พิษ"นายใหญ่"เล่นงาน! "เพื่อไทย" หลอนผวายุบพรรค เหตุคดีเก่า-คดีใหม่พันกันนัว แค่ตบเท้าพบ"ทักษิณ" ล่าสุดก็เหลือพอ

พิษ"นายใหญ่"! "เพื่อไทย" หลอนผวายุบพรรค เหตุคดีเก่า-คดีใหม่พันกันนัว แค่ตบเท้าพบ"ทักษิณ" ล่าสุดก็เหลือพอ

พิษ"นายใหญ่"! "เพื่อไทย" หลอนผวายุบพรรค เหตุคดีเก่า-คดีใหม่พันกันนัว แค่ตบเท้าพบ"ทักษิณ" ล่าสุดก็เหลือพอ


ดูเหมือนการปล่อยให้ลูกน้องภายในพรรคเพื่อไทย ตบเท้าเข้าพบตนเองซึ่งเปรียบเสมือน "นายใหญ่ของพรรค"  ของ "นายทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ ผู้หนีคดี ที่เกาะฮ่องกงเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา...จะพ่นพิษเสียแล้ว เมื่อแหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย ออกมาเปิดเผยเองว่า ขณะนี้สมาชิกพรรคฯ เริ่มกังวลต่อกระแสข่าวการยุบพรรค ที่แรงขึ้นเรื่อย ๆ กันแล้ว และถึงแม้พรรคฯ จะมีการนัดประชุมสมาชิก เพื่อเลือกหัวหน้า และกรรมการบริหารชุดใหม่ ในวันที่ 28 ต.ค. หรือปลายเดือนนี้แล้วก็ตาม...นั่นก็ไม่ทำให้คลายกังวลไปได้...เพราะกระแสนี้แรงขึ้นมาก...จนแทบจะติดลมบนไปแล้วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

ว่าไปแล้วเรื่องนี้โทษใครไม่ได้เลย เพราะหากจำได้การมาประชิดเมืองไทยของ  "ทักษิณ" และสั่งให้ลูกน้องตบเท้าเข้าพบเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เป็นไปอย่างโจ๋งครึ่มและอึกทึกครึกโครมเป็นอย่างมาก แถม "ผล" ของการเข้าพบ"นายทักษิณ" ก็กลับเป็นสมาชิกบางคนในพรรคเอง...ที่ออกมาให้ข่าวอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์นั้น


 

หลายคนตั้งข้อสังเกตด้วยซ้ำว่า...ใยคนเพื่อไทยจึงเดินเกมสุ่มเสี่ยงนัก เพราะการตบเท้าเข้าพบทักษิณเที่ยวหนนั้น แหล่งข่าวในพรรคฯ...ก็บอกเองว่า เป็นการมา "หย่าศึก" ภายใน หลังการประชุมของพรรคก่อให้เกิดปัญหา "แบ่งมุ้ง" ระหว่าง "พรรคเพื่อไทย" และ "เพื่อธรรม" ที่เคลียร์กันไม่ลงตัว และคนอื่นจัดการไม่ได้ รวมทั้งการไฟเขียวให้ "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" ขึ้นมาเป็นผู้นำ "พรรคเพื่อไทย" ในการเลือกตั้งครั้งหน้า หลังปล่อยให้สมาชิกพรรคฟาดฟันกันเองอยู่พักใหญ่นั่นด้วย


...เพียงแค่นั้นก็แทบจะเป็นใบเสร็จชั้นดี....ที่ทำให้สมาชิกพรรคเพื่อไทย...ควรแก่การหวาดผวาได้อยู่แล้ว เพราะทั้งหมดที่แหล่งข่าวปูดออกมาเองนั้น...ล้วนเป็นการเมืองระดับเข้มข้นทั้งสิ้น และกฎหมายพรรคการเมืองก็ห้ามไว้อย่างชัดเจน เหนืออื่นใดก็คือ ทุกครั้งที่ลูกพรรคเข้าพบทักษิณ พวกคีย์แมนหลัก ๆ ของพรรคจะออกมาปฏิเสธเรื่องนี้เสมอ เพราะรู้ว่ามันอาจเข้าข่ายต้องห้าม และอาจทำให้ถูกยุบพรรคได้ แต่รอบนี้ไม่ใช่ แม้จะมีเสียงปฏิเสธบ้างประปรายจากแกนนำบางคน แต่ก็ไม่หนักแน่นเท่าครั้งก่อนๆ

