คุณหญิงสุดารัตน์  จึงน่าสนใจยิ่งในเนื้อหาถ้อยคำ  ถ้ามองในมิติการเมืองเชิงเทียบชั้น  "บัตรนี้มีประโยชน์ เพราะช่วยคนยากไร้ คนแก่  เราดูแลไม่ให้มีการรั่วไหล  มีการตรวจสอบคุณสมบัติของคนที่มีบัตรว่ายากไร้จริงหรือไม่  ไม่มีใครเขาเรียกบัตรคนจน มีแต่คุณหญิงสุดารัตน์ หาข้อมูลหน่อยนะครับ ทำการบ้านหน่อยนะ ถ้าจะทำ ก็พยายามทำให้ดีกว่าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วย"

 

กระดูกคนละเบอร์!"หญิงหน่อย"พลาดเลย วิจารณ์บัตรสวัสดิการรัฐ เทียบ 30 บาท โดน"สมคิด"ต้นตำรับสอนมวยไม่พอ เจอ"ไก่อู" ถึงจุกอก??

 

หนักกว่านั้น ก็คือคำอธิบายของ พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  โดยการออกมากล่าวถึงกรณีว่า รัฐบาลนี้ให้ผู้ถือบัตรคนจนรักษาฟรี เป็นการแบ่งแยกคนรวยคนจน ว่า     "คุณหญิงสุดารัตน์อาจจะไม่ได้ศึกษาจนเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าอะไรเป็นอะไร โดยมองปัญหาจากความคิดของตัวท่านเองเป็นหลัก เพราะมติ ครม.ที่ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรักษาฟรีนั้น  เป็นเพียงการแก้ไขเพิ่มเติมข้อความในกฎหมายให้ครอบคลุมผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการฯ ไม่ได้มีผลต่อสิทธิรับการรักษาที่ฟรีอยู่แล้ว และเมื่อดูจากเนื้อหาที่คุณหญิงสุดารัตน์เขียนก็น่าจะหวังผลทางการเมือง เพื่อลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาลมากกว่าที่จะเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับสังคม คล้ายกับที่ครั้งหนึ่งรัฐบาลเคยถูกกล่าวหาว่าจะยกเลิกโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ทั้ง ๆ ที่ไม่เป็นความจริง"

 

กระดูกคนละเบอร์!"หญิงหน่อย"พลาดเลย วิจารณ์บัตรสวัสดิการรัฐ เทียบ 30 บาท โดน"สมคิด"ต้นตำรับสอนมวยไม่พอ เจอ"ไก่อู" ถึงจุกอก??

 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังระบุด้วยว่า สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง หรือ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นเรื่องเดียวกันซึ่งพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำเสมอว่า คนไทยทุกคนที่ไม่ได้อยู่ในระบบราชการหรือประกันสังคมจะได้รับสิทธินี้  เป็นการรักษาฟรีด้วยคุณภาพที่ดีทัดเทียมกัน ไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ แต่หากใครมีกำลังพออยากจะร่วมจ่ายกับภาครัฐ