เปิดสัมพันธ์ "กาญจนาภา-หญิงอ้อ" แนบแน่นระดับต้องคดีด้วยกัน ล่าสุดโดนฟอกเงินกรุงไทยที่ "ลูกโอ๊ค" มีเอี่ยว

 

วันนี้มีข่าวใหญ่ทางการเมืองอยู่ชิ้น นั่นคือข่าวที่คู่สามี-ภรรยา "นายวันชัย และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน" เลขาฯ ส่วนตัวหญิงอ้อ" เบี้ยวนัดอัยการคดีฟอกเงินกรุงไทยรอบ 2 หลังเคยเบี้ยวนัดอัยการมาก่อนหน้า ขณะที่"นายมานพ ทิวารี" บิดาของ "น.ต.ศิธา ทิวารี" อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่โดนคดีนี้อยู่ด้วยก็หายหน้าเช่นกัน แต่อ้างว่าติดธุระที่เยอรมัน และอัยการยอมเลื่อนให้พบออกไปเป็น 29 พ.ย.นี้

 

นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องนี้ทันทีว่า วันนี้ผู้ต้องหาทั้ง 3 ไม่ได้เดินทางมาพบอัยการตามนัดหมาย โดยนายมานพ ได้ส่งสำเนาตั๋วเครื่องบินไปเมืองฮัมบรูกส์ ประเทศเยอรมัน พร้อมหนังสือขอเลื่อนนัดมายืนยันว่า จะมาพบอัยการในวันที่ 29 พ.ย.นี้ อัยการพิจารณาแล้วกรณีมีเหตุสมควร จึงอนุญาตให้เลื่อน  ส่วนนางกาญจนาภา และนายวันชัย สามีนั้น ไม่มาพบอัยการโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ซึ่งทั้ง 2 ไม่ได้มาพบอัยการตามนัดเป็นครั้งที่ 2 และอัยการจะประสานไปยังดีเอสไอ ให้ติดตามตัวมาพบอัยการเพื่อส่งตัวฟ้องโดยเร็ว ตามคำสั่งฟ้องข้อหาร่วมฟอกเงินและสมคบฟอกเงินในการรับโอนเช็ค จำนวน 26 ล้านบาท" 

 

ถ้อยแถลงของ รองโฆษกฯ อัยการสูงสุด ระบุชัดว่า 2 สามี-ภรรยาหงษ์เหิน ไม่แจ้งเหตุขัดข้องที่ไม่ได้มาพบอัยการตามนัด นั่นถือว่ามีนัยยะสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนี่ถือเป็นการเบี้ยวนัดเป็นครั้งที่ 2 และส่อว่าทั้งคู่อาจหายเงียบเข้ากลีบเมฆไปเช่นนายใหญ่-นายหญิงน้อยยิ่งลักษณ์ก็เป็นได้

อย่าลืมว่าคดีนี้มี...ผู้ถูกกล่าวหาอีกคนคือ "นายพานทองแท้ ชินวัตร" ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนายทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ซึ่งถูกฟ้องฐานรับเช็คจำนวน 10 ล้านบาท ที่จ่ายออกมาพร้อม ๆ กับเช็ค 26 ล้านบาทที่นางกาญจนภา และสามีหนีนัดอัยการวันนี้

 

และเป็นที่รับรู้กันทั่วว่า นางกาญจนภานั้น ไม่ใช่เลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมานเฉกเช่นเลขานุการทั่ว ๆ ไป  เพราะเธอได้รับความไว้วางใจจากผู้เป็นนายค่อนข้างมาก กระทั่งยังนั่งเป็นกรรมการบริหารของหลาย บริษัทในเครือชินคอร์ป และเป็นผู้ดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารกฎหมายต่างๆ รวมทั้งเกี่ยวกับการโอน และซื้อขายหุ้น บริษัท ชิน คอร์ป และบริษัท เอสซี แอสเสท จำกัด ในส่วนของคุณหญิงพจมาน และนายทักษิณมาตลอด

 

นางกาญจนภา กระทำหลายเรื่องแทนนาย กระทั่งตกเป็นจำเลยร่วมกับผู้เป็นนายในคดีร่วมกัน จงใจหลีกเลี่ยง การชำระภาษีอากร หุ้นบริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) 546 ล้านบาท  กระทั่งองค์คณะผู้พิพากษา ศาลอาญา ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีนี้เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2551 และสั่งจำคุกจำเลยทั้งคู่เป็นเวลา 2 ปี ก่อนที่ทนายความของจำเลย จะยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 8 ล้านบาท เพื่อขอประกันตัวสู้คดี ในชั้นอุทธรณ์ และต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกฟ้องเมื่อปี 2554 ระบุเพราะไม่เข้าองค์ประกอบความผิด และเรื่องนี้ดูจะถูกตัดจบ...เมื่ออัยการยืนยันว่า...ไม่ฏีกา

อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นคดีที่ นางกาญจนภาถูกฟ้องร่วมกับผู้เป็นายและจบไปแล้ว เมื่ออัยการยืนยันว่า...ไม่ฏีกา ส่วนคดีเช็ค 26 ล้านที่เธอและสามีเบี้ยวนัดอัยการวันนี้ คงต้องรอดูว่า เรื่องนี้จะมีปลายทางเช่นไร เพราะทางอัยการก็ยืนยันว่า "จะประสานไปยังดีเอสไอ ให้ติดตามตัวมาพบอัยการเพื่อส่งตัวฟ้องโดยเร็ว" แต่หลายฝ่ายก็ยืนยันว่า...นั่นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะคดีของเธอเกี่ยวพันไปถึงคดีนายพานทองแท้...ซึ่งถือว่ามีความสำคัญยิ่งกับครอบครัวชินวัตร และการหายไปในครั้งนี้อาจถือเป็นความจงใจ เพราะการอยู่หรือไม่อยู่ของเธอ...จะส่งผลโดยตรงต่อ "คดีลูกโอ๊ค" แน่