 

แต่นอกจากการตบเท้าพบนายใหญ่ดังกล่าว ทางเพื่อไทยยังหลอนจากคดีเก่า ที่ทั้งแกนนำและกรรมการบริหารพรรค 9 คน เจอข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. จัดกิจกรรมทางการเมืองจากการที่พรรคจัดให้มีการแถลงข่าวประเมินผลงาน 4 ปี รัฐประหารไปเมื่อกลางเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องนี้มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตร 116 และตามหลอนมาจนวันนี้

 

"ขณะนี้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดกรณี 3 แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางไปพบอัยการเพื่อขอความเป็นธรรม อัยการนัดฟังคำสั่งว่าจะฟ้องหรือไม่ในวันที่ 28 พ.ย. ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้คณะยุทธศาสตร์กังวลเป็นอย่างมาก  หากยึดตามกำหนดการเลือกตั้งเดิมในวันที่ 24 ก.พ. 2562 ช่วงเวลาที่สมาชิกต้องสังกัดพรรค 90 วันก่อนการเลือกตั้งจะตรงกับวันที่ 26 พ.ย.

 

“ถ้าวันที่ 28 พ.ย.ที่จะถึงนี้ คำสั่งออกมาในทิศทางลบ ไม่เพียงจะทำให้ปมประเด็นส่อเค้าการยุบพรรคใกล้ความจริงขึ้นมา ยังจะเลยกำหนดเส้นตายที่ผู้ประสงค์จะลงรับสมัครเลือกตั้ง จะไม่ทันต่อเงื่อนไขเวลา อาจทำให้ขาดคุณสมบัติการลงสมัครรับเลือกตั้ง” แหล่งข่าวเพื่อไทย เปิดเผยถึงความกังวลดังกล่าว พร้อมทั้งระบุว่า ตอนนี้แกนนำพรรคในสายตุลาการ และอัยการเก่า กำลังไล่เช็กข่าวกันให้วุ่นว่า แนวโน้มในวันที่ 28 พ.ย.จะออกมาในทิศทางใด เพราะทุกคนล้วนหวั่นวิตกไปหมด เหตุหากผลออกมา "ทางลบ" ซึ่งอาจหมายถึงการ "ยุบพรรค" ขณะที่การเลือกตั้งยังคงเป็น  24 ก.พ. 62 เช่นเดิม นั่นจะมีผลต่อการสังกัดพรรคใหม่ของกรรมการบริหารพรรคฯ คนที่หนีตายออกมาไม่ทันในทันที เพราะหากประสงค์จะลงรับสมัครเลือกตั้ง จะขาดคุณสมบัติเรื่องระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดแน่ ๆ  


จากนี้คงต้องจับตาดูว่า...องคาพยพทั้งหมดของพรรคเพื่อไทย...จะเดินเกมเรื่องนี้อย่างไร หลังเดินตามเกมนายใหญ่ใช้ยุทธศาสตร์  "แยกกันเดิน รวมกันตี" และยอมให้ทักษิณ โชว์เพาเวอร์ชี้นิ้วสั่ง แบบทะเล่อทะล่า จน กกต. เริ่มขยับเรื่องนี้อย่างจริง ๆ จังๆ เมื่อ 2 วันก่อน โดยเลขาฯ กกต.ถึงกับออกมาพูดเรื่องนี้ด้วยตนเอง และทำให้ "คนเพื่อไทย" หวาดผวา และปรับทุกข์กันเองอยู่ในตอนนี้