"มาร์ค" ยันร่วมมือ"พลังประชารัฐ" ต่อเมื่อปรับท่าทีการทำงาน-อยู่แบบเดิมคงยาก ยันร่วมกับใครต้องดูวิธีการทำงาน-นโยบาย


" นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" หัวหน้า ปชป. ยันจะร่วมมือกับ "พรรคพลังประชารัฐ" ต่อเมื่อ พปชร. ปรับท่าทีการทำงาน ต้องมาคุยกันว่า "นโยบายเราและเขาคืออะไร" ยังบริหารประเทศแบบรวมศูนย์ และไม่กระจายเศรษฐกิจแบบเดิมหรือไม่  ยันจะร่วมกับใครต้องดูวิธีการทำงาน-นโยบาย จะร่วมงานหรือไม่นั้นอยู่ที่นโยบาย ไม่ใช่เรื่องที่ว่า อยากเป็นรัฐบาล...จะไปจับอะไรกับใครก็ได้

 

วันนี้ (23 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พระลานพระราชวังดุสิต "นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ "นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์" ว่าที่เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุพร้อมร่วมมือกับพรรคการเมืองทุกพรรค ในส่วนของพรรค ปชป. พร้อมร่วมงานหรือไม่นั้นว่า  อยู่ที่นโยบาย ไม่ใช่เรื่องที่ว่า อยากเป็นรัฐบาลจะไปจับอะไรกับใครก็ได้ เพราะหากการเมืองเป็นอย่างนี้ประชาชนก็จะไม่ได้อะไร การเมืองต้องชัดเจนว่า รักคนมีความคิดว่า จะพัฒนาบ้านเมืองหรือแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างไร เพราะฉะนั้นหากพรรค พปชร.จะร่วมมือกับประชาธิปัตย์ ต้องมาคุยกันว่า นโยบายเรา และเขาคืออะไร หากวันนี้ พปชร. ยังยึดแนวทางการบริหารประเทศแบบรวมศูนย์ ไม่ทำให้เศรษฐกิจกระจาย ก็คงทำงานยาก คงต้องไปปรับท่าทีเยอะ เพราะขณะนี้ นโยบายที่เขาชูก็เป็นนโยบายที่สานต่อนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งประชาชนจำนวนมากยังเดือดร้อนอยู่ 

 

“ถ้าเขาไม่ปรับเปลี่ยนแนวคิดตรงนี้ก็คงเป็นปัญหา ผมย้ำทุกครั้งว่า ถ้าผมเป็นหัวหน้าพรรค ผมจะไม่เอาพรรคประชาธิปัย์ไปทำในสิ่งที่ขัดกับนโยบายที่พูดกับประชาชนไว้ ถ้ายาง ปาล์ม ประมง ยังเป็นอย่างนี้อยู่ แล้วเอาประชาธิปัตย์ไปร่วมรัฐบาล ผมไม่สามารถตอบคำถามประชาชนที่สนับสนุนประชาธิปัตย์ได้ ทำไมถึงจะไปเป็นรัฐบาลแล้วบริหารยาง ปาล์ม ประมงให้เป็นแบบนี้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว 


เมื่อถามถึงกรณีที่เคย ระบุว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ปรับท่าทีการทำงานก็สามารถร่วมทำงานด้วยได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แล้วเขาปรับหรือยัง สิ่งที่ตนพยายามจะสื่อสาร คือหากเราเริ่มต้นการเมืองด้วยการตั้งข้อรังเกียจ โดยไม่ดูที่มาที่ไป หรือจุดยืนแต่ละคนเป็นอย่างไรก็ไม่เป็นประโยชน์ ดังนั้นการที่คนพยายามเอาคำพูดของตนไปแปลความที่ไม่ตรงกับสิ่งที่สื่อออกไปก็คงไม่ใช่ แม้จะถามตนเรื่องพรรคเพื่อไทย ตนก็บอกแล้วว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ตั้งใจเป็นทางหลักของประเทศ จึงไม่ต้องมาถามตนว่า ต้องไปสนับสนุนใครหรือไม่ แต่ประชาธิปัตย์จะเสนอทางเลือกให้ประชาชนเป็นทางหลัก หากประชาชนสนับสนุนเราก็ต้องไปถามคนอื่นว่า จะมาร่วมกับเราหรือไม่ 


 

“นี่คือสิ่งที่ผมพูด และผมก็บอกว่า จะร่วมกับใครก็ต้องดูวิธีการทำงาน จุดยืน และนโยบาย หากเรามานั่งตอบเพียงว่า อย่างนั้นก็ได้ อย่างนี้ก็ได้ แล้วไม่สนใจเลยว่า จุดยืนเป็นอย่างไร การเมืองก็ไม่พัฒนา และพล.อ.ประยุทธ์เอง ขณะนี้เรายังไม่ทราบเลยว่า สถานะทางการเมืองของท่านเป็นอย่างไร หากท่านบอกว่า เป็นคนนอก ผมก็บอกว่า ยากที่ประชาธิปัตย์จะไปยกมือให้คนนอกเป็นนายกฯ เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่หากพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในบัญชีพรรคก็ต้องดูว่า พรรคไหน แล้วพรรคนั้นทำงานอย่างไร เพราะการเข้าไปอยู่ในบัญชีพรรค ก็คงมีข้อท้วงติงพอสมควรเหมือนกับ 4 รัฐมนตรีที่ถูกทวงติงอยู่ในขณะนี้ และหากมีการเลือกตั้งแล้วพรรค พปชร. ยังบริหารเศรษฐกิจแบบนี้ ผมคิดว่า ประชาธิปัตย์คงไม่ร่วมด้วย เพราะไม่ตอบโจทก์ประชาชนเลย”นายอภิสิทธิ์ กล่าว