"เลขาฯ กกต." ยันเดินหาสมาชิกพรรคทำได้ แต่ต้องอยู่บนหลักความสงบเรียบร้อย เหตุมีข้อกฎหมายบังคับอยู่

"เลขาฯ กกต." ยันเดินหาสมาชิกพรรคทำได้ แต่ต้องอยู่บนหลักความสงบเรียบร้อย

"พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา" เลขาฯ กกต. ชี้พรรคการเมืองเดินพบปะประชาชนหาสมาชิกพรรคทำได้ แต่ยังไงก็ต้องดูที่เจตนา และต้องอยู่บนหลักความสงบเรียบร้อย เพราะบางเรื่องยังมีข้อกฎหมายอยู่ อย่าฝืนเพราะจะถูกยุบพรรคได้

 

วันนี้ (26 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ "พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา" เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมากล่าวถึง การเดินพบปะประชาชนของพรรคการเมือง เพื่อเชิญชวนรับสมัครสมาชิก หรือเลือกตั้งหัวหน้าพรรคที่กำลังเป็นที่ถูกกล่าวถึงอยู่ในขณะนี้ว่า ต้องดูข้อกฎหมาย หากเป็นการหาสมาชิกพรรคก็เป็นเรื่องจำเป็น เพราะต้องมีสาขาพรรคจึงจะส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งได้ จึงต้องหาสมาชิกให้ได้ ดังนั้น ต้องดูที่เจตนา เช่น บางพรรคมีการเลือกหัวหน้าพรรคก็ต้องมีกิจกรรม แต่ทั้งหมดต้องอยู่บนหลักความสงบเรียบร้อยด้วย เพราะการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองมีเรื่องของข้อกฎหมายอยู่ 

 

"การคลายล็อกสุดท้ายมี 7 ข้อ นอกนั้นต้องขออนุญาต ซึ่งทุกกลุ่มที่ทำกิจกรรมในขณะนี้ได้มีการแจ้ง กกต.ตามคำสั่ง คสช.ที่ 13 /2561 กำหนดให้พรรคการเมืองที่จะทำกิจกรรมดังกล่าวแจ้ง กกต.ทราบก่อน 5 วัน และให้ถือได้รับอนุญาต โดย กกต.เพียงรับทราบเท่านั้น ไม่ได้ไปตรวจสอบหรือเป็นการบอกว่ากิจกรรมที่จะมีการดำเนินการนั้นไม่เข้าข่ายเป็นกิจกรรมทางการเมืองที่ต้องห้าม พรรคการเมืองจึงต้องระมัดระวังซึ่งทางสำนักกิจการ พรรคการเมืองของ กกต.ก็จะมีการติดตามเก็บข้อมูลไว้เช่นกัน" เลขาฯ กกต. ระบุ ทั้งยังบอกด้วยว่า

 

ส่วนการพิจารณาเรื่อง "นายทักษิณ ชินวัตร" ครอบงำพรรคเพื่อไทยนั้นอยู่ในระหว่างการตรวจสอบหลักฐาน ทั้งนี้ในส่วนของ กกต.ก็ติดตามกระแสข่าวทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการมีพรรคสาขา ไปจนถึงการเจรจาแบ่งพื้นที่ โดยทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง และพยานหลักฐาน จึงฝากเตือนไปถึงพรรคการเมืองทุกพรรคว่า พ.ร.บ.พรรคการเมืองมีผลบังคับใช้แล้ว กรรมการบริหารพรรคต้องไปดูบทบัญญัติของกฎหมาย อย่าฝ่าฝืนกฎหมายที่จะทำให้ถูกยุบพรรค 


"สิ่งเหล่านี้พรรคการเมืองต้องหลีกเลี่ยง ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองอยากเตือนไปยังทุกพรรคการเมืองว่าอย่าทำผิดกฎหมายจนต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรค เช่น การจูงใจให้คนเป็นสมาชิก การให้บุคคลอื่นครอบงำพรรคการเมือง จะได้ไม่ถูกไต่สวนจนพรรคมีตำหนิ หรือถูกยุบจนไม่สามารถลงสู่สนามเลือกตั้งได้ ทั้งนี้ตนอยากให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งเชิงสร้างสรรค์ เพราะ กกต.ไม่ได้มุ่งหวังเอาผิดพรรคการเมืองใด แต่ทั้งหมดอยู่ที่พฤติกรรมของพรรคการเมืองนั้นๆ"  เลขาฯ กกต. ย้ำ